ตามที่ผมตั้งหัวข้อเลยครับ
ภาพโปรไฟล์เป็นผมกับแฟนเองขอเบลอไว้นะครับเผื่ออาจเดินสวนกันที่จตุจักร(อาย555)
ต้องบอกก่อนว่าปกติผมไม่เคยคบผู้ชายมาก่อนเลยครับคบแต่ผู้หญิงมาตลอดแล้วก็ไม่เคยคิดด้วยว่าวันนึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วตอนนี้ผมก็มีแฟนเป็นผู้ชายครับปัจจุบันอยู่ปี2เหมือนกันซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมปลายเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนต่างห้องครับตอนมัธยมรู้กันแบบเผลินๆเพราะเพื่อนแนะนำ พอเรียนมอเดียวเลยต้องตีสนิทกันไว้ พวกเราเริ่มคบกันตอนจะขึ้นปี1ทำความรู้จักกันช่วงก่อนมหาลัยเปิด สมัยนั้นเล่นเกมด้วยกันเกือบทุกวันครับแล้วก็เปิดไมค์คุยในเกมตลอดมันก็เหมือนโทรคุยกันไปในตัวนั่นแหละเลยทำให้สนิทกันได้เร็ว
จุดที่ทำให้หันมาคบกันได้จะบอกว่ามันคือการอยากลองก็ว่าได้ครับ ผมเป็นคนง่ายๆนะ คบๆเลิกๆมาบ่อยมากก่อนจะคบใครผมก็ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมากมายผมเป็นประเภทที่ว่าคบกันแล้วค่อยไปเรียนรู้ทีหลังก็ได้(ความชอบนะครับ) มันเกิดจากที่ว่าตอนเล่นเกมพับจีไอ้เต้(ขออนุญาตใช้นามสมมุติ) มันเป็นไบเซ็กชวลมั้งผมก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ มันบอกว่าอยากคบกับผมแต่มันก็ไม่เคยคบผู้ชายมาก่อนแล้วก็พูดอีกหลายๆอย่างซึ่งตอนผมฟังมันพูดผมก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากนะ ไม่รู้สิตามออนไลน์เห็นสื่อเกย์ๆบ่อยมากบ่อยจนมองว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาของยุคนี้ไปแล้ว
ผมก็ตอบตกลงกับมันไปนั่นแหละ ผมจำได้ว่าผมพูดกับมันว่า (กูยังไงก็ได้อ่ะ) ตอนนั้นผมคิดว่าความสัมพันธ์ของเราคงไม่จริงจังเดี๋ยวก็เลิกผมเลยไม่ได้ใส่ใจอีกอย่างพวกเราก็โสดกันทั้งคู่ด้วยแค่หาคนแก้เหงาช่วงปิดเทอมมันก็ดี (ตอนแรกผมคิดงี้จริงๆมันอาจจะดู

แต่ผมก็ยอมรับ ต้องขอโทษด้วยถ้ามีใครไม่ชอบทัศนคติของผม)
หลังจากนั้นอะไรๆก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากครับ เราค่อนข้างปฏิบัติต่อกันแบบเพื่อนสนิทแต่แค่จะแคร์ความรู้สึกกันมากขึ้น ช่วงหลังๆนัดกันไปดูหนังแล้วก็นัดกินข้าวบ่อยมาก แต่สถานะบนเฟสบุ๊คไม่ได้ขึ้นนะครับเพราะพวกผมคบกันแบบไม่ค่อยเปิดเผยเท่าไหร่เพื่อนเก่าสมัยมัธยมพวกผมก็ไม่ได้บอกว่ากำลังคบกันอยู่เพราะไม่ค่อยได้ติดต่อกันหลังจากจบม.6 (แต่ตอนนี้ปัจจุบันเพื่อนที่มอบางคนรู้)
ผมยอมรับว่าก่อนหน้านั้นผมไม่จริงจังกับความสัมพันธ์นี้เลย แต่รู้ตัวอีกทีมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้วเป็นเหมือนทั้งเพื่อนสนิทเป็นทั้งพี่น้องเป็นคนที่อยู่ข้างๆกันตลอด มหาลัยผมเขาไม่ได้บังคับให้ปีหนึ่งอยู่หอในครับ ผมกับมันก็เลยอยู่คอนโดด้วยกัน(หารกัน)ทำให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันจากตอนแรกว่าจะไม่จริงจังเลยต้องจริงจังมากขึ้น ตอนนี้ก็ขึ้นปีสองกันแล้วครับ
