
(วีดีโออาจยาวไปนิดนะครับ 5 นาทีสุดท้าย เสียงเริ่มเนือย เพราะเหนื่อย เพิ่งมารู้ตัวทีหลังตอนทำลคิปเสร็จแล้วครับ 555)
Corolla Cross กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 9 ก.ค. 2020 ที่จะถึงนี้แล้วนะครับ ก็อีกแค่ 6 วันเท่านั้น
เราลองมาคุยกันถึงมันอีกสักรอบ เป็นรอบสุดท้ายก่อนที่จะเจอตัวมันเป็นๆนะครับ
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เราก็รู้แล้วว่า หน้าตาของ Corolla Cross จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
โดยหน้าตาก็จะออกไปในแนวดุดันอย่างชัดเจน โดยให้สังเกตที่จมูกของรถที่มีโลโก Toyota
ที่รถในยุคปัจจุบันจะเน้นให้มีกระจังหน้าด้านบนขนาดโตๆ เหมือนกับจมูก ส่วนปากก็จะเป็นในส่วนของ
ช่องดักลมด้านล่าง โดยจมูกกับปากน่าจะเชื่อมติดกัน โดยมีไฟตัดหมอกเป็น LED ดวงเล็กๆอยู่ที่มุม
ในช่องดักลมนั้น โดยแถบกันรอยสีดำไสตล์ SUV จะลากต่อเนื่องไปถึงด้านล่าง
แต่อาจจะไม่ได้มีโป่งล้อครอบ
ซุ้มล้ออีกทีเหมือนกับ CX-30 ซึ่งจากดูรูปสปายช็อตที่แสดงให้เห็นด้านท้าย
อาจจะขายแยกเป็นของแต่ง accessories แบบโป่งล้อของ Yaris รุ่นปัจจุบันก็เป็นได้
โดยสรุปแล้วรูปร่างลักษณะของ Corolla Cross จะเป็นแบบไหน
จากสปายช็อตต่างๆ ผมพบว่า มันอาจจะไม่ใช่รถที่ใหญ่มากอย่างที่คิด
-คือรูปหลุดบ้นท้ายมันทำให้คิด เพราะมันเหมือนสไตล์ Rav4-
แต่พอมาส่องดูรถที่พราง ปรากฎว่าทรงมันกึ่งๆรถ hatchback ยกสูงไปซะนั้น
หรือก็เป็นทรงของรถ SUV ที่ลำตัวไม่ได้ดูหนา หนักแน่น แบบ Rav4 แต่อย่างใด

ตามที่พวกเราได้ทราบข้อมูลกันมาบ้างแล้ว
นั่นก็คือขนาดของ Corolla CROSS นั้นจะอยู่ที่
ความยาว 4,460 mm ความกว้าง 1,825 mm ความสูง 1,620 mm
ซึ่งเป็นระดับที่ยาวกว่า B crossover ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 10-15 cm
และสั้นกว่า C crossover ทั่วไปอยู่ที่ 10-15 cm
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ Corolla Cross ใช้ระยะฐานล้อเทียบเท่ากับ C-HR
ซึ่งอยู่ที่ 2,640 mm ไม่ได้ใช้ระยะฐานล้อของ Altis ที่ยาว 2,700 mm
โดยฐานล้อของ Corolla Cross จะสั้นกว่า Toyota Rav4 ที่มีความยาวอยู่ที่ 2,690 mm
อยู่ 5 cm และใกล้เคียงมากกับของ Honda CR-V ที่ 2,660 mm เพราะต่างกันอยู่แค่ 2 cm
ดังนั้นน่าจะคาดหวังเรื่องของ legroom ได้ไม่ยาก
ในขณะที่ความสูงนั้น Corolla Cross ก็สูงมากกว่า C-HR อยู่ 7 cm
และเตี้ยกว่า CR-V อยู่ที่ 3 cm ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องดูตัวจริงกันอีกทีว่า ความต่างเพียงแค่นี้
