ประสบการณ์ครั้งแรกกับการสั่งของจากอเมริกามาไทยที่เกือบไม่ได้ของ!! 🇺🇸🇹🇭
เรามีงานประจำ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดเลยทำให้ได้หยุดงานชั่วคราว และไม่รู้จะได้กลับไปทำงานเมื่อไหร่ กลับมาอยู่ต่างจังหวัดเลยลองหาของมาขาย แรกๆก็เอาของที่ตัวเองมีอยู่ที่ยังไม่ได้ใช้มาขาย ก็พวกเครื่องสำอางค์/สกินแคร์พวกนี้ รับมาจากเพื่อนในบริษัทบ้าง หรือสั่งจากเว็บไทยบ้าง
มีวันนึงก็คิดว่าจะสั่งของจากเมกามาไทยดีกว่าเพราะที่เมกามันมีโปรโมชั่นบ่อยๆ ก็เริ่มหาข้อมูลในเน็ตเรื่องว่าจะสั่งของผ่านชิปปิ้งไหนดีนะ ??? เลยไปเจอคนนึงใน youtube นางเป็นบล็อกเกอร์ เค้าแนะนำ”การซื้อของเอง จ่ายเอง ส่งเอง จากเมกากลับไทย “ ใต้ยูทูปจะมีแนะนำไอดีไลน์ติดต่อชิปปิ้งอยู่สองคนค่ะ คนนึงเป็นผู้หญิงอีกคนนึงเป็นผู้ชาย(เดาเอาจากชื่อนะคะ ) ซึ่งเราเองก็เลือดแอดไลน์กับผู้หญิงไป ขอเรียกแทนคนนั้นว่า ม. นะคะ ม. คุยดีมากค่ะทุกอย่างพูด “จ้ะ/จ้า” บ่อยๆหน่อย ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งของได้ดี ว่ากิโลละเท่าไหร่ๆ ปิดรอบวันไหนบ้าง บลาๆเราเลือกสั่งของเองจ่ายเองนะคะ เพราะว่าเคยไปอยู่อเมริกามาช่วงนึงเลยรู้ว่าการสั่งต้องทำยังไงบ้างถึงจะได้ส่วนลด
สั่งอะไรไปก็ต้องแจ้งเลขออเดอร์กับ ม. ทุกครั้งเพราะนางจะได้เช็คกับทางเมกาให้ เออใช่เค้ามีแนะนำให้ซื้อน้ำหนักแบบเหมา10กิโล 8300 บาท ก็ตกกิโลละ 830 บาท (ปกติคิดกิโลละ900)ถ้าน้ำหนักเหลือสามารถเรียกคืนน้ำหนักได้ค่ะก็ตกลงเพราะเราคิดว่าจะสั่งของเยอะอยู่แล้วสิ่งที่ตัวเองอยากได้ก็เยอะสิ่งค่ะ 555 เราก็เริ่มสั่งของค่ะจากเว็บในเมกาส่วนใหญ่เป็นเว็บที่ขึ้นชื่อ Sephora/ Bobbibrown /Kiehls /...อะไรพวกนี้ค่ะ พอก่อนวันปิดรอบ ม. ก็แจ้งมาว่าของถึงครบแล้ว พร้อมส่งรูปของที่เราสั่งมาให้ดูและถามเราว่าครบนะกี่กล่องๆ เราเลยถามเค้าเรื่องน้ำหนักของที่เราสั่งไปทั้งหมด(8กล่อง) ม.บอกว่าถึงไทยจะแจ้งไปอีกทีเพราะ ม.ได้ชั่งน้ำหนักแบบรวมกับคนอื่นมา เราก็คิดว่าคงแบบนั้นเพราะว่าคนคงสั่งกับ ม. เยอะ น่าจะตามมาจากBlogger ที่แนะนำลูกค้าเกี่ยวกับชิปปิ้ง เลยไม่คิดอะไรมาก ของเราปิดรอบวันที่5 มิถุนายน 2563 ค่ะ ม. ก็ได้แจ้งว่าของจะถึงไทยรอบนี้เร็วประมาณวันที่ 21-22 มิถุนายน 2563 และเสนอให้ซื้อน้ำหนักเพิ่มให้ช่วยๆกันหรือหารกับลูกค้าคนอื่น แต่ก็ตอบ ม. ไปว่ารอของรอบนี้ก่อน
ในระหว่างที่เรารอของมาถึงไทย ... เราก็อยากได้ชิปปิ้งที่ราคาถูกกว่านี้ ว่างไง!! โควิดก็หาไรทำไปสิ ก็เลยหาชิปปิ้งที่ถูกกว่า เราก็ไปเจอชิปปิ้งนึงเออดูเค้าก็มีรอบส่งสินค้าตลอดๆคนสั่งเยอะดี อัพเดตทุกอย่างว่าของถึงไทยรึยัง จะส่งของวันไหนๆ ราคาถูกกว่าที่สั่งกับ ม. เลยทักไปถามข้อมูล เลยได้ที่อยู่โกดังที่เมกามาเป็นที่เดียวกันกับที่เราสั่งจาก ม.
