กว่าจะมาเป็น - NKO ศิลปินเบอร์แรกของค่าย KAMI ENTERTAINMENT


จ๊าบ  เตวิช คำมงคล
JAB : Beginner

ผมเป็นคนกลัวการเริ่มต้นมาก เพราะการเริ่มต้นมักมาพร้อมกับความคาดหวังและความกดดันจากตัวเอง โปรเจ็คนี้เป็นครั้งแรก ที่ผมเรียนร้อง เรียนเต้น และมันไม่ได้สวยงามเหมือนที่ผมคิดไว้เลยครับ ผมกดดันตัวเองมากๆ รู้สึกว่า ทำไมตัวเองทำไม่ได้เท่าที่ตั้งไว้ เหนื่อยนะครับ ท้อมากด้วย กลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดี แต่วันนี้ผมพอมองย้อนกลับไป นั้นคือครั้งแรกของผมจริงๆ ผมได้ก้าวผ่านความกลัวนั้นได้ ผมกล้าที่จะฝึกและพัฒนาในทุก ๆ ด้าน ผมไม่รู้ว่าครั้งแรกกับการเป็นศิลปินของผมจะไปไกลได้แค่ไหน แต่ผมไม่เสียดายเลยครับ เพราะผมได้ลงมือทำอย่างตั้งใจและเต็มที่ที่สุดแล้ว

แพนแพน  พุทธิชาต ฉัตรชัยสุชา
PANPAN : Ordinary boy

ผมเป็นเด็กธรรมดาคนนึงที่ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่ได้เก่งอะไรเป็นพิเศษสักอย่าง แต่พอวันนึงเมื่อผมได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนนึงกับ NKO มันทำให้ผมเห็นเป้าหมายของผมมากขึ้น ผมพยายามเรียนรู้ ทั้งการร้อง และการเต้น ถึงแม้ผมจะเริ่มจาก 0 เลยก็ตาม แต่สิ่งที่ผมมีคือความตั้งใจ มีจุดมุ่งหมาย มีความต้องการที่สูง เเละผมคิดว่า ผมจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ เเละพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

บอล  ภาคิน สีอ่อน
BALL : journey

การเดินทางตามความฝันของผมมันเริ่มต้นมายาวนานแล้ว จนผมก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าครั้งแรกมันรู้สึกอย่างไร มันมีความสุขแค่ไหน แต่สิ่งที่ผมจำได้ดีคือความรู้สึกโดดเดียวที่ ต้องเห็นคนที่เดินมาตั้งแต่ต้นพร้อมกัน เค้าไปถึงจุดหมายแล้ว แต่ตัวผมยังคงยืนอยู่ตรงนี้ และยังคงรอว่าสักวันนึงผมจะไปถึงเป้าหมายของตัวเองบ้าง ยิ่งใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่ บ้างครั้งระยะเวลามันก็สร้างบาดแผลในใจ แต่ทุกครั้งรอยยิ้มจากครอบครัว คือสิ่งเดียวที่ทำให้บาดแผลนั้นจางลงไป คือสิ่งเดียวที่ทำให้ผมมีพลังเดินทางต่อไป และถ้าผมไม่หยุดเดินผมคิดว่าผมคงถึงที่แห่งนั้นสักวันหนึ่ง

กันกัน  กัญจน์ เตียวสุวรรณ
GUNGUN : mind

“ เราต้องทำได้สิ เราต้องทำได้ “ คำพูดเหล่านี้ วนเวียนอยู่ภายในความคิดของผมเสมอ ทั้งตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงตอนนี้ ทั้งมาจากรอบข้างที่เชื่อมั่นในตัวผม และมาจากภายในตัวผมที่ผมบอกตัวเองว่า “ผมต้องทำได้” แต่ก็มีหลายครั้งที่เสียงมันดูแผ่วเบาลง แต่มันไม่เคยหายไปจากความคิดของผมเลย เพราะต่อให้ผมท้อ ผมเหนื่อยแค่ไหน พักสักหน่อยมันก็คงหายไป แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ มีเพียงความฝันของผมเท่านั้น ผมหวังว่าผมจะไปยืนอยู่บนเวทีสักวัน และสิ่งที่ผมหวังตอนนี้มากที่สุดคงเป็นเพียงการเปลี่ยนจากความคิด ให้กลายเป็นความจริง เปลี่ยนจาก “ผมต้องทำได้” เป็น “ผมทำได้แล้ว “

