หนุ่มหนุ่มหมั้นกันได้? สาวสาวหมั้นกันได้? ถ้ากฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน

พอดีอ่านข่าวไปเรื่อยๆ แล้วไปเจอข่าวที่ว่ามีการสนับสนุนให้คู่รักเพศเดียวกันโดยการตัดคำว่าชายหญิงออกแล้วใส่คำว่าบุคคลแทน
อ้างแล้ว ข่าวไทยพีบีเอส
 
ตอนแรกก็ไม่ได้แปลกใจอะไรหรอก เพราะแนวคิดนี้ไม่ใช่ของใหม่ และที่แล้วมาข้าพเจ้าอ่านผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร ใครจะแต่งอะไรกับใครอย่างไรก็เป็นเรื่องของคนอื่นเขา แต่พอดีคราวนี้อ่านลึกลงไปในรายละเอียดเท่านั้นแหละ ข้าพเจ้าถึงกับงง เพราะในเนื้อหาให้ครอบคลุมถึงการหมั้นกันด้วย
 
บอกตามตรงตั้งแต่เกิดมาข้าพเจ้าไม่เคยเห็นผู้หญิงกับผู้หญิงหรือผู้ชายกับผู้ชายหมั้นกันมาก่อนเลยรู้สึกแปลกใหม่...ซึ่งคำว่า”แปลกใหม่”ที่เกิดจากการเข้าไปรับรู้ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่แค่ด้านวัฒนธรรมนะ แต่รู้สึกแปลกใหม่ในหลายๆ เรื่องทีเดียว   
 
เรื่องที่ ๑ ลองสมมติสถานการณ์เล่นๆ กันเถิด
 
ข้าพเจ้า  “เออ...ไอ้เอก ได้ยินว่าน้องก.ห้อง๖/๘ เขาแอบชอบเอ็งนี่ ไม่สนเธอบ้างหรือ?”
 
ไอ้เอก     “ก็สนใจอยู่ แต่ข้ามีคู่หมั้นแล้ว ไปยุ่งไม่ได้หรอก เดี๋ยวแม่ตีตาย”
 
ข้าพเจ้า   “อ้าว? เอ็งมีคู่หมั้นแล้วหรือ? หมั้นตั้งเมื่อไหรวะ ทำไมข้าไม่รู้”
 
ไอ้เอก      “หมั้นตั้งแต่เด็กแล้ว พอดี พ่อข้ากับแม่เขารู้จักกัน”
 
ข้าพเจ้า    “เออ...ก็ดีนี่  โรแมนติกดี พ่อเอ็งคิดการไกลดีนะ หาคู่เผื่อให้ลูกด้วย วันหลังแนะนำข้ารู้จักบ้างสิ ข้าอยากเห็นหน้าคู่หมั้นเอ็งจัง”
 
”จริงๆ เอ็งก็รู้จักอยู่นะ”  ไอ้เอกทำหน้าหน่ายๆ  “ก็ไอ้โทห้อง๙ ไง นั่นแหละคู่หมั้นข้า”
 
ข้าพเจ้า    “............................................................”
 
 
 
เรื่องที่ ๒ จริงๆ แล้ว รัฐไทยก็มีช่องทางให้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่นะ
 
อาจเป็นเพราะข้าพเจ้าไม่ใฝ่รู้ก็เป็นได้ เพราะข้าพเจ้าก็เพิ่งจะรู้ว่ามีช่องทางในการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.มาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญด้วย ที่แล้วมาเลยไม่ได้ไปเปิดดู ถ้าไม่อ่านเจอข่าวเรื่องนี้ ก็คงไม่ใส่ใจ และก็คงจะปล่อยเลยๆ เหมือนเดิม
 
