อยากถามผู้รู้ประวัติศาสตร์ไทยเกี่ยวกับรายการช่องส่องผีค่ะ?

เนื่องด้ววแม่เราเป็นแฟนตัวยงของรายการนี้นางอินมากจนชอบมาเล่าให้คนในครอบครัวเราเป็นประจำแต่ก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อนักจนกระทั้งเห็นเพจดังเพจนึงแฉรานการนี้เลยสงสัยว่าเรื่องที่พวกเขาเห็นผีในอดีตอะไรแบบนี้มันตรงกับประวัติศาสตร์บ้างไหมคะ? จะได้ลองอธิบายให้แม่ที่อินรายการนี้มาก ทำบุญหมดเงินไปเยอะแล้วด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
พูดถึงเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์อย่างเดียว ไม่พูดถึงประเด็นเรื่องเหนือธรรมชาติครับ

ประวัติศาสตร์ที่รายการดังกล่าวนำเสนอจำนวนมากเรียกได้ว่าแทบไม่มีความสอดคล้องกับหลักฐานประวัติศาสตร์เลย ทั้งหลักฐานประวัติศาสตร์ที่เป็นหลักฐานชั้นต้น หลักฐานชั้นรอง คำให้การ หรือเกร็ดประวัติศาสตร์  และมีการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจำนวนมากแม้แต่ในเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจนจนสามารถสรุปว่าเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ (Historical Fact) ได้  ซึ่งมันส่งผลเสียต่อการศึกษาประวัติศาสตร์มาก เพราะการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายสามารถส่งผลต่อการรับรู้ของคนได้มาก  

รายการมักจะอ้างข้อมูลที่ว่าเป็น "ประวัติศาสตร์นอกตำรา"   ซึ่งปกติคำนี้ส่วนตัวผมเห็นว่าเหมาะจะใช้กับประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในประวัติศาสตร์กระแสหลักหรือประวัติแบบฉบับของรัฐ ไม่ได้บรรจุในแบบเรียน หรือไม่ได้เป็นที่รับรู้โดยทั่วไป  

แต่ทั้งนี้ประวัติศาสตร์นอกตำราเองก็ต้องมีการศึกษาอ้างอิงข้อมูลอย่างเป็นระบบตามระบบวิธีประวัติศาสตร์  ไม่ใช่จะกล่าวอ้างเรื่องใดก็ได้  ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นไม่ควรเรียกว่าเป็นประวัติศาสตร์ตั้งแต่แรก   แม้จะกล่าวอ้างว่าควรใช้วิจารณญาณในการรับชม  ก็ไม่อาจคาดหวังได้ว่าผู้ชมทุกคนจะรับชมอย่างมีวิจารณญาณ  จึงควรมีความรับผิดชอบในการนำเสนอข้อมูลด้วย


จริงอยู่ที่อาจไม่มีคนในปัจจุบันที่เกิดทันประวัติศาสตร์นั้น ประวัติศาสตร์ที่รับรู้อาจไม่ใช่ความจริงแท้ (Truth) ทั้งหมด  และประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งอาจมีความไม่ลงรอยของหลักฐานได้  แต่ก็มีสิ่งที่เรียกว่า "วิธีการทางประวัติศาสตร์" สำหรับการศึกษาค้นคว้าข้อมูลหลักฐานเพื่อวิเคราะห์สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นจริงมากที่สุดขึ้น  ควรพิจารณาว่าความน่าเชื่อที่ผ่านกระบวนการการศึกษาตามระบบวิธีควรจะมีความน่าเชื่อมากกว่าคำกล่าวอ้างของบุคคลเดียวที่ไม่มีการอ้างอิงหลักฐานครับ  

นอกจากนี้ส่วนตัวผมเห็นว่าประโยค "ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์" มันอาจจะส่วนจริง แต่ไม่ใช่ประโยคที่ดีในการอธิบายประวัติศาสตร์นัก  เพราะหลักฐานประวัติศาสตร์สามารถเขียนได้จากทั้งผู้ชนะ ผู้แพ้ หรือผู้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย  และหลักฐานจากผู้ชนะอาจไม่ได้แปลว่าจะไม่มีความน่าเชื่อถือ   การมี mindset เช่นนี้แสดงให้เห็นถึงการมีอคติต่อตัวหลักฐานตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นศึกษาวิเคราะห์  ทั้งนี้ไม่ว่าหลักฐานใดๆ ก็ต้องใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์วิพากษ์ความน่าเชื่อถือเสมอก่อน มากกว่าจะใช้ประโยคนี้มาตัดจบประเด็นครับ


