ผมสงสัยว่าตัวเองเป็น 2 โรคนี้ครับ แรกเริ่มเลยคือ ประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้น อายุ
ประมาณ 14 ปี ตอนนั้นอยู่ดีๆผมก็เจ็บอัณฑะขึ้นมา
พอลองคลำดู เจอก้อนเล็กๆครับที่อัณฑะข้างขวา แล้วเจ็บมากแต่เจ็บอยู่ 2 วันก็หาย เลยปล่อยไปไม่สนใจ(ก้อนเล็กๆยังอยู่)
(อาการผิดปกติที่ผมเริ่มพบในตัวเอง ช่วงเวลานั้นคือ 1.อัณฑะไม่เท่ากัน ข้างขวาใหญ่กว่าซ้าย
2.ร่างกายผมเริ่มผอมผิดปกติ แขนขาเริ่มเล็กหนังติดกระดูกอย่างไม่มีสาเหตุ)
แต่ผมก็ไม่ได้บอกใครครับ เพราะกลัวไปหมด บวกกับยังเด็กด้วย
ต่อมา ตอนอายุประมาณ 17 เริ่มมีอาการใหม่เข้ามาคือ ฉี่กระปิดกระปอย หลังฉี่เสร็จจะมีฉี่เล็ดเปื้อนกางเกงในไปหมด เหมือนฉี่ไม่สุด แล้วบางครั้งอยู่ดีๆจะมีอาการแปล้บๆขึ้นมาที่บริเวณต่อมลูกหมาก แต่นานๆทีจะเป็น
แต่เพราะยังเรียนไม่จบ บวกกับกลัวทุกๆอย่าง เลยไม่ได้บอกใครอีกตามเคย
(อาการที่ผมบอกไปข้างต้น นานๆทีจะเป็นครับ เลยปล่อยไป)
จนปัจจุบัน ผมอายุ 25 แล้วครับ อาการที่ผมยังเป็นอยู่ตอนนี้คือ
1.อัณฑะไม่เท่ากัน ขวาใหญ่กว่าซ้าย ก้อนเนื้อที่เคยจับได้ตอนอายุ 14 ก็ยังอยู่ แต่ไม่เจ็บและขนาดเท่าเดิม
2.นานๆทีจะมีอาการ เหมือนกับตอนอายุ 17 ครับ
3.ร่างกายผม ผอมผิดปกติครับ กินเก่งแค่ไหนน้ำหนักก็ลด อาการนี้เป็นตั้งแต่อายุ 14 จนปัจจุบัน
4.ร่างกายผมผอมมากครับ มีแต่หนังหุ้มกระดูก แต่มีหน้าอกใหญ่ ผมเคยอ่านมาครับว่า ผู้ชายที่เป็นมะเร็งอัณฑะจะมีฮอร์โมนเพศหญิงสูง ไม่รู้เกี่ยวไหม
นี่คืออาการทั้งหมดที่ผมประสบพบเจอตอนนัครับ ตอนนี้ผมโตแล้ว เริ่มมีสิ่งที่ต้องคิด วางแผน และต้องดูแลครับ จะอยู่ไปวันๆแล้วปล่อยเรื่องนี้ไว้ไม่ได้แล้วครับ
ผมจึงมีความคิดที่จะไปตรวจและรักษาครับ(ใช้บัตรทอง)
แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้บอกใคร ผมกลัวไปหมดครับ ไม่ต่างกับตอนเด็กเลย นึกว่าโตมาแล้วจะมีความกล้ามากกว่านี้แท้ๆ
แม่เลี้ยงผมมาคนเดียวครับ ผมไม่กล้าบอกแม่
ผมยังไม่มีครอบครัวครับ แต่มีแฟนที่คบมานานหลายปีแล้ว ผมไม่กล้าบอกแฟน
ตอนนี้ทำใจอยู่ครับ ผมกลัวไปหมด จะมีค่ารักษาที่บัตรทองไม่ครอบคลุมไหม รักษามาแล้วร่างกายผมจะปกติไหม จะอั้นฉี่ได้เหมือนเดิมหรือเปล่า จะมีลูกไม่ได้แล้วใช่ไหม เพราะถ้าเป็นจริงๆก็ต้องตัดไข่ทัง
ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ ฐานะยากจน ถ้ามีอะไรที่ต้องออกเงินเอง ผมไม่ไหวจริงๆครับ
แล้วที่ผมปล่อยมาเป็น 10 ปีนี้ มันจะสายไปแล้วหรือเปล่า ถ้าตอนอายุ 14 เป็นจริง ตอนนั้นระยะแรก ส่วนตอนนี้น่าจะระยะลุกลามหรือแพร่กระจายไปแล้ว ผมกลัวจริงๆ ยิ่งถ้ามันเป็นมะเร็งถึง 2 ที่พร้อมๆกัน ผมตายแน่ๆ
แต่ยังไงผมจะรวบรวมความกล้าแล้วบอกคนในครอบครัว จากนั้นจะไปตรวจและรักษาให้หายและกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ได้ครับ
เล่ามาตั้งยาว ผมแค่อยากมาระบายความรู้สึกครับ เพราะในชีวิตจริงผมไม่ได้บอกใครเลย ผมเก็บไว้คนเดียวมาตลอดเป็น 10 ปี
สรุปสิ่งที่ผมอยากทราบคือ ตลอด ตั้งแต่การตรวจและรักษาจนหายของมะเร็งอัณฑะกับมะเร็งต่อมลูกหมาก ฟรีไหมครับ มีอะไรที่ต้องเสียเงินไหม อยากหาความรู้ไว้ก่อนที่จะไปหาหมอจริงๆด้วยตัวเองครับ
คือถ้ามันมีอะไรที่ต้องใช้เงินจริงๆ ผมจะเลือกที่จะไม่รักษาครับ แล้วปล่อยไปเรื่อยๆใช้ชีวิตไปตามปกติแล้วแต่เวรกรรม ถ้าวันนึงอาการหนักจริงๆคงต้องฆ่าตัวตายครับ แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากตายครับ แต่ไม่มีปัญญาหาเงินมารักษาจริงๆ
ยังไงขอคำแนะนำด้วยนะครับ
มะเร็งอัณฑะกับมะเร็งต่อมลูกหมากใช้บัตรทองรักษาฟรีจนหายได้ไหม
ประมาณ 14 ปี ตอนนั้นอยู่ดีๆผมก็เจ็บอัณฑะขึ้นมา
พอลองคลำดู เจอก้อนเล็กๆครับที่อัณฑะข้างขวา แล้วเจ็บมากแต่เจ็บอยู่ 2 วันก็หาย เลยปล่อยไปไม่สนใจ(ก้อนเล็กๆยังอยู่)
(อาการผิดปกติที่ผมเริ่มพบในตัวเอง ช่วงเวลานั้นคือ 1.อัณฑะไม่เท่ากัน ข้างขวาใหญ่กว่าซ้าย
2.ร่างกายผมเริ่มผอมผิดปกติ แขนขาเริ่มเล็กหนังติดกระดูกอย่างไม่มีสาเหตุ)
แต่ผมก็ไม่ได้บอกใครครับ เพราะกลัวไปหมด บวกกับยังเด็กด้วย
ต่อมา ตอนอายุประมาณ 17 เริ่มมีอาการใหม่เข้ามาคือ ฉี่กระปิดกระปอย หลังฉี่เสร็จจะมีฉี่เล็ดเปื้อนกางเกงในไปหมด เหมือนฉี่ไม่สุด แล้วบางครั้งอยู่ดีๆจะมีอาการแปล้บๆขึ้นมาที่บริเวณต่อมลูกหมาก แต่นานๆทีจะเป็น
แต่เพราะยังเรียนไม่จบ บวกกับกลัวทุกๆอย่าง เลยไม่ได้บอกใครอีกตามเคย
(อาการที่ผมบอกไปข้างต้น นานๆทีจะเป็นครับ เลยปล่อยไป)
จนปัจจุบัน ผมอายุ 25 แล้วครับ อาการที่ผมยังเป็นอยู่ตอนนี้คือ
1.อัณฑะไม่เท่ากัน ขวาใหญ่กว่าซ้าย ก้อนเนื้อที่เคยจับได้ตอนอายุ 14 ก็ยังอยู่ แต่ไม่เจ็บและขนาดเท่าเดิม