คู่ของผมจะค่อนข้างเหมือนเพื่อนมากกว่าแฟนเพราะเราหวานไม่ค่อยเป็นครับแต่ก็มีบ้างนิดหน่อยที่ชอบแกล้งกันส่วนมากจะเป็นผมที่โดนกวนตีนบ่อยเพราะปกติผมเป็นคนที่ไม่ชอบกวนใครอยู่แล้ว
-พวกเราไม่เคยมีเซ็กส์กันครับ เพราะผมกับมันเห็นตรงกันที่ว่าเน้นใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่าเอาเซ็กส์เป็นที่ตั้ง ต่อให้ไม่มีเซ็กส์ก็อยู่กันได้ การมีอารมณ์ทางเพศแค่ชั่วครู่มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับผมนะ ถ้ามีอารมณ์แค่ช่วยตัวเองแปปเดียวเองปกติก็ทำมาตลอดตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว ไม่ได้ยุ่งยากเพราะงั้นผมเชื่อใจแฟนของผมว่ามันจะไม่นอกใจไปมีคนอื่นเพราะเรื่องบนเตียงแน่นอนครับ ถามว่าเคยคิดบ้างมั้ยเรื่องเซ็กส์ เอาตรงๆเลยผมก็เคยศึกษามาคร่าวๆและผมยังทำใจไม่ได้ครับ เคยเปิดดูหนังโป๊เกย์แล้วรู้สึกรับไม่ค่อยได้ อันนี้ผมรู้ว่ามันฟังดูแปลกๆหลายคนคงคิดว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชายแต่รับเรื่องซ็กส์แบบชายชายไม่ได้มันเป็นไปได้ยังไง คือมันรูทวารครับมันเสี่ยงหลายอย่างแล้วมันก็น่ากลัวมากๆผมเลยไม่อยากมีเซ็กส์ไม่ว่าผมจะเป็นฝ่ายรุกหรือรับก็ตามผมก็ยังไม่โอเคอยู่ดี โชคดีที่แฟนผมมันก็คิดแบบเดียวกันพวกเราเลยมองข้ามเรื่องนี้ไป ส่วนในอนาคตจะมีนั่นค่อยอีกเรื่องนึง ไว้ไปศึกษาให้ดีในอนาคตแล้วกันในส่วนตอนนี้พวกผมโอเคกับความสัมพันธ์แบบนี้อยู่ ผมได้จะเหยียดคนที่มีเซ็กส์ทางนี้นะครับแค่ผมยังทำใจไม่ได้เฉยๆมันต้องใช้เวลาสำหรับผมเพราะผมไม่มีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน
-ไม่พูดคำหวานๆเลยครับ ผมกับมันใช้ภาษาเพื่อนๆกูๆคุยกันครับ อย่างที่บอกว่าเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนมันเลยปรับยากถ้าให้แทนกัน ตัวเอง,ที่รัก อะไรแบบนี้คงขำกลิ้งเพราะมันไม่ชินสำหรับพวกผม
-ใช้เสื้อผ้าตู้เดียวกันใช้ของใช้ร่วมกัน50% เพราะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ตรงนี้ผมชอบมากๆครับเพราะประหยัดค่าอะไรได้เยอะมากๆใช้ร่วมกันได้
-มีเพื่อนเที่ยวเพื่อนกินแล้วก็มีแฟนไปในตัว ผมกับมันก่อนโควิดทำพิษก็ชอบเที่ยวชอบหาไรกิน เที่ยวทุกวันหรือวันเว้นวันบางทีก็ติดๆกันเลยก็มี ไปไหนไปกันตลอดอารมณ์เหมือนไปกับเพื่อนแต่ที่จริงเป็นแฟนอ่ะครับมันดีมากๆผมก็เคยคบผู้หญิงมาก่อนนะส่วนมากเวลาผมคบผู้หญิงผมจะเกรงใจเขาไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำต่างๆต้องคอยดูแลเขาอยู่ตลอดเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันก็ต้องทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษที่ดี แล้วก็ค่าใช้จ่ายผมเป็นคนออกเองเกือบทั้งหมดต้องไปรับไปส่งด้วยแถมมันก็มีหลายๆอย่างที่ผมไม่เข้าใจในตัวเขา ผมไม่ได้จะหมายความว่าผู้หญิงไม่ดีนะครับมันขึ้นอยู่กับบุคคลไม่ได้อยู่ที่เพศผมแค่จะบอกว่าสำหรับผมมันต่างกันยังไงมีอะไรบ้างที่ต่างกัน