1. ความบอบบางของแอร์ Inverter
ผมใช้แอร์ Daikin Inverter ขนาด 9000 btu สำหรับห้องนอนขนาดน่าจะไม่เกิน 10 ตรม. และ 12000 btu สำหรับห้องนั่งเล่นขนาดประมาณ 18 ตรม. ใช้มาประมาณ 4-5 ปี ประมาณปีที่ 4 เกิดอาการแอร์ห้องนั่งเล่นขนาด 12000 btu ไม่เย็น มีแต่ลมร้อนเป่าออกมา ผมจึงลอง search หาข้อมูลว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง พบว่าส่วนใหญ่บอกว่าเกิดจากไฟตก หรือตัว electronic coil ของ expansion valve เกิดสนิมทำให้เปิดปิดวาล์วไม่ได้ ทำให้โหลดไปตกที่แผงวงจร (อันนี้ผมไม่แน่ใจว่ามันทำให้วงจรเสียได้อย่างไร แต่เห็นกระทู้ส่วนใหญ่บอกว่าเกี่ยวข้องกัน) เจ้าตัว electronic coil ของ expansion valve นี่ราคาไม่เท่าไหร่ แค่สองร้อยกว่าบาท แต่เจ้าแผงวงจร inverter นี่สามพันปลายๆ นะจ้ะ (ไม่รวมค่าแรงช่าง)
สำหรับแอร์ไดกิ้น มีวิธีเช็ค Error code ได้จากรีโมทแอร์ โดยการกดปุ่ม cancel ค้างไว้จนกระทั่งหน้าจอกระพริบ จากนั้นเรากดปุ่ม cancel ไปเรื่อยๆ ถ้าได้ยินเสียงตี๊ดดดดยาวๆ ที่ code ใดก็แสดงว่าเป็น error code นั้น แล้วเอาไปเทียบดูในตารางว่ามันคืออาการเสียจากอะไร
ลองไปดูคำอธิบายของแต่ละ code ได้ตามลิงก์นี้ครับ -->
https://coolautomation.com/blog/daikin-error-and-fault-codes-troubleshooting/

ส่วนใหญ่ error code ที่พบคือ U2 ซึ่งเขาอธิบายว่าสาเหตุมาจากระบบจ่ายไฟฟ้าบกพร่อง (Defect of power supply voltage or instantaneous power failure) ซึ่งเจ้าตัวที่ทำหน้าที่จ่ายไฟคือแผงวงจร inverter นี่ล่ะ ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากการที่ไฟฟ้าตกบ่อยๆ (แต่ที่ที่ผมอยู่ก็ไฟตกน้อยมากๆ ผมอยู่ลาดพร้าวใกล้ๆ ยูเนี่ยนมอล) อีกสาเหตุที่ได้ยินหลายๆ ท่านพูดคือ เวลาที่เราให้ช่างมาล้างแอร์ (คอยล์ร้อน) แล้วน้ำกระเซ็นไปโดนแผงวงจร ซึ่งจริงๆ มันมีแต่แผ่นโฟมปิดไว้เอง ไม่ได้มีอะไหล่ห่อหุ้มที่ดีๆ แต่อย่างใด อันนี้ระวังมากๆ นะเวลาที่ล้างแอร์
2. ค่าบริการจากศูนย์ Daikin (อยู่แถวๆ อ่อนนุช 55/1)
เวลาเราแจ้งซ๋อมกับทางศูนย์ผ่าน App Daikin (จากนั้น call center จะโทรมาคอนฟริ์มนัดตามที่เราระบุไป) เขาจะคิดค่าบริการในการตรวจเซ็ค ย้ำนะ!!!! ว่าแค่ตรวจเซ็ค ไม่รวมค่าแรงซ่อมแต่อย่างใด เครื่องละ 600 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่อให้คุณมีสองเครื่องในห้องๆ เดียวกัน ก็คิดเครื่องละ 600 บาท ถ้าคุณมีสี่เครื่องก็ 2400 บาท เอากับเขาสิ!!
