
เป็นหนังอีกเรื่องที่โดนพิษโควิดเลื่อนฉายเข้าแบบจังๆ จากที่จะต้องฉายช่วงต้นปี กลายเป็นต้องมาโผล่เอาตอนกลางปีเข้าไปแล้ว กับหนังที่เรียกว่ารีเมคมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว ซึ่งเอาจริงๆ ตัวผมเองจำเวอร์ชั่นเดิมๆ ไม่ได้แล้ว จำได้ลางๆ แค่ตัวนักแสดงบางคนที่เคยสวมบทเป็น EMMA WOODHOUSE มาก่อนหน้านี้ แต่ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

EMMA คือภาพยนตร์ดัดแปลงจากงานประพันธ์ ผลงานคอเมดี้อันเป็นที่รักโดยเจน ออสติน เป็นเรื่องราวของการค้นหาความเท่าเทียมกันและความสุขในชีวิต เอ็มม่า วูดเฮาส์ สาวสวย รวย และฉลาด คือนางพญาผึ้งในเมืองเล็ก ๆ แสนเงียบสงบ ท่ามกลางการเสียดสีในสังคมระหว่างชนชั้นและความเจ็บปวดของการเติบโต เอ็มม่าต้องผจญกับการจับคู่ที่เกิดจากการเข้าใจผิดและเรื่องโรแมนติคแบบผิด ๆ เพื่อค้นหาความรักที่อยู่ที่นั่นมาโดยตลอด

หนังเรียกได้ว่าจัดเต็มความเป็นสังคมผู้ดีอังกฤษจ๋าแบบเข้มข้นมาก เราจะได้เห็นสังคมที่แบ่งแยกชนชั้นกันชัดเจนระหว่างคนรวยกับคนจนที่ต้องมาอยู่ในสังคมเดียวกัน การจับคู่แบบคลุมถุงชนที่เน้นการแต่งงานเพื่ออัพเกรดตัวเอง หรือแม้แต่การต้องโดนสังคมบีบคั้นให้คนที่รักกันต้องแอบหลบๆ ซ่อนๆ เรียกว่าเป็นหนังที่ตีแผ่สังคมผู้ดีจอมปลอมในสัมยนั้นได้อย่างดี

การเล่าเรื่องอาจจะดูรวดเร็วฉวัดเฉวียนเกินไปหน่อย โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับตัวละครอื่นน้อยเกินไปจนแทบจะไม่มีความสำคัญเลย จากตัวละครที่ควรจะสำคัญหรือเป็นบทเด่นเทียบชั้นกับ EMMA กลับโดนลดบทบาทจนหายไป การเน้นตัว EMMA ไม่ใช่เรื่องไม่ดี เพราะตัว Anya Taylor-Joy เปล่งรัศมีความน่ารักสดใสออกมาได้มากเหลือเกิน จนทำให้หนังมันดูสดใสไปด้วย แต่อย่างที่บอกว่าถ้าลองมาพิจารณาหารเล่าเรื่องจริงๆ ยังมีจุดขัดใจอีกหลายอย่าง

ข้อดีชัดไ ของหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นหนังที่เปล่งความสดใสของตัวนางเอกออกมาอย่างเต็มที่แล้ว โปรดัคชั่นกับคอสตูมเป็นอะไรที่ดีงามมากๆ เราจะเห็นชุดสวยๆ บ้านที่ตกแต่งสไตล์อังกฤษแบบหรูหราสุดๆ รวมไปถึงงานเลี้ยงที่ดูผู้ดี๊ผู้ดีที่สุด เรียกว่าโปรดัคชั่นดีงามมากๆ บวกกับเพลงประกอบเพราะๆ ที่ออกมาตามฉากฟินๆ พีคๆ หลายฉาก ก็ช่วยให้หนังดูน่ารักสดใสและดูFeel Good มากกว่าที่มันเป็นอยู่ด้วยตัวมันเอง