จากเท่าที่ข้าพเข้าไปดู ส่วนใหญ่ไม่ใคร่จะเห็นใครไปลงทะเบียนเสนอความคิดกันเลยนะ อาจจะเป็นเพราะประชาชนไม่ใฝ่รู้ หรือเป็นเพราะราชการไม่ส่งเสริมก็ไม่อาจทราบได้ อย่างร่างพ.ร.บ.รับราชการทหารของท่านรังสิมันต์ โรม ก็ดูน่าสนใจดี เพราะเปลี่ยนจาก”หน้าที่” ให้เป็น “สิทธิ” และข้าพเจ้าก็ไปลงทะเบียนโดยการ”ไม่เห็นด้วย”ที่จะเป็นจาก”หน้าที่”ให้เป็น”สิทธิ” แต่เห็นด้วยในเรื่องยกเลิก”พลทหารรับใช้”ตามบ้านนาย เพราะพลทหารควรจะเป็นกำลังของชาติไทย ไม่ใช่เอางบประมาณไปผลาญเพื่อไปสร้างคนรับใช้นายให้เสียของ
 
เรื่องที่ ๓ สาววายกับเพศที่สามจัดเป็นกลุ่มการเมืองที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
 
จะว่าข้าพเจ้าตกยุคหรือล้าหลังก็ได้นะ แต่เรื่องสาววายกับเรื่องเพศที่สาม จัดเป็นสิ่งไกลตัวจากข้าพเจ้าเหลือเกิน จริงอยู่ว่าข้าพเจ้ามีลูกน้องหรือลูกพี่ลูกน้องเป็นเพศที่สามบ้าง แต่เขาก็อยู่ส่วนเขา เราไม่เคยเกี่ยวกันไปถึงเรื่องส่วนตัว อีกอย่างถ้าไม่ตามข่าวสารหรืออ่านความคิดจากต่างประเทศเกี่ยวประเทศไทย ละครไทย ข้าพเจ้าจะไม่รู้ว่าในเมืองมีกลุ่มสาววายหรือว่าเมืองไทยดังในเรื่องเพศที่สามเลย
 
และสิ่งที่ข้าพเจ้าไปเจอในการแสดงความเห็นต่อร่างพ.ร.บ.คือเรื่องนี้แหละ
 
ในขณะที่พ.ร.บ.รับราชการทหาร ที่พวกเสรีเกินนิยมกับพวกหนุ่มๆ ไม่อยากเหนื่อยบ่นๆ กัน มีผู้ไปแสดงความคิดเห็นแค่ ๒,๕๐๐ กว่า แต่พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับความมั่นคงของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กลับมีคนไปแสดงความเห็นเกือบจะ ๕๐,๐๐๐ ความเห็น (ในนี้มีความเห็นของข้าพเจ้าด้วยนะ เพราะถือว่าไหนๆ ก็เข้าไปดูแล้ว ก็ขอใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยสักหน่อย)
 
ตอนที่ลงเลขบัตรประชาชนแล้วสรุปตัวเลขจำนวนผู้มาแสดงความเห็นขึ้นมาเท่านั้นแหละ ข้าพเจ้าถึงกับร้องอื้อหือ.....ในใจเลยทีเดียว
 
และความอื้อหือ...นี้ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกไม่แปลกใจสิ่งที่เกิดกับเรื่องที่ ๔ เลย
 
เรื่องที่ ๔ ความขัดแย้งในการเมืองในเมืองไทยยังเป็นแค่เรื่องวิวาททางวาทะเท่านั้นเอง
 
หากท่านไปอ่านความเห็นตามกระทู้พันทิป ยูทูปหรือทวิตเตอร์ ท่านจะสังเกตได้ถึงความเร่าร้อนรุนแรงทางการเมืองได้เป็นอย่างดี เช่น เกลียดลุง ก็ด่าไปถึงโคตรลุง  ไม่ชอบทหาร ก็ด่าระบบว่าไม่ดี พอพ้นจากหน้าจอกับแป้นพิมพ์แล้ว ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ลุงท่านก็ทำตัวแบบลุงๆ เหมือนเดิม ทหารก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงระบบอะไรทั้งสิ้น 
 
