มาตรการ ศบค. สำหรับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลฉบับเต็มออกแล้ว ใครจะเข้าสนามบอล ต้องตรวจโควิดทุกคน ทุกนัด

นอกจากนั้น พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวถึงการตรวจโควิด-19 ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. บรรจุในคู่มือ ว่า สำหรับผู้ที่จะเข้าสนามแข่งขัน ต้องตรวจโควิดก่อน 72 ชม. โดยมีใบตรวจยืนยันในวันแข่ง และตรวจในทุกๆ นัด ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอล, โค้ช, เจ้าหน้าที่, ผู้ตัดสิน, ผู้ควบคุมการแข่งขัน, โฆษกสนาม, วีไอพี, สื่อมวลชน, ทีมถ่ายทอดสด ฯลฯ โดยทุกคนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง เพราะสมาคมฯ ก็ประสบปัญหาการเงิน โดย สมาคมฯ ประสานกับหน่วยงานรัฐในการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือ บัตรทอง เพราะเข้าเกณฑ์ที่ว่าใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ นอกจากนี้  บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มตราช้าง มีห้องแลปตรวจเชื้อให้พนักงานที่สโมสรราชพฤกษ์ เสนอให้ใช้ตรวจที่นั่นได้ ราคาคนละ 1,000 บาท ลดลงจากการตรวจที่โรงพยาบาล 3,000 บาท ต่อคน ขณะเดียวกัน มีบริษัทเอกชนเข้ามาคุยเสนอราคาด้วย

... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/sports/783992?fbclid=IwAR3zAzkdvXVJG3Wv8jAUWMGqwtTQvU7iqnpSE97VkMIZzqzhoB8HzDrwsko

----------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าเกิดว่า 2 นัดแข่งห่างกันไม่เกิน 72 ชั่วโมง ใช้ใบเดิมได้เลย แต่ถ้าเกิน ต้องตรวจใหม่ทุกครั้ง ต้องบอกว่าหนักจริงๆ ครับสำหรับมาตรการของ ศบค ที่ออกมาครั้งนี้ ใช้กับทุกกีฬาด้วยนะครับ เพียงแต่กีฬาอื่นอาจจะมีเรื่องของ Travel Bubble มาช่วย (เช่นสมมติแข่งกอล์ฟ ตรวจก่อนเข้ามาแข่ง 3 วัน พอเข้าแข่งปุ๊บห้ามออกไปไหน ตีกอล์ฟเสร็จเข้าพักในรีสอร์ตของสนาม ห้องใครห้องมัน ถือว่าอยู่ใน Alternative State Quarantine ไปในตัว แบดมินตันก็เช่นกัน ส่วนมวย มี พรบ. มวยมาเว้นให้อยู่แล้วว่า 1 ไฟต์พัก 21 วัน แต่ต้องกักตัวก่อน 14 หลัง 14 อยู่ดี ดังนั้นนักมวยถ้าชกทุก 21 วันอาจจะไม่ได้ออกจากค่ายเลย) ก็เป็นอันว่าตามนี้นะครับ และตอนนี้ยังไม่มีนักฟุตบอลคนไหนที่ได้ไปตรวจโควิดมา ดังนั้นก็เลยยังแข่งไม่ได้ด้วยประการฉะนี้   ส่วนนักข่าว ใครอยากเข้าไปทำข่าว ต้องตรวจโควิดทุกคน ถ้าต้นสังกัดไม่ออกให้ก็ตายหยังเขียด คัดกรองพวกสื่อเล็กๆ สื่อออนไลน์ที่ทุนไม่เยอะออกไปเลยล่ะครับ