สรุปสั้นๆ เลยคือหนังมันคือหนังที่เอามาดันความน่ารักของนางเอก Anya Taylor-Joy ให้เปล่งปลั่งปล่อยรัศมีมาฆ่าตัวละครหญิงทุกตัวละครในเรื่องให้ตายเรียบ รวมถึงโปรดัคชั่นงามๆ ที่หนังทำออกมาได้ดีมากๆ เพียงแต่หนังมันยังเล่าเรื่องและลำดับเรื่องไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าที่ควร และที่สำคัญ ขัดใจกับคนที่แคสบทคุณ Knightly พระเอกของเรื่องมากๆ ทำไมไม่สลับบทกับคนที่เล่นเป็น แฟรงค์ เชอชิลล์ ซะให้รู้แล้วรู้รอด 555
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] EMMA - หนังสไตล์ผู้ดีอังกฤษที่จัดว่าผ่านแค่ความน่ารักกุ๊กกิ๊ก กับโปรดัคชั่นงามๆ
เป็นหนังอีกเรื่องที่โดนพิษโควิดเลื่อนฉายเข้าแบบจังๆ จากที่จะต้องฉายช่วงต้นปี กลายเป็นต้องมาโผล่เอาตอนกลางปีเข้าไปแล้ว กับหนังที่เรียกว่ารีเมคมาหลายเวอร์ชั่นแล้ว ซึ่งเอาจริงๆ ตัวผมเองจำเวอร์ชั่นเดิมๆ ไม่ได้แล้ว จำได้ลางๆ แค่ตัวนักแสดงบางคนที่เคยสวมบทเป็น EMMA WOODHOUSE มาก่อนหน้านี้ แต่ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
EMMA คือภาพยนตร์ดัดแปลงจากงานประพันธ์ ผลงานคอเมดี้อันเป็นที่รักโดยเจน ออสติน เป็นเรื่องราวของการค้นหาความเท่าเทียมกันและความสุขในชีวิต เอ็มม่า วูดเฮาส์ สาวสวย รวย และฉลาด คือนางพญาผึ้งในเมืองเล็ก ๆ แสนเงียบสงบ ท่ามกลางการเสียดสีในสังคมระหว่างชนชั้นและความเจ็บปวดของการเติบโต เอ็มม่าต้องผจญกับการจับคู่ที่เกิดจากการเข้าใจผิดและเรื่องโรแมนติคแบบผิด ๆ เพื่อค้นหาความรักที่อยู่ที่นั่นมาโดยตลอด
หนังเรียกได้ว่าจัดเต็มความเป็นสังคมผู้ดีอังกฤษจ๋าแบบเข้มข้นมาก เราจะได้เห็นสังคมที่แบ่งแยกชนชั้นกันชัดเจนระหว่างคนรวยกับคนจนที่ต้องมาอยู่ในสังคมเดียวกัน การจับคู่แบบคลุมถุงชนที่เน้นการแต่งงานเพื่ออัพเกรดตัวเอง หรือแม้แต่การต้องโดนสังคมบีบคั้นให้คนที่รักกันต้องแอบหลบๆ ซ่อนๆ เรียกว่าเป็นหนังที่ตีแผ่สังคมผู้ดีจอมปลอมในสัมยนั้นได้อย่างดี
การเล่าเรื่องอาจจะดูรวดเร็วฉวัดเฉวียนเกินไปหน่อย โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับตัวละครอื่นน้อยเกินไปจนแทบจะไม่มีความสำคัญเลย จากตัวละครที่ควรจะสำคัญหรือเป็นบทเด่นเทียบชั้นกับ EMMA กลับโดนลดบทบาทจนหายไป การเน้นตัว EMMA ไม่ใช่เรื่องไม่ดี เพราะตัว Anya Taylor-Joy เปล่งรัศมีความน่ารักสดใสออกมาได้มากเหลือเกิน จนทำให้หนังมันดูสดใสไปด้วย แต่อย่างที่บอกว่าถ้าลองมาพิจารณาหารเล่าเรื่องจริงๆ ยังมีจุดขัดใจอีกหลายอย่าง
ข้อดีชัดไ ของหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นหนังที่เปล่งความสดใสของตัวนางเอกออกมาอย่างเต็มที่แล้ว โปรดัคชั่นกับคอสตูมเป็นอะไรที่ดีงามมากๆ เราจะเห็นชุดสวยๆ บ้านที่ตกแต่งสไตล์อังกฤษแบบหรูหราสุดๆ รวมไปถึงงานเลี้ยงที่ดูผู้ดี๊ผู้ดีที่สุด เรียกว่าโปรดัคชั่นดีงามมากๆ บวกกับเพลงประกอบเพราะๆ ที่ออกมาตามฉากฟินๆ พีคๆ หลายฉาก ก็ช่วยให้หนังดูน่ารักสดใสและดูFeel Good มากกว่าที่มันเป็นอยู่ด้วยตัวมันเอง
สรุปสั้นๆ เลยคือหนังมันคือหนังที่เอามาดันความน่ารักของนางเอก Anya Taylor-Joy ให้เปล่งปลั่งปล่อยรัศมีมาฆ่าตัวละครหญิงทุกตัวละครในเรื่องให้ตายเรียบ รวมถึงโปรดัคชั่นงามๆ ที่หนังทำออกมาได้ดีมากๆ เพียงแต่หนังมันยังเล่าเรื่องและลำดับเรื่องไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าที่ควร และที่สำคัญ ขัดใจกับคนที่แคสบทคุณ Knightly พระเอกของเรื่องมากๆ ทำไมไม่สลับบทกับคนที่เล่นเป็น แฟรงค์ เชอชิลล์ ซะให้รู้แล้วรู้รอด 555
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้