2.นานๆทีจะมีอาการ เหมือนกับตอนอายุ 17 ครับ
3.ร่างกายผม ผอมผิดปกติครับ กินเก่งแค่ไหนน้ำหนักก็ลด อาการนี้เป็นตั้งแต่อายุ 14 จนปัจจุบัน
4.ร่างกายผมผอมมากครับ มีแต่หนังหุ้มกระดูก แต่มีหน้าอกใหญ่ ผมเคยอ่านมาครับว่า ผู้ชายที่เป็นมะเร็งอัณฑะจะมีฮอร์โมนเพศหญิงสูง ไม่รู้เกี่ยวไหม
นี่คืออาการทั้งหมดที่ผมประสบพบเจอตอนนัครับ ตอนนี้ผมโตแล้ว เริ่มมีสิ่งที่ต้องคิด วางแผน และต้องดูแลครับ จะอยู่ไปวันๆแล้วปล่อยเรื่องนี้ไว้ไม่ได้แล้วครับ
ผมจึงมีความคิดที่จะไปตรวจและรักษาครับ(ใช้บัตรทอง)
แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้บอกใคร ผมกลัวไปหมดครับ ไม่ต่างกับตอนเด็กเลย นึกว่าโตมาแล้วจะมีความกล้ามากกว่านี้แท้ๆ
แม่เลี้ยงผมมาคนเดียวครับ ผมไม่กล้าบอกแม่
ผมยังไม่มีครอบครัวครับ แต่มีแฟนที่คบมานานหลายปีแล้ว ผมไม่กล้าบอกแฟน
ตอนนี้ทำใจอยู่ครับ ผมกลัวไปหมด จะมีค่ารักษาที่บัตรทองไม่ครอบคลุมไหม รักษามาแล้วร่างกายผมจะปกติไหม จะอั้นฉี่ได้เหมือนเดิมหรือเปล่า จะมีลูกไม่ได้แล้วใช่ไหม เพราะถ้าเป็นจริงๆก็ต้องตัดไข่ทัง
ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ ฐานะยากจน ถ้ามีอะไรที่ต้องออกเงินเอง ผมไม่ไหวจริงๆครับ
แล้วที่ผมปล่อยมาเป็น 10 ปีนี้ มันจะสายไปแล้วหรือเปล่า ถ้าตอนอายุ 14 เป็นจริง ตอนนั้นระยะแรก ส่วนตอนนี้น่าจะระยะลุกลามหรือแพร่กระจายไปแล้ว ผมกลัวจริงๆ ยิ่งถ้ามันเป็นมะเร็งถึง 2 ที่พร้อมๆกัน ผมตายแน่ๆ
แต่ยังไงผมจะรวบรวมความกล้าแล้วบอกคนในครอบครัว จากนั้นจะไปตรวจและรักษาให้หายและกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ได้ครับ
เล่ามาตั้งยาว ผมแค่อยากมาระบายความรู้สึกครับ เพราะในชีวิตจริงผมไม่ได้บอกใครเลย ผมเก็บไว้คนเดียวมาตลอดเป็น 10 ปี
สรุปสิ่งที่ผมอยากทราบคือ ตลอด ตั้งแต่การตรวจและรักษาจนหายของมะเร็งอัณฑะกับมะเร็งต่อมลูกหมาก ฟรีไหมครับ มีอะไรที่ต้องเสียเงินไหม อยากหาความรู้ไว้ก่อนที่จะไปหาหมอจริงๆด้วยตัวเองครับ
คือถ้ามันมีอะไรที่ต้องใช้เงินจริงๆ ผมจะเลือกที่จะไม่รักษาครับ แล้วปล่อยไปเรื่อยๆใช้ชีวิตไปตามปกติแล้วแต่เวรกรรม ถ้าวันนึงอาการหนักจริงๆคงต้องฆ่าตัวตายครับ แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากตายครับ แต่ไม่มีปัญญาหาเงินมารักษาจริงๆ
ยังไงขอคำแนะนำด้วยนะครับ