ปกติสั่งของ Firstname : เราจะเขียนชื่อตามที่เค้าบอก ส่วน lastname ก็จะเป็นชื่อเราค่ะหรืออยู่ที่เราตกลงกับทางชิปปิ้งเราก็ไปไล่ๆหาชื่อเค้าจากแทรคกิ้งรอบเก่าๆค่ะ ม. ส่งของแทบทุกรอบ เราก็โอเคยังดีหน่อยรู้ว่า ม. ก็ยังสั่งของผ่านบริษัทชิปปิ้งนี้ เราก็จะได้ติดตามได้เองอีกทาง
พอถึงวันที่ 18 มิถุนายน ทาง ม. ได้แจ้งเราว่าของถึงไทยแล้ว แต่ทางโกดังไทยแจ้งมาว่าน้ำหนักเกิน 1.4 กิโล ให้จ่ายเพิ่มนะ เพราะของเรา 11.4 กิโล เราก้เลยบอก ม. ว่าทำไมน้ำหนักเกินเราเช็คแล้วของที่สั่ง8กล่องน้ำหนัก 18lbs (เช็คจากเว็บขนส่งของเมกาได้เลย และจากหน้ากล่องจะมีบอก) ถ้าตีเป็นกิโล ก็ประมาณ 8.2 กิโลเองไม่เกินนี้และมันอาจจะเบากว่านี้ด้วยซ้ำ!! ก็เริ่มเอะใจแล้ว แต่ก็โอนเงินค่าน้ำหนักที่เกินให้ ม. นะ เพราะคิดว่าของที่สั่งมันจำนวนเงินเยอะกว่าโอนๆไป(จำใจค่ะรู้ทั้งรู้ T T) เอาวะ..ได้ของมาก่อนค่อยเคลียร์กันเรื่องนำ้หนักอีกทีก็ได้
นี่เช็คเลขแทรกกิ้งทุกวันเลย ตื่นเต้นอ่ะ อยากเปิดกล่อง! เลยรู้ว่าของถึงไทยวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ตามที่ ม. บอก และของถึง ม.วันที่ 20 มิถุนายน 2563 แล้ว ไม่พอนะเรายังเอาเลขแทรกกิ้งคนอื่นในรอบเดียวกันไปเช็คอีก ว่าของเค้าถึงกันรึยังน้าาาา คนอยู่นครราชสีมาก็ถึงแล้วจ่ะ วันเดียวกันเลย
อ่ะๆวันที่22 มิถุนายน 2563 ก็เริ่มๆถามจาก ม.ค่ะว่าของได้รึยังเพราะเห็นว่าของถึงบ้าน ม. ได้สองวันแล้ว จะได้รู้น้ำหนัก+เคลียร์ค่าน้ำหนักเสร็จจะได้ส่งของมาให้ (ต้องเสียค่าส่งตามจริงอีกนะคะ) ม. ก็ตอบว่า ”พรุ่งนี้จ้าา” (ก็คือวันที่23 มิถุนายน 2563 ) เราก็แบบอะไรวะผลัดไปเรื่อยอะ แต่ก็ยังไม่บอกมันนะ อ่ะๆ ให้โอกาสหน่อย ก็ต้องใจเย็นๆเนอะกับคนพวกนี้ เพราะระบบมันขึ้นว่าถึงแล้วจะไม่ตรงได้ยังไง