ตัดมาที่ผมกับแฟนที่เป็นผู้ชายทำอะไรหารครึ่งตลอดครับแต่รถที่ใช้จะเป็นรถแฟนเพราะผมไม่ได้เอารถที่บ้านมาใช้แล้วพ่อก็ไม่ได้ซื้อให้ด้วย ส่วนมากจะวินๆกันครับจ่ายใครจ่ายมันนอกจากจะซื้อมาฝากกัน ซึ่งก็ไม่ค่อยมีการซื้อฝากกันเท่าไหร่ปกติไปไหนไปกันอยู่แล้วเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆพวกผมก็ไปด้วยกันตลอดเพื่อนมันก็เหมือนเพื่อนผม เพื่อนผมก็เหมือนเพื่อนมัน ก็เป็นความสัมพันธุ์ที่ง่ายๆดีเป็นทั้งเพื่อนสนิทเป็นทั้งแฟนครับ
-มีอะไรคุยกันตรงๆไม่อ้อมไม่งอนไม่ง้อครับ เท่าที่คบกันมายังไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงเลย มันไม่มีเรื่องให้ต้องทะเลาะอ่ะครับ เราอยู่ด้วยกันอยู่แล้วเราเปิดอกคุยเรื่องปัญหาต่างๆตลอดครับ การอยู่ด้วยกันมันต้องสนิทใจกันครับอีกอย่างเราโตๆกันแล้วมีอะไรก็ควรหันหน้าคุยกันตรงๆจะได้ช่วยกันแก้ถ้าปล่อยไว้มันจะค่อยๆก่อตัวไปจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตเอาได้
-ไม่งี่เง่า,ไม่หวง,ไม่บ่น เป็นความจริงที่ว่ามาทั้งหมดเลยครับผมไม่รู้ว่าคู่อื่นเป็นมั้ยแต่สำหรับผมคือเราไม่มีหวงกันเลยหรือหวงแต่ไม่พูดอันนี้ก็ไม่รู้ครับไม่เคยถามมัน จะพูดแค่ในมุมมองผมว่าผมไม่เคยหวงมันเกินเหตุเพราะเราอยู่ด้วยกันเกือบทุกวันโทรศัพท์สามารถเช็คได้ตลอดแต่ไม่มีเช็คหรอกเชื่อใจเขาครับ อย่างอื่นๆก็ตามนั้นแหละครับเราคบกันแบบอิสระมากๆแต่ไม่ใช่ให้นอกใจได้นะครับยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียวอย่างอื่นก็ปล่อยเลย ถึงมันจะดูเหมือนเราคบกันแบบง่ายๆไม่จริงจังหรือไม่ผูกมัดดูเหมือนเพื่อนมากกว่าแฟน แต่เรารู้แก่ใจว่าเราเป็นแฟนกันครับ ไม่ค่อยบอกรักกันเคยแค่ครั้งเดียวตอนแรกๆและไม่มีอีกเลย
สุดท้ายผมก็ลืมไปเลยว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง ผมเคยได้ยินบ่อยมากๆเรื่องความรักไม่จำกัดเพศ มันมีจริงๆครับมันไม่เกี่ยวเลยว่าคุณจะเพศไหนสัญชาติอะไรยังไงความรักก็เป็นเรื่องของความรู้สึกอยู่ดี ไม่เกี่ยวกับเพศเลยครับมันอยู่ที่คนคนนั้นมากกว่า ผมชอบเรือนร่างผู้หญิงดูหนังโป๊ยังดูผู้หญิงเลย แล้วทำไมแฟนผมถึงเป็นผู้ชายล่ะ ผู้ชายไม่ได้มีเรือนร่างที่ชวนให้เกิดอารมณ์เลยขนาดกับแฟนผมก็ยังไม่มีอารมณ์สักนิด ผมก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้มากหรอกครับแต่ผมรู้แค่ว่าอยู่ด้วยกันแล้วโครตเข้ากันได้ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข อยู่ด้วยแล้วสนุก ผมชอบเรือนร่างผู้หญิงก็จริงแต่ผมไม่ได้คบเพื่อหวังเซ็กส์อยู่แล้วครับเพราะงั้นมันคือเรื่องของความรู้สึกล้วนๆเมื่อคุณลองตัดเรื่องเพศออก
