สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ตอบแบบมืออาชีพเลยไหมครับ
(จากการตั้งคำถาม ไม่เชี่ยวชาญในธุรกิจแน่นอน)
ธุรกิจจริง มีการขาดทุน กำไรเป็นปกติ
กำไรที่ติดต่อกันไม่เกินสามปี
หรือขาดทุนติดต่อกันไม่เกินสามปี นี้คือสิ่งปกติ
ถ้าดีกว่านี้ คือ การประกอบการดีมาก
ถ้าแย่กว่านี้ คือการประกอบการด้อยมาก
สมมติบริษํทใหญ่ ปีนี้ขาดทุนพันล้าน ปีหน้ากำไรหมื่นล้าน อันนี้ไม่แปลก เรื่องปกติ เราดูกำไรสะสม
ถ้าขาดทุนติดต่อกันสามปีนี้สิ อันนี้วิกฤติ
บริษัทที่เจ๊ง ๆ* นั้นคือขาดทุนสะสมต่างหาก จึงไม่มีเงินสำรองและยุบไป
_____
มาถึงคำตอบ
จะบริษทเล็ก กำไรล้านเดียวหรือบริษัทใหญ่ขาดทุนพันล้าน
ไม่แปลกเลยครับ ขอแค่ปีหน้ากำไรพันห้าร้อยล้านก็พอ จบ ง่าย ๆ ไม่มีอะไร
ถ้าคุณคิดว่าทำธุรกิจจะไม่มีขาดทุนสักปีเลย อันนั้นคือทำไม่เป็นครับ >> ชาวบ้าน มองแค่ตัวเลข แน่นวล*
(จากการตั้งคำถาม ไม่เชี่ยวชาญในธุรกิจแน่นอน)
ธุรกิจจริง มีการขาดทุน กำไรเป็นปกติ
กำไรที่ติดต่อกันไม่เกินสามปี
หรือขาดทุนติดต่อกันไม่เกินสามปี นี้คือสิ่งปกติ
ถ้าดีกว่านี้ คือ การประกอบการดีมาก
ถ้าแย่กว่านี้ คือการประกอบการด้อยมาก
สมมติบริษํทใหญ่ ปีนี้ขาดทุนพันล้าน ปีหน้ากำไรหมื่นล้าน อันนี้ไม่แปลก เรื่องปกติ เราดูกำไรสะสม
ถ้าขาดทุนติดต่อกันสามปีนี้สิ อันนี้วิกฤติ
บริษัทที่เจ๊ง ๆ* นั้นคือขาดทุนสะสมต่างหาก จึงไม่มีเงินสำรองและยุบไป
_____
มาถึงคำตอบ
จะบริษทเล็ก กำไรล้านเดียวหรือบริษัทใหญ่ขาดทุนพันล้าน
ไม่แปลกเลยครับ ขอแค่ปีหน้ากำไรพันห้าร้อยล้านก็พอ จบ ง่าย ๆ ไม่มีอะไร
ถ้าคุณคิดว่าทำธุรกิจจะไม่มีขาดทุนสักปีเลย อันนั้นคือทำไม่เป็นครับ >> ชาวบ้าน มองแค่ตัวเลข แน่นวล*
แสดงความคิดเห็น
ระหว่างบริษัทใหญ่ขาดทุนปีละหลายพันล้าน กับบริษัทเล็กกำไรปีละ 2-3 ล้าน ใครน่าอิจฉากว่ากันคะ
แต่ใส่เงินเท่าไหร่ ก็เหมือนน้ำซึมบ่อทราย
ธุรกิจเสี่ยงสูงกำไรสูง ขาดทุนปีนึงหลักพันล้าน เปลี่ยนผู้บริหารก็แล้ว ยังไม่ดีขึ้น
บางที นอนอยู่บ้านเฉยๆ ยังกำไรซะกว่า
กับอีกบริษัทนึง เล็กๆ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวา
ทำทั้งปีกำไรแค่ 2-3 ล้าน โอกาสรวยเป็นกอบเป็นกำก็ยาก แต่ไม่เคยขาดทุน
พี่ๆคิดว่า บริษัทไหนน่าอิจฉากว่ากัน
ถ้าเลือกได้ อยากเป็นแบบไหนมากกว่าคะ