อีกอย่างที่เจอมาสองครั้งแล้วคือ อันนี้ขอตำหนิการให้บริการมากๆ คือ ต่อให้เราแจ้ง Error code U2 (ซึ่งน่าจะพบบ่อยที่สุด) และย้ำกบั Call center ว่าให้ประสานงานกับทีมช่างให้เตรียมอะไหล่สำหรับเปลี่ยนมาให้พร้อม แต่สุดท้ายที่เจอคือ ช่างเข้ามาหน้างานตัวเปล่า ตรวจสอบไม่เกิน 30 นาที (แต่ในใบงานเขียน 3 ชั่วโมง เดินทาง 1 ชั่วโมง) ก็กลับ รับเงิน 600 บาทต่อเครื่อง (ของผมสองเครื่อง โดนไป 1284 บาทรวม Vat 7%) โดยที่แอร์ก็ยังเสียเหมือนเดิม ไม่ได้ซ่อมอะไรแต่อย่างใด

สรุป
ครั้งหนึ่งผมจ้างช่างมาล้างแอร์ที่บ้าน แล้วช่างบอกว่าอย่าไปใช้เลยแอร์ inverter เสียง่าย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูง ณ ตอนนั้นผมก็เถียงช่างอยู่ในใจว่า inverter สิดีกว่า ประหยัดไฟกว่า ถึงราคาจะแพงกว่าแอร์ทั่วไปเกือบเท่าตัวก็เถอะ แต่ไม่นานก็น่าจะคุ้มทุน
ณ ตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วว่าผมคิดถูก เพราะค่าใช้จ่ายที่ตามมา ครั้งหนึ่งห้าหกพัน ความเปราะบางของแผงวงจร และการให้บริการของศูนย์บริการ ที่ผมไม่พอใจอย่างยิ่ง เดิมทีผมรู้สึกดีต่อแบรนด์นี้ แต่ตอนนี้ถ้าซื้อเครื่องใหม่ ผมคงไม่เลือก Diakin แล้ว
ใครใช้แอร์ Daikin inverter ประสบปัญหาเดียวกันหรือไม่
ผมใช้แอร์ Daikin Inverter ขนาด 9000 btu สำหรับห้องนอนขนาดน่าจะไม่เกิน 10 ตรม. และ 12000 btu สำหรับห้องนั่งเล่นขนาดประมาณ 18 ตรม. ใช้มาประมาณ 4-5 ปี ประมาณปีที่ 4 เกิดอาการแอร์ห้องนั่งเล่นขนาด 12000 btu ไม่เย็น มีแต่ลมร้อนเป่าออกมา ผมจึงลอง search หาข้อมูลว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง พบว่าส่วนใหญ่บอกว่าเกิดจากไฟตก หรือตัว electronic coil ของ expansion valve เกิดสนิมทำให้เปิดปิดวาล์วไม่ได้ ทำให้โหลดไปตกที่แผงวงจร (อันนี้ผมไม่แน่ใจว่ามันทำให้วงจรเสียได้อย่างไร แต่เห็นกระทู้ส่วนใหญ่บอกว่าเกี่ยวข้องกัน) เจ้าตัว electronic coil ของ expansion valve นี่ราคาไม่เท่าไหร่ แค่สองร้อยกว่าบาท แต่เจ้าแผงวงจร inverter นี่สามพันปลายๆ นะจ้ะ (ไม่รวมค่าแรงช่าง)
สำหรับแอร์ไดกิ้น มีวิธีเช็ค Error code ได้จากรีโมทแอร์ โดยการกดปุ่ม cancel ค้างไว้จนกระทั่งหน้าจอกระพริบ จากนั้นเรากดปุ่ม cancel ไปเรื่อยๆ ถ้าได้ยินเสียงตี๊ดดดดยาวๆ ที่ code ใดก็แสดงว่าเป็น error code นั้น แล้วเอาไปเทียบดูในตารางว่ามันคืออาการเสียจากอะไร