ผมมั่นใจว่าผมไม่ใช่เกย์ผมไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคนหนิผมชอบแค่แฟนผมคนเดียวและเริ่มแรกผมไม่ได้ชอบมันด้วยซ้ำแค่ลองเปิดใจ แล้วความสัมพันธ์มันก็ก่อตัวขึ้นเองไม่เกี่ยวด้วยว่ามันจะเพศไหนถ้าลองคิดกลับกันว่ามันเป็นหญิงผมก็คบกับมันอยู่ดีแล้วเราคงไม่แปลกแยกหรือโดนนิยามว่าเป็นเพศที่สามถูกไหมครับ ผมไม่เคยแสวงหาอะไรพวกนี้เลยโอกาสเข้ามาเองผมก็แค่ลองเปิดใจดูสักครั้ง ผมก็ได้รู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับเพศไม่เกี่ยวกับเซ็กส์ครับมันอยู่ที่ความรู้สึกของคนสองคนไม่ว่าจะเพศไหนมันก็ใช้ความรู้สึกเหมือนๆกันนั่นแหละ ถ้าคบเพื่อเรื่องเซ็กส์มันไปไม่รอดหรอกครับสักวันก็ต้องเบื่อแล้วไปคบคนใหม่เรื่อยๆ คู่ที่ยังอยู่กันมาได้ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ใช้ความรู้สึกกันหนิครับไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยการหลงไหลเรือนร่างอีกฝ่ายแค่ไหนถ้านิสัยเข้ากันไม่ได้มันก็ไปไม่รอดอยู่ดี
แล้วเรื่องคำว่า ผู้ชายแมนๆ ผมคบผู้ชายผมไม่ชอบให้ใครมาว่าผม(ไม่แมน)เลยครับผมอยากให้คิดคำถามว่า การที่คบผู้ชายนั่นแปลว่าคุณไม่แมนแล้วเหรอ ความแมนสำหรับผมคือ ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ ไม่คอยแต่จะเอาเปรียบคนอื่น พูดคำไหนคำนั้น แบบนี้สิถึงจะแมน มันไม่ได้แปลว่าคุณเกิดเป็นผู้ชายแล้วจะแมนนะครับ ยุคนี้ผู้หญิงก็แมนได้เผลอๆแมนกว่าผู้ชายบางคนด้วยซ้ำ ผมไม่ค่อยโอเคกับการที่บางคนเรียกผู้ชายที่คบเพศเดียวกันหรือผู้ชายที่เป็นไบเป็นเกย์หรืออะไรก็แล้วแต่ว่า(เป็นพวกไม่แมน)เลยครับ การเกิดเป็นผู้ชายนั่นคือคุณเป็นผู้ชายมันไม่ได้แปลว่าคุณแมนเก็ทป่ะครับ จะแมนไม่แมนมันขึ้นอยู่กับการกระทำไม่ใช่ว่าเป็นผู้ชายที่คบแต่ผู้หญิงมาตลอดชีวิตจะแมนกันทุกคนนะครับ ผมคิดงี้แหละ
เพราะงั้นคำถามที่ว่าผู้ชายแมนๆจะคบกับเกย์หรือเพศเดียวกันได้มั้ย ผมว่าได้ครับถ้าตัดเรื่องเพศออกแล้วมองกันที่ความรู้สึก มันอาจจะฟังดูขี้จุ๊เบเบ๋แต่ผมคนนึงแหละครับที่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้มองคนที่เพศโฟกัสการใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า คู่ผมผมขอแค่มีกันและกันอยู่ข้างๆแบบนี้ก็ดีแล้วครับไม่ต้องแสดงความรักมากมายก็ได้แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปก็พอถึงจะคบกันได้ไม่นานมากแต่ก็ผูกพันกันไม่น้อยนะครับทุกวันนี้อยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัว
ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรสามารถพูดคุยกันได้นะครับหรือใครมีประสบการณ์มาแชร์กันครับ ที่จริงผมควรไปตั้งกระทู้สนทนาแต่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการเลยตั้งได้แค่กระทู้คำถามครับ
*เนื้อหาส่วนที่เพิ่มเติมภายหลัง*
*เนื่องจากมีบุคคลบางส่วนมีการทะเลาะถกเถียงกัน ผมต้องขออภัยในที่นี้ด้วยนะครับถ้าหากว่ากระทู้ของผมสร้างความแตกแยก แต่ผมไม่ได้มีเจตนาให้เป็นอย่างนั้น ผมแค่แชร์มุมมองของผม
*ถ้าผมกล่าวไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่สบายใจที่มีคนทะเลาะกัน ผมตั้งใจจะลบกระทู้แต่มันไม่สามารถลบเองได้ครับผมต้องแจ้งทีมงานพันทิปให้ลบให้อีกที ฉะนั้นหลังจากนี้ผมขอให้แลกเปลี่ยนมุมมองกันธรรมดาๆนะครับ
*ส่วนถ้าผมพิมพ์อะไรผิดพลาดไปในกระทู้ ผมก็ต้องขออภัยหลังจากนี้ผมจะเซฟและระวังคำของตัวเองให้มากขึ้นครับ