เริ่มโทรถามจากทางชิปปิ้งเองเลยและแจ้งเค้าตรงๆว่าเราสั่งกับ ม. ไปแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ของ ทางชิปปิ้งก็ดีมากค่ะเช็คให้ทุกอย่าง และบอกว่าของรอบที่เราสั่งถึงแล้วนะ ซึ่งเราก็มีเลขแทรกกิ้งอยู่แล้วไง ก็เลยเล่าให้เค้าฟังค่ะว่าทาง ม. ตอบกับเราว่ายังไงบ้าง ผลัดวันไปเรื่อยๆ บอกว่าขนส่งแจ้งมาว่ายังไม่ถึง เราก็อะใจเย็นทั้งๆที่รู้แล้วแหล่ะ แต่ก็ต้องค่อยๆเก็บหลักฐานไปเรื่อยๆด้วย (เตรียมพร้อมมากกับการจะไปแจ้งความ!! ทั้งโกรธทั้งโมโหแต่ต้องใจเย็น) พอถึงวันที่ 23 มิถุนายน2563 เราก็ถามจาก ม. อีกครั้งก็ได้คำตอบว่า “พรุ่งนี้ค่ำๆนะคะ เดี๋ยวถ้าลงที่บ้านพี่จะแจ้งอีกที” ม.ยังบอกอีกว่า “ ยังไม่ถึงที่บ้านพี่จ้ะ เค้าส่งตามคิว ของเยอะจ้ะ รอนิดนึงจ้ะ” เราก็อ่ะแกล้งๆใสซื่อไปก่อน แต่ในใจคือร้อนรนมากๆ ก็เงินมันเยอะนี่
พอวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ก็ถามอีกครั้งก็ได้คำตอบว่าไม่เกินวันที่ 26 มิถุนายน 2563 เดี๋ยววันถัดไปจะส่งให้เราเลยเราเลยบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวให้เพื่อนไปเอา ตอนนั้นคิดในทางลบหมดแล้ว ของต้องได้ จะให้เพื่อนไปเอาเอง กลัวส่งมาแล้วของโดนแกะ
ระหว่างที่รอถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2563
เราก็สืบประวัติ ม. ทุกอย่าง มีเพื่อนเป็นตำรวจด้วย พร้อมทั้งเตรียมหลักฐานทุกอย่าง เพื่อที่จะไปแจ้งความถ้ายังไม่ได้ของ ดึกๆหน่อยนอนไม่หลับค่ะเครียด!!! เลยลองพิมชื่อบล็อกเกอร์ลงในgoogle เลยเจอว่าเค้าไม่ได้มีแค่ยูทูป แต่เค้ามีเฟสบุคแฟนเพจด้วยเลยนั่งอ่านๆดูค่ะ
สรุปได้ความมาว่า
บล๊อคเกอร์ ทำธุรกิจชิบปิ้งร่วมกับ พี่ชาย (ต.)
และ ต. ก็เป็น สามี ของ ม. (ง่ายๆคือ3คนทำธุรกิจร่วมกัน/แต่ตอนนี้เลิกแล้ว) แต่ที่ช๊อค! ก็คือ ในขณะที่เรากำลังดำดิ่งตามหาความจริง เราก็มาได้รู้ว่า บล๊อคเกอร์คนนี้กำลังดำเนินคดีทางกฏหมายกับ นาย ต.(พี่ชายแท้ๆ) เกี่ยวกับเรื่องการโกงเงิน ยักยอก และหลอกลวงเงินลูกค้า!! (ตามที่เขียนในเพจนะคะ)
เราก็ อ่าว...!! นี่ขนาด ต. คนที่เป็นสามีของ ม. ยังทำกับน้องสาวแท้ๆของตัวเองแบบนี้ และ ม. คนนี้จะไม่ทำกับกูหรอออ🤣 (ขนาดพี่น้องผัวเมียมันยังร่วมกันทำ) แล้วกูจะไปเหลืออะไรรร
บล๊อคเกอร์ + ต. + ม.
(น้องสาว) (พี่ชาย) (เมีย)
บล๊อคเกอร์ VS ต.+ม.