จะทำให้ความกว้างและความโอ่โถงภายในของ C crossover แคระอย่าง Corolla Cross
จะด้อยกว่าความกว้างขวางของ CR-V มากขนาดไหน
ข่าวร้ายก็คือ หากมองจากภาพนี้ เราจะพบว่ามันดูมีรูปร่างลักษณะ
เหมือนกับรถ Hatchback มากกกกกกกก
ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากการที่ Subaru นำ Impreza ที่เป็นรถ hatchback
มายกสูงเป็น XV เท่าไหร่นัก หากดูจากภาพนี้เราอาจจะจินตนาการได้ว่า
พื้นที่ห้องโดยสารของ Corolla Cross ก็อาจจะเท่าๆกับ
รถเก๋งทรง hatchback ระดับ C segment ทั่วไป ก็เป็นได้ หรืออาจจะมีหลังคาที่โปร่งขึ้นไปอีกนิด
จะเห็นได้ว่า Toyota อาจจะไม่ได้ตั้งใจขยายตัวถัง Corolla Cross
ให้มีความใหญ่โตแตกต่างจากพื้นฐานเดิมมากมายนัก และไม่ใช่การพองลม Altis
เพื่อให้เป็นรถขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงกว่า
ซึ่งขนาดที่ใหญ่โตมากไปก็จะทำให้ต้องมีค่าวัสดุและ material ที่สูงมากขึ้น
จึงเป็นเหมือนการเปลี่ยนแปลงทรงเปลือกตัวถังทั้งหมด ให้กลายเป็นรถในลักษณะท้ายตัด
ที่ค่อนไปทาง Crossover เท่านั้น ราคาจึงไม่แตกต่างจากรถเก๋ง C segment ทั่วไป
และสามารถทำราคาอยู่ในตลาด B crossover ที่รถทั้งหมดล้วนเป็นรถที่มาจาก
พื้นฐานรถเก๋งเล็กระดับ B segment ที่ถูกนำมาพองลม กลายเป็นรถที่มีราคาเท่ากับ
รถเก๋ง C segment แทบทั้งนั้น
อย่างเช่น Honda Jazz ที่ถูกพองลมให้กลายเป็น HR-V
แล้วกลายเป็นรถที่มีราคาเทียบเท่ากับ Honda Civic เป็นต้น
การเปลี่ยนรูปทรงรถเก๋ง C segment ให้กลายมาเป็น Crossover ในขนาดที่
ไม่ต่างจากเดิมมานักจึงอาจเป็นเทรนด์ใหม่ ที่จากความเสื่อมถอยในความนิยมของรถประเภทซีดาน
ที่ทำให้ค่ายรถต้องแก้ไขโดยการ เปลี่ยนทรงรถเป็นรูปแบบอื่น ดังที่เราเคยได้ยินข่าวอยู่บ่อยครั้งในอดีต
ว่า Mitsubishi ตั้งใจจะเปลี่ยน Lancer หรือ Evo ให้กลายเป็นรถประเภท Crossover
อยู่หลายครั้งมาก
แต่มันก็จะไม่ใช่แนวทางในการพัฒนารถให้ขยายใหญ่ จนข้ามไปมีราคาทับกับราคาของรถ segment ที่สูงกว่าอีกต่อไป
อาจจะเรียกได้ว่า มันคือ segment ใหม่ของรถ crossover ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวซีดานพื้นฐานเล็กน้อย
หรืออาจใหญ่ไม่ต่างจากเดิม ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนจาก CX-30 และ Corolla Cross
อันที่จริงแล้ว Subaru XV นั้นคือต้นแบบของรถประเภทนี้จริงๆ เพียงแต่มันเป็นการนำรถมายกสูงตรงๆ
แล้วเปลี่ยนเปลือกกันชนหน้าหลัง กับตกแต่ง ตกแต่งกาบสีดำรอบคันแบบ SUV
ซึ่งก็ทำให้ XV กลายเป็นรถเอนกประสงค์ราคาไม่แพง และสามารถขายในย่านเดียวกับ Impreza