ผู้ชายแมนๆสามารถคบกันได้ครับ (แชร์ประสบการณ์และมุมมองของผม)
ภาพโปรไฟล์เป็นผมกับแฟนเองขอเบลอไว้นะครับเผื่ออาจเดินสวนกันที่จตุจักร(อาย555)
ต้องบอกก่อนว่าปกติผมไม่เคยคบผู้ชายมาก่อนเลยครับคบแต่ผู้หญิงมาตลอดแล้วก็ไม่เคยคิดด้วยว่าวันนึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วตอนนี้ผมก็มีแฟนเป็นผู้ชายครับปัจจุบันอยู่ปี2เหมือนกันซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมปลายเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนต่างห้องครับตอนมัธยมรู้กันแบบเผลินๆเพราะเพื่อนแนะนำ พอเรียนมอเดียวเลยต้องตีสนิทกันไว้ พวกเราเริ่มคบกันตอนจะขึ้นปี1ทำความรู้จักกันช่วงก่อนมหาลัยเปิด สมัยนั้นเล่นเกมด้วยกันเกือบทุกวันครับแล้วก็เปิดไมค์คุยในเกมตลอดมันก็เหมือนโทรคุยกันไปในตัวนั่นแหละเลยทำให้สนิทกันได้เร็ว
จุดที่ทำให้หันมาคบกันได้จะบอกว่ามันคือการอยากลองก็ว่าได้ครับ ผมเป็นคนง่ายๆนะ คบๆเลิกๆมาบ่อยมากก่อนจะคบใครผมก็ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมากมายผมเป็นประเภทที่ว่าคบกันแล้วค่อยไปเรียนรู้ทีหลังก็ได้(ความชอบนะครับ) มันเกิดจากที่ว่าตอนเล่นเกมพับจีไอ้เต้(ขออนุญาตใช้นามสมมุติ) มันเป็นไบเซ็กชวลมั้งผมก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ มันบอกว่าอยากคบกับผมแต่มันก็ไม่เคยคบผู้ชายมาก่อนแล้วก็พูดอีกหลายๆอย่างซึ่งตอนผมฟังมันพูดผมก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากนะ ไม่รู้สิตามออนไลน์เห็นสื่อเกย์ๆบ่อยมากบ่อยจนมองว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาของยุคนี้ไปแล้ว
ผมก็ตอบตกลงกับมันไปนั่นแหละ ผมจำได้ว่าผมพูดกับมันว่า (กูยังไงก็ได้อ่ะ) ตอนนั้นผมคิดว่าความสัมพันธ์ของเราคงไม่จริงจังเดี๋ยวก็เลิกผมเลยไม่ได้ใส่ใจอีกอย่างพวกเราก็โสดกันทั้งคู่ด้วยแค่หาคนแก้เหงาช่วงปิดเทอมมันก็ดี (ตอนแรกผมคิดงี้จริงๆมันอาจจะดู
หลังจากนั้นอะไรๆก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากครับ เราค่อนข้างปฏิบัติต่อกันแบบเพื่อนสนิทแต่แค่จะแคร์ความรู้สึกกันมากขึ้น ช่วงหลังๆนัดกันไปดูหนังแล้วก็นัดกินข้าวบ่อยมาก แต่สถานะบนเฟสบุ๊คไม่ได้ขึ้นนะครับเพราะพวกผมคบกันแบบไม่ค่อยเปิดเผยเท่าไหร่เพื่อนเก่าสมัยมัธยมพวกผมก็ไม่ได้บอกว่ากำลังคบกันอยู่เพราะไม่ค่อยได้ติดต่อกันหลังจากจบม.6 (แต่ตอนนี้ปัจจุบันเพื่อนที่มอบางคนรู้)
ผมยอมรับว่าก่อนหน้านั้นผมไม่จริงจังกับความสัมพันธ์นี้เลย แต่รู้ตัวอีกทีมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้วเป็นเหมือนทั้งเพื่อนสนิทเป็นทั้งพี่น้องเป็นคนที่อยู่ข้างๆกันตลอด มหาลัยผมเขาไม่ได้บังคับให้ปีหนึ่งอยู่หอในครับ ผมกับมันก็เลยอยู่คอนโดด้วยกัน(หารกัน)ทำให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันจากตอนแรกว่าจะไม่จริงจังเลยต้องจริงจังมากขึ้น ตอนนี้ก็ขึ้นปีสองกันแล้วครับ