แดเนี่ยล  Cheng Yu Chang
DANIEL : minus

สิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่มันไม่เคยเป็นเรื่องง่ายเลย บางคนอาจจะเริ่มต้นจากศูนย์ แต่ตัวผมนั้นเหมือนว่าเริ่มต้นจากการติดลบ เลยด้วยซ้ำ เพราะพื้นฐานของผมนั้นมันน้อยกว่าคนอื่นมาก ผมพูดภาษาไทยก็ไม่เก่ง ร้องก็ไม่ได้ เต้นผมก็ไม่ได้ ผมเลยต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น เป็น 2 เท่า หรือ 3 เท่า เพราะสิ่งเดียวที่ผมเชื่อมั่นคือ “ตัวผม” คงไม่มีใครที่ทำให้ความฝันของผมเป็นจริงได้นอกจากตัวผมเอง ผมเลยต้องพยายาม พยายามให้สุดความสามารถ วิ่งตามความฝันจนกว่าผมจะวิ่งมันไม่ได้ แต่ถึงผมใช้ขาวิ่งไม่ได้ ผมก็ยังคงใช้หัวใจวิ่งต่อไปอยู่ดี

ฟลุ๊ค  ชัชวาล จิตรักธรรม
FLUK : The invisible wall

ทุกๆ คนมีความฝันของตัวเอง ผมก็เหมือนกัน แต่ความฝันของผมไม่เหมือนคนอื่น ความฝันของผมคือการทำลายกำแพงที่มองไม่เห็น และกำแพงนั้นก็คือ การร้อง และการเต้น จนผมก้าวเข้ามาในวง NKO ผมไม่รู้เลยว่ากำแพงนี้มันจะสูงมากและทำลายยากแค่ไหน ผมฝึกฝนทั้งที่ผมทำไรไม่ได้เลย มันทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ แถมยังมีอุปสรรคอีกมากมายให้ผมได้ข้ามผ่านมันไป มันทำให้ผมมีน้ำตาในวันที่ท้อ อยากก้าวออกมาในวันที่เหนื่อยล้า แต่สุดท้ายแล้วความพยายามที่ผมจะทำลายกำแพงนี้มันก็ทำให้ผมลุกขึ้นสู้ ลุกขึ้นมาพยายามที่จะทำลายมันอีกครั้ง จนสุดท้ายแล้วผมก็ทำลายมันจนได้ และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าและทำลายกำแพงต่อ ๆ ไปโดยไม่ถอย

ฟร้อง  ภควัต ภัคเกษม
FONG : Déjà vu

เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้มันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม ก่อนหน้านี้ผมเคยเข้าร่วมโปรเจคหนึ่ง ผมต้องเรียนร้อง เต้น การแสดง ปรับบุคลิก แต่ตอนนั้นผมโดนทุกคนมองว่าผมคือตัวปัญหาของกลุ่มดึงคนอื่นลงมา ผมเลยพยายาม ซ้อมให้มากกว่าคนอื่น ตั้งใจให้มากกว่าคนอื่น แต่สุดท้าย โปคเจคก็โดนยกเลิกไป ทุก ๆ วันหลังโปรเจคจบไป ผมก็ยังคงซ้อมเพื่อเตรียมพบกับโอกาสอีกครั้งหนึ่ง และแล้วผมก็ได้ไปออดิชั่นเพื่อค้นหาไปเป็นเด็กฝึกหัดที่เกาหลี และผมก็ได้โอกาสนั้น แต่ก่อนเดินทางไปเกาหลี แล้วอยู่ ๆ โครงการก็ล้มเลิกไป หลาย ๆ เรื่องราวมันดูเหมือนวนกลับมาที่เดิมทุกครั้ง และครั้งนี้ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเหมือนเดิมอีกไหม แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็ยังคงตัดสินใจเหมือนเดิม เพราะผมยังมีความฝันเป็นเป้าหมายที่ผมวางไว้อยู่ดี

ไฮเตอร์  ณัฏฐ์ธรรศ คุณากรเกียรติ
HITER : responsible

เมื่อพูดถึงความฝัน ผมคิดเสมอว่าสักวันหนึ่งผมจะต้องเป็นศิลปินที่มีความสามารถและมีคุณภาพให้ได้ ผมจึงพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาและเปิดรับทุก ๆ โอกาสที่เข้ามา ผมรู้ว่าการวาดฝันมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากมาย และการฝันสูงก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่สิ่งที่ยากมันเริ่มต้น เมื่อเราเริ่มต้นออกไล่ตามความฝัน สำหรับผมมันก็มีบางครั้งที่รู้สึกเหนื่อย หลาย ๆ ครั้งที่รู้สึกท้อ จนอยากจะยอมแพ้ หลาย ๆ ครั้งที่อ่อนแอ และหลาย ๆ ครั้งที่แอบร้องไห้คนเดียว แต่ทุก ๆครั้งผมก็จะบอกตัวเองเสมอว่า กล้าฝันก็ต้องรับผิดชอบความฝันให้ได้ วันนี้ผมเลือกที่จะลุกขึ้นมาไล่ตามความฝันของผมอีกครั้งในสิ่งที่ผมก็ไม่เคยทำมาก่อน และครั้งนี้ผมจะวิ่งให้สุดแรงและตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด เพราะความฝันของผมยังรอผมอยู่ข้างหน้า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่