และรถเก๋งระดับ C segment รุ่นอื่นๆได้ (ถ้าไม่บวกราคาเพิ่มจนเกินไปนัก)
จากเทรนด์ใหม่นี้ ทำให้เราเห็นได้ว่าค่ายรถต่างๆกำลังคิดอะไรอยู่เกี่ยวกับ lineup ของกลุ่มรถเก๋งในค่ายของตัวเอง
จากเดิมที่เราอาจจะเคยเห็น Subaru XV ที่เป็นการจับเอา Impreza มายกสูง เพราะต้องพยายาม
เพิ่มยอดขายของรถเก๋งในค่ายเท่านั้น แต่กลายเป็นว่าค่ายรถแต่ล่ะค่าย จะเริ่มทำการเปลี่ยนรูปแบบรถซีดาน
ของค่ายตัวเอง ให้มีไทป์ของตัวถังเป็นรถ SUV ให้ได้อีกหนึ่งรุ่น
ซึ่งถ้าหากไปได้สวย ยอดขายทำได้อย่างงดงาม เราก็อาจได้เห็นรถอย่าง Mazda CX30 มาแทน Mazda 3
หรือ Corolla Cross มาแทน Corolla Altis ก็ได้ แต่ในรถตระกูล Corolla นั้น การทดแทน อาจจะเป็นเพียงการ
ทดแทนการทำตลาดของรุ่นย่อยบนๆ เพราะราคา Corolla Cross จะทับกับรุ่น hybrid กับรุ่น 1.8 GR
จากความนิยมของ Corolla Altis ที่ตกต่ำลงมากสุดๆในปัจจุบัน ซึ่งยากเหลือเกินที่จะได้เห็น
Altis ที่ไม่ใช่รถสาธารณะ จะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่ยากยิ่งที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ Altis ที่มีราคาหลัก 9 แสนบาทขึ้นไป
ดังนั้น ทิศทางของลูกค้าน่าจะไปทาง Corolla Cross ทั้งหมด และการที่พฤติกรรมการซื้อของลูกในปัจจุบัน
จะมุ่งไปที่รถที่มีความนิยมสูงเป็นหลัก ก็จะยิ่งทำให้ Altis เจนนี้ ยอดขายตกต่ำลงไปเรื่อยๆ
หากพูดถึงรถเก๋งในย่านราคา 9 แสน ถึง 1 ล้านต้นๆ จะเป็นตลาดที่ครองโดย Civic หรือ HR-V
ถ้าหาก Toyota ไม่มี Corolla Cross ออกมาแล้วล่ะก็ อนาคตของ Toyota ในการขายรถในย่านราคานี้
อาจจะถึงกับหมดไปเลยทีเดียว เพราะ Honda กินเรียบ
ในขณะที่ C-HR นั้น ก็ทำได้เต็มที่แล้วตามศักยภาพของมัน
เนื่องจากเป็นรถที่ออกแบบมาสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เน้นรูปทรงโฉบเฉี่ยวเป็นหลักเท่านั้นเอง
ในขณะที่สถานการณ์ของ Mazda นั้น กำลังมองหาทิศทางของตัวเองไม่เจอ
เพราะราคา Mazda 3 ที่ทับกันกับ Mazda CX30 ทำให้ไม่มีรุ่นย่อยล่าง
ที่สามารถเป็นตัวสร้างยอดขายได้
หาก Mazda ต้องการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายตรงนี้ การลดจำนวนรุ่นลงในอนาคตก็อาจจะเป็นทางออกที่ต้องทำ
ซึ่งในอาทิตย์นี้ Mazda ก็ได้ทำการปรับราคา Mazda CX3 ใหม่ทุกรุ่นให้มีราคาตั้งแต่เหลือเพียงแค่ 768,000 - 1,048,000 บาท
ไปแล้วเรียบร้อย นับว่าเป็นการแก้เกมที่น่าสนใจเลยทีเดียว
การปรับราคาในครั้งนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของเครื่อง skyactiv 2.0 ลิตร
ในระดับราคาที่แพงกว่า City RS turboเพียงแค่ 3 หมื่นบาทเท่านั้น!