คู่ของผมจะค่อนข้างเหมือนเพื่อนมากกว่าแฟนเพราะเราหวานไม่ค่อยเป็นครับแต่ก็มีบ้างนิดหน่อยที่ชอบแกล้งกันส่วนมากจะเป็นผมที่โดนกวนตีนบ่อยเพราะปกติผมเป็นคนที่ไม่ชอบกวนใครอยู่แล้ว
-พวกเราไม่เคยมีเซ็กส์กันครับ เพราะผมกับมันเห็นตรงกันที่ว่าเน้นใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่าเอาเซ็กส์เป็นที่ตั้ง ต่อให้ไม่มีเซ็กส์ก็อยู่กันได้ การมีอารมณ์ทางเพศแค่ชั่วครู่มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากสำหรับผมนะ ถ้ามีอารมณ์แค่ช่วยตัวเองแปปเดียวเองปกติก็ทำมาตลอดตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว ไม่ได้ยุ่งยากเพราะงั้นผมเชื่อใจแฟนของผมว่ามันจะไม่นอกใจไปมีคนอื่นเพราะเรื่องบนเตียงแน่นอนครับ ถามว่าเคยคิดบ้างมั้ยเรื่องเซ็กส์ เอาตรงๆเลยผมก็เคยศึกษามาคร่าวๆและผมยังทำใจไม่ได้ครับ เคยเปิดดูหนังโป๊เกย์แล้วรู้สึกรับไม่ค่อยได้ อันนี้ผมรู้ว่ามันฟังดูแปลกๆหลายคนคงคิดว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชายแต่รับเรื่องซ็กส์แบบชายชายไม่ได้มันเป็นไปได้ยังไง คือมันรูทวารครับมันเสี่ยงหลายอย่างแล้วมันก็น่ากลัวมากๆผมเลยไม่อยากมีเซ็กส์ไม่ว่าผมจะเป็นฝ่ายรุกหรือรับก็ตามผมก็ยังไม่โอเคอยู่ดี โชคดีที่แฟนผมมันก็คิดแบบเดียวกันพวกเราเลยมองข้ามเรื่องนี้ไป ส่วนในอนาคตจะมีนั่นค่อยอีกเรื่องนึง ไว้ไปศึกษาให้ดีในอนาคตแล้วกันในส่วนตอนนี้พวกผมโอเคกับความสัมพันธ์แบบนี้อยู่ ผมได้จะเหยียดคนที่มีเซ็กส์ทางนี้นะครับแค่ผมยังทำใจไม่ได้เฉยๆมันต้องใช้เวลาสำหรับผมเพราะผมไม่มีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน
-ไม่พูดคำหวานๆเลยครับ ผมกับมันใช้ภาษาเพื่อนๆกูๆคุยกันครับ อย่างที่บอกว่าเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนมันเลยปรับยากถ้าให้แทนกัน ตัวเอง,ที่รัก อะไรแบบนี้คงขำกลิ้งเพราะมันไม่ชินสำหรับพวกผม
-ใช้เสื้อผ้าตู้เดียวกันใช้ของใช้ร่วมกัน50% เพราะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ตรงนี้ผมชอบมากๆครับเพราะประหยัดค่าอะไรได้เยอะมากๆใช้ร่วมกันได้
-มีเพื่อนเที่ยวเพื่อนกินแล้วก็มีแฟนไปในตัว ผมกับมันก่อนโควิดทำพิษก็ชอบเที่ยวชอบหาไรกิน เที่ยวทุกวันหรือวันเว้นวันบางทีก็ติดๆกันเลยก็มี ไปไหนไปกันตลอดอารมณ์เหมือนไปกับเพื่อนแต่ที่จริงเป็นแฟนอ่ะครับมันดีมากๆผมก็เคยคบผู้หญิงมาก่อนนะส่วนมากเวลาผมคบผู้หญิงผมจะเกรงใจเขาไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำต่างๆต้องคอยดูแลเขาอยู่ตลอดเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันก็ต้องทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษที่ดี แล้วก็ค่าใช้จ่ายผมเป็นคนออกเองเกือบทั้งหมดต้องไปรับไปส่งด้วยแถมมันก็มีหลายๆอย่างที่ผมไม่เข้าใจในตัวเขา ผมไม่ได้จะหมายความว่าผู้หญิงไม่ดีนะครับมันขึ้นอยู่กับบุคคลไม่ได้อยู่ที่เพศผมแค่จะบอกว่าสำหรับผมมันต่างกันยังไงมีอะไรบ้างที่ต่างกัน