ลองไปดูคำอธิบายของแต่ละ code ได้ตามลิงก์นี้ครับ --> https://coolautomation.com/blog/daikin-error-and-fault-codes-troubleshooting/
ส่วนใหญ่ error code ที่พบคือ U2 ซึ่งเขาอธิบายว่าสาเหตุมาจากระบบจ่ายไฟฟ้าบกพร่อง (Defect of power supply voltage or instantaneous power failure) ซึ่งเจ้าตัวที่ทำหน้าที่จ่ายไฟคือแผงวงจร inverter นี่ล่ะ ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากการที่ไฟฟ้าตกบ่อยๆ (แต่ที่ที่ผมอยู่ก็ไฟตกน้อยมากๆ ผมอยู่ลาดพร้าวใกล้ๆ ยูเนี่ยนมอล) อีกสาเหตุที่ได้ยินหลายๆ ท่านพูดคือ เวลาที่เราให้ช่างมาล้างแอร์ (คอยล์ร้อน) แล้วน้ำกระเซ็นไปโดนแผงวงจร ซึ่งจริงๆ มันมีแต่แผ่นโฟมปิดไว้เอง ไม่ได้มีอะไหล่ห่อหุ้มที่ดีๆ แต่อย่างใด อันนี้ระวังมากๆ นะเวลาที่ล้างแอร์
2. ค่าบริการจากศูนย์ Daikin (อยู่แถวๆ อ่อนนุช 55/1)
เวลาเราแจ้งซ๋อมกับทางศูนย์ผ่าน App Daikin (จากนั้น call center จะโทรมาคอนฟริ์มนัดตามที่เราระบุไป) เขาจะคิดค่าบริการในการตรวจเซ็ค ย้ำนะ!!!! ว่าแค่ตรวจเซ็ค ไม่รวมค่าแรงซ่อมแต่อย่างใด เครื่องละ 600 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่อให้คุณมีสองเครื่องในห้องๆ เดียวกัน ก็คิดเครื่องละ 600 บาท ถ้าคุณมีสี่เครื่องก็ 2400 บาท เอากับเขาสิ!!
อีกอย่างที่เจอมาสองครั้งแล้วคือ อันนี้ขอตำหนิการให้บริการมากๆ คือ ต่อให้เราแจ้ง Error code U2 (ซึ่งน่าจะพบบ่อยที่สุด) และย้ำกบั Call center ว่าให้ประสานงานกับทีมช่างให้เตรียมอะไหล่สำหรับเปลี่ยนมาให้พร้อม แต่สุดท้ายที่เจอคือ ช่างเข้ามาหน้างานตัวเปล่า ตรวจสอบไม่เกิน 30 นาที (แต่ในใบงานเขียน 3 ชั่วโมง เดินทาง 1 ชั่วโมง) ก็กลับ รับเงิน 600 บาทต่อเครื่อง (ของผมสองเครื่อง โดนไป 1284 บาทรวม Vat 7%) โดยที่แอร์ก็ยังเสียเหมือนเดิม ไม่ได้ซ่อมอะไรแต่อย่างใด
สรุป
ครั้งหนึ่งผมจ้างช่างมาล้างแอร์ที่บ้าน แล้วช่างบอกว่าอย่าไปใช้เลยแอร์ inverter เสียง่าย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูง ณ ตอนนั้นผมก็เถียงช่างอยู่ในใจว่า inverter สิดีกว่า ประหยัดไฟกว่า ถึงราคาจะแพงกว่าแอร์ทั่วไปเกือบเท่าตัวก็เถอะ แต่ไม่นานก็น่าจะคุ้มทุน
ณ ตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วว่าผมคิดถูก เพราะค่าใช้จ่ายที่ตามมา ครั้งหนึ่งห้าหกพัน ความเปราะบางของแผงวงจร และการให้บริการของศูนย์บริการ ที่ผมไม่พอใจอย่างยิ่ง เดิมทีผมรู้สึกดีต่อแบรนด์นี้ แต่ตอนนี้ถ้าซื้อเครื่องใหม่ ผมคงไม่เลือก Diakin แล้ว