ในเรื่องการนำเสนอข้อมูลประวัติศาสตร์ที่คลาดเคลื่อนของรายการนี้ พอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้ครับ

- กล่าวอ้างประวัติพระยาพลเทพในสงครามเสียกรุง พ.ศ. ๒๓๑๐ จำนวนมากโดยไม่มีหลักฐานรองรับ  และอ้างว่าพระยาพลเทพตายที่วัดครุฑธารามจนกลายเป็นเปรตเฝ้าวัด  ขัดแย้งกับพงศาวดารพม่าระบุชื่อพระยาพลเทพเป็นหนึ่งในเสนาบดีอยุทธยาที่ถูกกวาดต้อนไปพม่า

- กล่าวว่าพระปีย์ พระราชโอรสบุญธรรมของสมเด็จพระนารายณ์ตายหลังสมเด็จพระนารายณ์สวรรคต  ขัดแย้งกับพงศาวดารของไทยทุกฉบับ รวมถึงหลักฐานชั้นต้นของฝรั่งเศสและดัตช์จำนวนมากที่ระบุตรงกันว่าพระปีย์ถูกจับไปประหารก่อนสมเด็จพระนารายณ์สวรรคต   หลักฐานฝรั่งเศสทุกชิ้นระบุตรงกันว่าพระปีย์ถูกจับไปประหารในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๒๓๑ หลังจากพระเพทราชาปฏิวัติยึดอำนาจ    ส่วนสมเด็จพระนารายณ์สวรรคตในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน

- กล่าวถึงทรงผมราชปะแตน ซึ่งราชปะแตนเป็นชื่อเครื่องแบบข้าราชการ ไม่ใช่ชื่อทรงผม

- กล่าวว่าวัดกุฎีดาวสร้างในรัชกาลพระเจ้าเอกทัศ และยอดเจดีย์ในวัดหักลงมาเพราะถูกปืนใหญ่พม่ายิง  ขัดแย้งกับหลักฐานจำนวนมากที่ระบุว่าวัดกุฎีดาวสร้างมาก่อนหน้านั้นเป็นเวลานานแล้ว  และมีการบูรณะครั้งใหญ่ในรัชกาลพระเจ้าท้ายสระ โดยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศที่เป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลทรงเป็นแม่กองรับผิดชอบจนสำเร็จใน พ.ศ. ๒๒๖๘ และมีการฉลองใหญ่   พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศยังผนวชที่วัดนี้ใน พ.ศ. ๒๒๗๐ ด้วย     ส่วนเรื่องเจดีย์หักก็มี “รายงานการบูรณะและปรับปรุงภูมิทัศน์วัดกุฎีดาว เมื่อปี ๒๕๔๓” ร่วมกับคำให้การของคนท้องถิ่นระบุว่าเพิ่งหักมาไม่นานด้วยปัญหาเรื่องโครงสร้าง    ตำแหน่งของวัดก็ตั้งอยู่นอกเมืองไปไกลพอสมควร  ไม่มีเหตุผลที่พม่าจะไปยิงปืนใส่

- กล่าวว่าพระพุทธชินราชสร้างสมัยสมเด็จพระนเรศวร  ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักฐานที่บ่งชี้ว่าพระพุทธชินราชสร้างขึ้นมาก่อนหน้านั้นแล้ว  แม้ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าสร้างสมัยใด (ตำนานระบุว่าสร้างโดยพระศรีธรรมไตรปิฎกผู้สร้างเมืองพิษณุโลก มีการสันนิษฐานว่าคือพญาลิไท)  แต่ปรากฏในพงศาวดารว่สสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถเสด็จขึ้นไปสักการะที่เมืองพิษณุโลกใน พ.ศ. ๑๙๘๑