ตัดมาที่ผมกับแฟนที่เป็นผู้ชายทำอะไรหารครึ่งตลอดครับแต่รถที่ใช้จะเป็นรถแฟนเพราะผมไม่ได้เอารถที่บ้านมาใช้แล้วพ่อก็ไม่ได้ซื้อให้ด้วย ส่วนมากจะวินๆกันครับจ่ายใครจ่ายมันนอกจากจะซื้อมาฝากกัน ซึ่งก็ไม่ค่อยมีการซื้อฝากกันเท่าไหร่ปกติไปไหนไปกันอยู่แล้วเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆพวกผมก็ไปด้วยกันตลอดเพื่อนมันก็เหมือนเพื่อนผม เพื่อนผมก็เหมือนเพื่อนมัน ก็เป็นความสัมพันธุ์ที่ง่ายๆดีเป็นทั้งเพื่อนสนิทเป็นทั้งแฟนครับ
-มีอะไรคุยกันตรงๆไม่อ้อมไม่งอนไม่ง้อครับ เท่าที่คบกันมายังไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงเลย มันไม่มีเรื่องให้ต้องทะเลาะอ่ะครับ เราอยู่ด้วยกันอยู่แล้วเราเปิดอกคุยเรื่องปัญหาต่างๆตลอดครับ การอยู่ด้วยกันมันต้องสนิทใจกันครับอีกอย่างเราโตๆกันแล้วมีอะไรก็ควรหันหน้าคุยกันตรงๆจะได้ช่วยกันแก้ถ้าปล่อยไว้มันจะค่อยๆก่อตัวไปจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตเอาได้
-ไม่งี่เง่า,ไม่หวง,ไม่บ่น เป็นความจริงที่ว่ามาทั้งหมดเลยครับผมไม่รู้ว่าคู่อื่นเป็นมั้ยแต่สำหรับผมคือเราไม่มีหวงกันเลยหรือหวงแต่ไม่พูดอันนี้ก็ไม่รู้ครับไม่เคยถามมัน จะพูดแค่ในมุมมองผมว่าผมไม่เคยหวงมันเกินเหตุเพราะเราอยู่ด้วยกันเกือบทุกวันโทรศัพท์สามารถเช็คได้ตลอดแต่ไม่มีเช็คหรอกเชื่อใจเขาครับ อย่างอื่นๆก็ตามนั้นแหละครับเราคบกันแบบอิสระมากๆแต่ไม่ใช่ให้นอกใจได้นะครับยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียวอย่างอื่นก็ปล่อยเลย ถึงมันจะดูเหมือนเราคบกันแบบง่ายๆไม่จริงจังหรือไม่ผูกมัดดูเหมือนเพื่อนมากกว่าแฟน แต่เรารู้แก่ใจว่าเราเป็นแฟนกันครับ ไม่ค่อยบอกรักกันเคยแค่ครั้งเดียวตอนแรกๆและไม่มีอีกเลย
สุดท้ายผมก็ลืมไปเลยว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง ผมเคยได้ยินบ่อยมากๆเรื่องความรักไม่จำกัดเพศ มันมีจริงๆครับมันไม่เกี่ยวเลยว่าคุณจะเพศไหนสัญชาติอะไรยังไงความรักก็เป็นเรื่องของความรู้สึกอยู่ดี ไม่เกี่ยวกับเพศเลยครับมันอยู่ที่คนคนนั้นมากกว่า ผมชอบเรือนร่างผู้หญิงดูหนังโป๊ยังดูผู้หญิงเลย แล้วทำไมแฟนผมถึงเป็นผู้ชายล่ะ ผู้ชายไม่ได้มีเรือนร่างที่ชวนให้เกิดอารมณ์เลยขนาดกับแฟนผมก็ยังไม่มีอารมณ์สักนิด ผมก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้มากหรอกครับแต่ผมรู้แค่ว่าอยู่ด้วยกันแล้วโครตเข้ากันได้ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข อยู่ด้วยแล้วสนุก ผมชอบเรือนร่างผู้หญิงก็จริงแต่ผมไม่ได้คบเพื่อหวังเซ็กส์อยู่แล้วครับเพราะงั้นมันคือเรื่องของความรู้สึกล้วนๆเมื่อคุณลองตัดเรื่องเพศออก