ทำให้บางคนที่อยากได้รถทรงสวยๆ อัตราเร่งเร็วๆแรงๆ ต้องหูผึ่งขึ้นมาบ้าง
เพราะ CX3 เป็นรถที่เป็นที่กล่าวขวัญเรื่องความสวย ยกเว้นขนาดที่ดูเล็กเกินไป
และมีอัตราเร่ง 0-100 ในระดับ 9 วินาทีกว่าๆ
โดยเป็นรอง รถที่เร็วมากๆอย่าง Civic 1.5 turbo เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การที่มีรถหลายสไตล์ที่น่าสนใจและมีสีสันเข้ามาในย่านราคา 7-8 แสนมากขึ้น
ก็อาจถือได้ว่าเป็นจุดจบแบบถาวรของรถเก๋งเครื่อง 1500cc เดิมๆ เลยก็ว่าได้
เพราะมีผู้เล่นเข้ามาแย่งชิงตลาดในส่วนนี้เป็นรถที่มีความเอนกประสงค์ทั้งนั้น เช่น Suzuki Ertiga MG ZS
Corolla Cross อาจไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิด เพราะเป็น Corolla Altis ที่มาในรูปทรงของ SUV เท่านั้น
(วีดีโออาจยาวไปนิดนะครับ 5 นาทีสุดท้าย เสียงเริ่มเนือย เพราะเหนื่อย เพิ่งมารู้ตัวทีหลังตอนทำลคิปเสร็จแล้วครับ 555)
Corolla Cross กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 9 ก.ค. 2020 ที่จะถึงนี้แล้วนะครับ ก็อีกแค่ 6 วันเท่านั้น
เราลองมาคุยกันถึงมันอีกสักรอบ เป็นรอบสุดท้ายก่อนที่จะเจอตัวมันเป็นๆนะครับ
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เราก็รู้แล้วว่า หน้าตาของ Corolla Cross จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
โดยหน้าตาก็จะออกไปในแนวดุดันอย่างชัดเจน โดยให้สังเกตที่จมูกของรถที่มีโลโก Toyota
ที่รถในยุคปัจจุบันจะเน้นให้มีกระจังหน้าด้านบนขนาดโตๆ เหมือนกับจมูก ส่วนปากก็จะเป็นในส่วนของ
ช่องดักลมด้านล่าง โดยจมูกกับปากน่าจะเชื่อมติดกัน โดยมีไฟตัดหมอกเป็น LED ดวงเล็กๆอยู่ที่มุม
ในช่องดักลมนั้น โดยแถบกันรอยสีดำไสตล์ SUV จะลากต่อเนื่องไปถึงด้านล่าง
แต่อาจจะไม่ได้มีโป่งล้อครอบ
ซุ้มล้ออีกทีเหมือนกับ CX-30 ซึ่งจากดูรูปสปายช็อตที่แสดงให้เห็นด้านท้าย
อาจจะขายแยกเป็นของแต่ง accessories แบบโป่งล้อของ Yaris รุ่นปัจจุบันก็เป็นได้
โดยสรุปแล้วรูปร่างลักษณะของ Corolla Cross จะเป็นแบบไหน
จากสปายช็อตต่างๆ ผมพบว่า มันอาจจะไม่ใช่รถที่ใหญ่มากอย่างที่คิด
-คือรูปหลุดบ้นท้ายมันทำให้คิด เพราะมันเหมือนสไตล์ Rav4-
แต่พอมาส่องดูรถที่พราง ปรากฎว่าทรงมันกึ่งๆรถ hatchback ยกสูงไปซะนั้น
หรือก็เป็นทรงของรถ SUV ที่ลำตัวไม่ได้ดูหนา หนักแน่น แบบ Rav4 แต่อย่างใด
ตามที่พวกเราได้ทราบข้อมูลกันมาบ้างแล้ว
นั่นก็คือขนาดของ Corolla CROSS นั้นจะอยู่ที่
ความยาว 4,460 mm ความกว้าง 1,825 mm ความสูง 1,620 mm
ซึ่งเป็นระดับที่ยาวกว่า B crossover ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 10-15 cm
และสั้นกว่า C crossover ทั่วไปอยู่ที่ 10-15 cm
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ Corolla Cross ใช้ระยะฐานล้อเทียบเท่ากับ C-HR
ซึ่งอยู่ที่ 2,640 mm ไม่ได้ใช้ระยะฐานล้อของ Altis ที่ยาว 2,700 mm
โดยฐานล้อของ Corolla Cross จะสั้นกว่า Toyota Rav4 ที่มีความยาวอยู่ที่ 2,690 mm
อยู่ 5 cm และใกล้เคียงมากกับของ Honda CR-V ที่ 2,660 mm เพราะต่างกันอยู่แค่ 2 cm