ตอนแรกข้าพเจ้าก็คิดว่าเสียงเราไปไม่ถึง หรือ พวกข้างบนๆ หน้าเป็นกันแน่  แต่ตอนนี้ข้าพเจ้าชักจะรู้ว่า จริงๆ แล้วช่องทางมันมีอยู่ แต่เป็นเพราะประชาชนไม่ใส่ใจ และมัวเอาเสียงไปส่งผิดที่ผิดทาง เสียงของพวกเราเลยไปไม่ถึงพวกเขา 
 
(จริงๆ ก็พวกข้างบนๆ คงจะรู้แหละว่าโดนด่า แต่ก็แค่คำด่าที่ไม่มีผลอะไรมากกว่าเสียงด่า ก็เลยไม่ใส่ใจห่ะอะไรเลย) 
 
ซึ่งจากการไปอ่านบทความต่างๆ ข้าพเจ้าถึงได้รู้ว่ากว่าส.ส.หัวก้าวหน้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะมีอำนาจในฐานะผู้แทนของประชาชน แต่กว่าพวกเขาจะนำความเห็นของประชาชนมาร่างเป็นพ.ร.บ. และกว่าจะเข็นร่างพ.ร.บ.เข้าสู่การพิจารณาแต่ละวาระได้ ไม่เพียงจะต้องใช้เวลา สำนวนภาษาในการขัดเกลา สรุปประเด็นทางกฎหมาย ยังจะต้องฝ่าด่านพวกส.ส.ที่เห็นแต่ผลประโยชน์ตนตั้งหลายด่านกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างให้ประชาชนจับต้องได้
 
ดังนั้นในเมื่อรู้แล้วว่าช่องทางมี และพวกส.ส.เหล่านี้พร้อมจะเป็นตัวแทนของเราในรัฐสภา ก็ควรจะส่งเสียงให้ถูกที่ถูกทาง มันถึงจะส่งผลต่อการเมือง เริ่มที่ร่างพ.ร.บ.เหล่านี้ก่อนก็ได้ มีเวลาก็เข้าไปอ่านผ่านตากัน เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ว่ากันไป จะได้สมกับรักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
 
 
ปล. ต้องขอโทษด้วยนะ ที่จากกระทู้แปลกใจที่หนุ่มหนุ่มสาวสาวหมั้นกัน กลับกลายเป็นกระทู้การเมืองไปเสียได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ผ่านแล้ว! ครม.เห็นชอบ #พรบคู่ชีวิต คู่รักเพศเดียวกันจดทะเบียนได้ มีสิทธิ #สมรสเท่าเทียม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ข่าวดีสำหรับกลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือ LGBT วันนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เปิดทางคู่รักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนได้

โดยนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมครม. ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในส่วนที่เกี่ยวกับคู่สมรสที่เสนอโดยกระทรวงยุติธรรม

โดยสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต คือ
-เปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรส
-กำหนดให้การจดทะเบียนสมรสได้เมื่อบุคคลทั้ง 2 ฝ่ายที่มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ ยินยอม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กำลังอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล เสนอ

สาระสำคัญ คือ การเสนอขอแก้ไขเพื่อให้บุคคลธรรมดาทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศ สามารถทำการหมั้นและสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเปลี่ยนถ้อยคำจากเดิมที่ใช้คำว่า "ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา" เป็น "ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส" และ "ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา" เป็น "ทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส" และใช้คำ "ผู้หมั้น" และ "ผู้รับหมั้น" แทนคำว่า "ชาย" และ "หญิง" ซึ่งในโลกโซเชียลมีการรณรงค์เรื่องนี้โดยใช้แฮชแท็ก "สมรสเท่าเทียม" จนทำให้แฮชแท็กนี้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์มาหลายวัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่