ผมมั่นใจว่าผมไม่ใช่เกย์ผมไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคนหนิผมชอบแค่แฟนผมคนเดียวและเริ่มแรกผมไม่ได้ชอบมันด้วยซ้ำแค่ลองเปิดใจ แล้วความสัมพันธ์มันก็ก่อตัวขึ้นเองไม่เกี่ยวด้วยว่ามันจะเพศไหนถ้าลองคิดกลับกันว่ามันเป็นหญิงผมก็คบกับมันอยู่ดีแล้วเราคงไม่แปลกแยกหรือโดนนิยามว่าเป็นเพศที่สามถูกไหมครับ ผมไม่เคยแสวงหาอะไรพวกนี้เลยโอกาสเข้ามาเองผมก็แค่ลองเปิดใจดูสักครั้ง ผมก็ได้รู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับเพศไม่เกี่ยวกับเซ็กส์ครับมันอยู่ที่ความรู้สึกของคนสองคนไม่ว่าจะเพศไหนมันก็ใช้ความรู้สึกเหมือนๆกันนั่นแหละ ถ้าคบเพื่อเรื่องเซ็กส์มันไปไม่รอดหรอกครับสักวันก็ต้องเบื่อแล้วไปคบคนใหม่เรื่อยๆ คู่ที่ยังอยู่กันมาได้ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ใช้ความรู้สึกกันหนิครับไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยการหลงไหลเรือนร่างอีกฝ่ายแค่ไหนถ้านิสัยเข้ากันไม่ได้มันก็ไปไม่รอดอยู่ดี
แล้วเรื่องคำว่า ผู้ชายแมนๆ ผมคบผู้ชายผมไม่ชอบให้ใครมาว่าผม(ไม่แมน)เลยครับผมอยากให้คิดคำถามว่า การที่คบผู้ชายนั่นแปลว่าคุณไม่แมนแล้วเหรอ ความแมนสำหรับผมคือ ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ ไม่คอยแต่จะเอาเปรียบคนอื่น พูดคำไหนคำนั้น แบบนี้สิถึงจะแมน มันไม่ได้แปลว่าคุณเกิดเป็นผู้ชายแล้วจะแมนนะครับ ยุคนี้ผู้หญิงก็แมนได้เผลอๆแมนกว่าผู้ชายบางคนด้วยซ้ำ ผมไม่ค่อยโอเคกับการที่บางคนเรียกผู้ชายที่คบเพศเดียวกันหรือผู้ชายที่เป็นไบเป็นเกย์หรืออะไรก็แล้วแต่ว่า(เป็นพวกไม่แมน)เลยครับ การเกิดเป็นผู้ชายนั่นคือคุณเป็นผู้ชายมันไม่ได้แปลว่าคุณแมนเก็ทป่ะครับ จะแมนไม่แมนมันขึ้นอยู่กับการกระทำไม่ใช่ว่าเป็นผู้ชายที่คบแต่ผู้หญิงมาตลอดชีวิตจะแมนกันทุกคนนะครับ ผมคิดงี้แหละ
เพราะงั้นคำถามที่ว่าผู้ชายแมนๆจะคบกับเกย์หรือเพศเดียวกันได้มั้ย ผมว่าได้ครับถ้าตัดเรื่องเพศออกแล้วมองกันที่ความรู้สึก มันอาจจะฟังดูขี้จุ๊เบเบ๋แต่ผมคนนึงแหละครับที่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้มองคนที่เพศโฟกัสการใช้ชีวิตร่วมกันมากกว่า คู่ผมผมขอแค่มีกันและกันอยู่ข้างๆแบบนี้ก็ดีแล้วครับไม่ต้องแสดงความรักมากมายก็ได้แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปก็พอถึงจะคบกันได้ไม่นานมากแต่ก็ผูกพันกันไม่น้อยนะครับทุกวันนี้อยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัว
ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรสามารถพูดคุยกันได้นะครับหรือใครมีประสบการณ์มาแชร์กันครับ ที่จริงผมควรไปตั้งกระทู้สนทนาแต่ยังไม่ได้สมัครสมาชิกอย่างเป็นทางการเลยตั้งได้แค่กระทู้คำถามครับ
*เนื้อหาส่วนที่เพิ่มเติมภายหลัง*
*เนื่องจากมีบุคคลบางส่วนมีการทะเลาะถกเถียงกัน ผมต้องขออภัยในที่นี้ด้วยนะครับถ้าหากว่ากระทู้ของผมสร้างความแตกแยก แต่ผมไม่ได้มีเจตนาให้เป็นอย่างนั้น ผมแค่แชร์มุมมองของผม
*ถ้าผมกล่าวไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่สบายใจที่มีคนทะเลาะกัน ผมตั้งใจจะลบกระทู้แต่มันไม่สามารถลบเองได้ครับผมต้องแจ้งทีมงานพันทิปให้ลบให้อีกที ฉะนั้นหลังจากนี้ผมขอให้แลกเปลี่ยนมุมมองกันธรรมดาๆนะครับ
*ส่วนถ้าผมพิมพ์อะไรผิดพลาดไปในกระทู้ ผมก็ต้องขออภัยหลังจากนี้ผมจะเซฟและระวังคำของตัวเองให้มากขึ้นครับ