ดังนั้นน่าจะคาดหวังเรื่องของ legroom ได้ไม่ยาก
ในขณะที่ความสูงนั้น Corolla Cross ก็สูงมากกว่า C-HR อยู่ 7 cm
และเตี้ยกว่า CR-V อยู่ที่ 3 cm ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องดูตัวจริงกันอีกทีว่า ความต่างเพียงแค่นี้
จะทำให้ความกว้างและความโอ่โถงภายในของ C crossover แคระอย่าง Corolla Cross
จะด้อยกว่าความกว้างขวางของ CR-V มากขนาดไหน
ข่าวร้ายก็คือ หากมองจากภาพนี้ เราจะพบว่ามันดูมีรูปร่างลักษณะ
เหมือนกับรถ Hatchback มากกกกกกกก
ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากการที่ Subaru นำ Impreza ที่เป็นรถ hatchback
มายกสูงเป็น XV เท่าไหร่นัก หากดูจากภาพนี้เราอาจจะจินตนาการได้ว่า
พื้นที่ห้องโดยสารของ Corolla Cross ก็อาจจะเท่าๆกับ
รถเก๋งทรง hatchback ระดับ C segment ทั่วไป ก็เป็นได้ หรืออาจจะมีหลังคาที่โปร่งขึ้นไปอีกนิด
จะเห็นได้ว่า Toyota อาจจะไม่ได้ตั้งใจขยายตัวถัง Corolla Cross
ให้มีความใหญ่โตแตกต่างจากพื้นฐานเดิมมากมายนัก และไม่ใช่การพองลม Altis
เพื่อให้เป็นรถขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงกว่า
ซึ่งขนาดที่ใหญ่โตมากไปก็จะทำให้ต้องมีค่าวัสดุและ material ที่สูงมากขึ้น
จึงเป็นเหมือนการเปลี่ยนแปลงทรงเปลือกตัวถังทั้งหมด ให้กลายเป็นรถในลักษณะท้ายตัด
ที่ค่อนไปทาง Crossover เท่านั้น ราคาจึงไม่แตกต่างจากรถเก๋ง C segment ทั่วไป
และสามารถทำราคาอยู่ในตลาด B crossover ที่รถทั้งหมดล้วนเป็นรถที่มาจาก
พื้นฐานรถเก๋งเล็กระดับ B segment ที่ถูกนำมาพองลม กลายเป็นรถที่มีราคาเท่ากับ
รถเก๋ง C segment แทบทั้งนั้น
อย่างเช่น Honda Jazz ที่ถูกพองลมให้กลายเป็น HR-V
แล้วกลายเป็นรถที่มีราคาเทียบเท่ากับ Honda Civic เป็นต้น
การเปลี่ยนรูปทรงรถเก๋ง C segment ให้กลายมาเป็น Crossover ในขนาดที่
ไม่ต่างจากเดิมมานักจึงอาจเป็นเทรนด์ใหม่ ที่จากความเสื่อมถอยในความนิยมของรถประเภทซีดาน
ที่ทำให้ค่ายรถต้องแก้ไขโดยการ เปลี่ยนทรงรถเป็นรูปแบบอื่น ดังที่เราเคยได้ยินข่าวอยู่บ่อยครั้งในอดีต
ว่า Mitsubishi ตั้งใจจะเปลี่ยน Lancer หรือ Evo ให้กลายเป็นรถประเภท Crossover
อยู่หลายครั้งมาก
แต่มันก็จะไม่ใช่แนวทางในการพัฒนารถให้ขยายใหญ่ จนข้ามไปมีราคาทับกับราคาของรถ segment ที่สูงกว่าอีกต่อไป
อาจจะเรียกได้ว่า มันคือ segment ใหม่ของรถ crossover ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวซีดานพื้นฐานเล็กน้อย
หรืออาจใหญ่ไม่ต่างจากเดิม ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนจาก CX-30 และ Corolla Cross
อันที่จริงแล้ว Subaru XV นั้นคือต้นแบบของรถประเภทนี้จริงๆ เพียงแต่มันเป็นการนำรถมายกสูงตรงๆ
แล้วเปลี่ยนเปลือกกันชนหน้าหลัง กับตกแต่ง ตกแต่งกาบสีดำรอบคันแบบ SUV
ซึ่งก็ทำให้ XV กลายเป็นรถเอนกประสงค์ราคาไม่แพง และสามารถขายในย่านเดียวกับ Impreza
และรถเก๋งระดับ C segment รุ่นอื่นๆได้ (ถ้าไม่บวกราคาเพิ่มจนเกินไปนัก)
จากเทรนด์ใหม่นี้ ทำให้เราเห็นได้ว่าค่ายรถต่างๆกำลังคิดอะไรอยู่เกี่ยวกับ lineup ของกลุ่มรถเก๋งในค่ายของตัวเอง