- กล่าวว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีขี่ช้างไม่เป็น  ทั้งที่มีบันทึกในพงศาวดารจำนวนมากกล่าวถึงการทรงช้างพระที่นั่งของพระองค์หลายครั้ง  โดยเฉพาะในศึกตีเมืองจันทบูรที่ "เสด็จทรงช้างพระที่นั่งพังคิรีกุญชรฉัททันต์เข้าทะลายประตูใหญ่ เหล่าทหารซึ่งรักษาประตูและป้อมเชิงเทินนั้นก็ยิงปืนใหญ่น้อยดุจห่าฝน แลจะได้ถูกต้องโยธาผู้ใดผู้หนึ่งหามิได้ กระสุนปืน ลอดท้องช้างพระที่นั่งไป ควาญช้างจึงเกี่ยวไว้ให้พังคิรีกุญชรถอยออกมา พระเจ้าอยู่หัวทรงพระโกรธเงื้อพระแสงจะลงพระราชอาชญานายควาญช้างขอพระราชทานโทษได้ จึงทรงพระแสงกฤชแทงพังคิรีกุญชรขับเข้าทะลายประตูพังลง"

- กล่าวว่าขุนแผนเป็นญาติขุนวรวงศาธิราชซึ่งเป็นคนสุพรรณบุรีและเป็นคนนำขุนวรวงศาธิราชเข้าวัง  ซึ่งไม่มีหลักฐานใดรองรับ  และตัวตนของขุนแผนก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีตัวตนจริงหรือไม่  ถ้ามีอยู่จริงก็น่าจะเป็นคนละยุคสมัย เพราะคำให้การชาวกรุงเก่าระบุว่าขุนแผนมีชีวิตอยู่ในสมัยสมเด็จพระพันวสาที่สันนิษฐานว่าคือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒

- กล่าวว่านายจันทร์หนวดเขี้ยวสั่งให้ลูกชายไปหาพระเจ้ากรุงธนบุรีที่จันทบุรี  แต่ค่ายบางระจันแตกในเดือน ๘ พ.ศ. ๒๓๐๙   พระเจ้ากรุงธนบุรียังอยู่ในกรุงศรีอยุทธยามาจนถึงเดือน ๒ ปลายปี พ.ศ. ๒๓๐๙ (พ.ศ. ๒๓๑๐ ถ้านับปีแบบปัจจุบัน) แล้วจึงเสด็จหนีออกจากพระนครไปทางตะวันออก  เพิ่งตีเมืองจันทบูรได้ในเดือน ๗ พ.ศ. ๒๓๑๐

- กล่าวว่าพระยาเกียรติ พระยาราม ขุนนางมอญที่ตามเสด็จสมเด็จพระนเรศวรกลับชาติมาเกิดเป็นสุนัข อีกคนยังเป็นดวงวิญญาณอยู่  แต่ก่อนหน้านั้นกลับเคยดูอดีตชาติให้คนที่มาดูดวงแล้วระบุว่าชาติก่อนเคยเป็นหนึ่งในพระยาสองคนนี้  ทำให้เกิดกระแสแสดงถึงความไม่เหมาะสมมากพอสมควร เพราะมีหลักฐานบางแห่งที่อ้างว่าพระยาเกียรติผู้นี้เป็นบรรพชนของราชวงศ์จักรี

- ล่าสุดคือกล่าวว่าสุนทรภู่เสียชีวิตที่เมืองแกลง  แต่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสุนทรภู่เสียชีวิตที่กรุงเทพฯ จำนวนมาก (แต่ยังสรุปชัดเจนไม่ได้ว่าเป็นที่ไหน) ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่าสุนทรภู่ได้ไปเมืองแกลงอีกเลยนับตั้งแต่แต่งนิราศเมืองแกลง และครั้งนั้นสุนทรภู่ก็ไม่ได้เต็มใจจะไปด้วยจนเขียนไว้ในนิราศเมืองแกลงว่า "แม้นเจ้านายไม่ใช้แล้วไม่มา" จึงดูไม่มีเหตุผลที่สุนทรภู่จะไปเมืองแกลง


นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่หลายคนเห็นว่าไม่เหมาะสมคือมีการพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์ และบุคคลสำคัญในอดีตโดยปราศจากหลักฐาน  และยังส่งผลกระทบอื่นๆ เช่น ผู้ชมที่เชื่อข้อมูลที่รายการนำเสนอเอาเครื่องเซ่นไหว้ไปกราบไหว้บริเวณโบราณสถานที่ใช้ถ่ายทำจนโบราณสถานเกิดความเสียหาย เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่