จากเดิมที่เราอาจจะเคยเห็น Subaru XV ที่เป็นการจับเอา Impreza มายกสูง เพราะต้องพยายาม
เพิ่มยอดขายของรถเก๋งในค่ายเท่านั้น แต่กลายเป็นว่าค่ายรถแต่ล่ะค่าย จะเริ่มทำการเปลี่ยนรูปแบบรถซีดาน
ของค่ายตัวเอง ให้มีไทป์ของตัวถังเป็นรถ SUV ให้ได้อีกหนึ่งรุ่น
ซึ่งถ้าหากไปได้สวย ยอดขายทำได้อย่างงดงาม เราก็อาจได้เห็นรถอย่าง Mazda CX30 มาแทน Mazda 3
หรือ Corolla Cross มาแทน Corolla Altis ก็ได้ แต่ในรถตระกูล Corolla นั้น การทดแทน อาจจะเป็นเพียงการ
ทดแทนการทำตลาดของรุ่นย่อยบนๆ เพราะราคา Corolla Cross จะทับกับรุ่น hybrid กับรุ่น 1.8 GR
จากความนิยมของ Corolla Altis ที่ตกต่ำลงมากสุดๆในปัจจุบัน ซึ่งยากเหลือเกินที่จะได้เห็น
Altis ที่ไม่ใช่รถสาธารณะ จะเห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่ยากยิ่งที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ Altis ที่มีราคาหลัก 9 แสนบาทขึ้นไป
ดังนั้น ทิศทางของลูกค้าน่าจะไปทาง Corolla Cross ทั้งหมด และการที่พฤติกรรมการซื้อของลูกในปัจจุบัน
จะมุ่งไปที่รถที่มีความนิยมสูงเป็นหลัก ก็จะยิ่งทำให้ Altis เจนนี้ ยอดขายตกต่ำลงไปเรื่อยๆ
หากพูดถึงรถเก๋งในย่านราคา 9 แสน ถึง 1 ล้านต้นๆ จะเป็นตลาดที่ครองโดย Civic หรือ HR-V
ถ้าหาก Toyota ไม่มี Corolla Cross ออกมาแล้วล่ะก็ อนาคตของ Toyota ในการขายรถในย่านราคานี้
อาจจะถึงกับหมดไปเลยทีเดียว เพราะ Honda กินเรียบ
ในขณะที่ C-HR นั้น ก็ทำได้เต็มที่แล้วตามศักยภาพของมัน
เนื่องจากเป็นรถที่ออกแบบมาสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เน้นรูปทรงโฉบเฉี่ยวเป็นหลักเท่านั้นเอง
ในขณะที่สถานการณ์ของ Mazda นั้น กำลังมองหาทิศทางของตัวเองไม่เจอ
เพราะราคา Mazda 3 ที่ทับกันกับ Mazda CX30 ทำให้ไม่มีรุ่นย่อยล่าง
ที่สามารถเป็นตัวสร้างยอดขายได้
หาก Mazda ต้องการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายตรงนี้ การลดจำนวนรุ่นลงในอนาคตก็อาจจะเป็นทางออกที่ต้องทำ
ซึ่งในอาทิตย์นี้ Mazda ก็ได้ทำการปรับราคา Mazda CX3 ใหม่ทุกรุ่นให้มีราคาตั้งแต่เหลือเพียงแค่ 768,000 - 1,048,000 บาท
ไปแล้วเรียบร้อย นับว่าเป็นการแก้เกมที่น่าสนใจเลยทีเดียว
การปรับราคาในครั้งนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของเครื่อง skyactiv 2.0 ลิตร
ในระดับราคาที่แพงกว่า City RS turboเพียงแค่ 3 หมื่นบาทเท่านั้น!
ทำให้บางคนที่อยากได้รถทรงสวยๆ อัตราเร่งเร็วๆแรงๆ ต้องหูผึ่งขึ้นมาบ้าง
เพราะ CX3 เป็นรถที่เป็นที่กล่าวขวัญเรื่องความสวย ยกเว้นขนาดที่ดูเล็กเกินไป
และมีอัตราเร่ง 0-100 ในระดับ 9 วินาทีกว่าๆ
โดยเป็นรอง รถที่เร็วมากๆอย่าง Civic 1.5 turbo เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การที่มีรถหลายสไตล์ที่น่าสนใจและมีสีสันเข้ามาในย่านราคา 7-8 แสนมากขึ้น
ก็อาจถือได้ว่าเป็นจุดจบแบบถาวรของรถเก๋งเครื่อง 1500cc เดิมๆ เลยก็ว่าได้
เพราะมีผู้เล่นเข้ามาแย่งชิงตลาดในส่วนนี้เป็นรถที่มีความเอนกประสงค์ทั้งนั้น เช่น Suzuki Ertiga MG ZS