(แจ้งความต่อพี่ชาย) (โดนแจ้ง)
กู ? 😂😭
ถึงแล้ววันที่ 26 มิถุนายน 2563 วันที่รอคอย!!! วันที่พร้อมจะฟาดกับนางละ ก็ทักถามเรื่องของอีกครั้งแต่เช้าเลย ม.ก็บอกว่าอาจจะต้องส่งพรุ่งนี้ตามที่แจ้ง เราก็ตอบไปว่าไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวให้เพื่อนไปรับตามที่ตกลงกันก่อนหน้า แล้วเราก็รีบโทรหา ม. ตอนนั้นเลย โทรไลน์ไม่รับ มือถือไม่รับ บอกตรงๆตอนนั้นโมโหแล้วค่ะ เลยไลน์ไปบอกว่าได้เช็คกับทางขนส่งแล้วนะ แล้วส่งรูปให้ดูเกี่ยวกับแทรกกิ้ง แล้วพิมไปบอกว่าถ้าไม่ให้ของวันนี้ก็จะไปแจ้งความเพราะให้โอกาสมาหลายวันแล้วกับการพูดกลับไปกลับมา ม. ก็โทรมาเลย รวดเร็วทันใจมากค่ะ แล้วอ้างว่าได้บอกเราแล้วว่าเข้า รพ. เรารีบตอบเลยค่ะว่าไม่เคยบอก ของถึงแล้วไม่เกี่ยวกับเข้า รพ. ก็เลยบอกว่าจะเอายังไงของถึงตั้งนานไม่ส่งคืออะไรใจเย็นมาหลายวันแล้ว ม. ตอบเราว่าของเรายังมาไม่ถึงคิดว่าขาดอีก2กล่อง เราก็เลยบอกว่าให้ย้อนไปดูข้อความที่คุยกันทั้งหมดนะว่าคอนเฟิมของเราแล้วตั้งแต่ของอยู่เมกาว่ามี 8 กล่อง แล้วชิปปิ้งทางเมกาเค้าก็ไม่ให้รวบรวมของส่งรอบเดียวกัน ก็คือของชิ้นไหนมาถึงรอบไหนก็จะส่งเลยรอบนั้นกันของหาย ม.ก็แบบบอกว่าไม่ได้คิดจะโกงนู่นนั่นนี่บลาๆๆๆ เราเลยบอกว่าเดี๋ยวจะให้เพื่อนไปเอาจะเอาตำรวจไปด้วย หรือจะเอามาให้ ม.ก็ตอบว่า อ่าว..ไหนบอกจะให้เพื่อนมาเอา เราก็เลยตอบไปว่างั้นเดี๋ยวให้เพื่อนไปเอา ส่งที่อยู่มาตอนนี้ ถ้าไม่งั้นแจ้งความแน่ๆ คือพร้อมแจ้งความมากค่ะ คิดว่าหลักฐานที่มีทั้งหมดเอาความได้อยู่แล้ว !!!
สักพัก ม. ก็ส่งที่อยู่มาให้บอกว่าบ่าย2 ขอเบอร์เพื่อน เราก็เริ่มสงสัยแล้วว่าขอทำไม ในเมื่อเราก็ขอที่อยู่ ม. ไว้แล้วจะเป็นคนไปเอาเอง เราก็ให้ไปค่ะเพราะยังไงเพื่อนก็ต้องโทหา ม. อยู่แล้วตอนไปเอาของที่บ้าน สรุปว่า ม. โทหาเพื่อนเราบอกว่าเปลี่ยนจากบ้าน ม. (ที่มีนบุรี) เป็นเซ็นทรัลอีสวิวแทน เราเลยถาม ม. ว่ามาส่งของเองไหมคะ ม.ตอบว่ากำลังไปพอเพื่อนเราไปถึงที่เซนทรัลอีสวิว ก็มีข้อความจากแกรปทักมา เลยรู้ว่าไม่ได้มาเอง (ตลกนะคะไม่มาส่งเองตอนบอกให้ส่งแกรปสมาให้ตอนแรกก็บอกว่าอ่าว ไหนเราจะให้เพื่อนไปเอา) สุดท้ายกูต้องลำบากเพื่อนและแฟนเพื่อนอีก!!! (ต้องปลุกเพื่อนค่ะเพื่อนตื่นสาย🤣🤣 )
สักพักมือถือก็มียอดโอนเงินมาเพิ่มให้เรา บอกว่าของเรามัน6.4 กิโลคืนเงินให้ เราก็เลยงงค่ะ ตอนแรกบอกน้ำหนัก11.4 โกดังไทยชั่งแยกชื่อแล้วแจ้งมา จำได้ใช่ไหมคะที่เล่าก่อนหน้า นี่ก็กลัวของหายค่ะ เลยบอกว่าจะเช็คของแล้วจะแจ้ง ม. อีกที ระหว่างแกรปมาส่งก็ให้แกรปเป็นพยานนะคะ เพื่อนอัดวีดีโอตอนดูสภาพแต่ละกล่องก่อนเปิดดูของข้างในทุกชิ้น
สรุปเราเช็คของครบหมดของไม่ได้ถูกแกะทั้งสิ้น
ต้องขอบคุณพ่อที่แนะนำให้ไปแจ้งความที่ไหนถ้าไม่ได้ของ เพื่อนซี้ที่ไปเอาของมาให้(ซึ้งน้ำตาแทบไหล) เพื่อนตำรวจสาวสุดสวยที่เช็คข้อมูลเกี่ยวกับ ม. ให้) พี่คนนึงที่เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง ชิปปิ้งที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แฟนที่คอยรับฟังทุกวันและช่วยแก้ปัญหาตลอดเวลา
หากใครที่กำลังมองหาชิปปิ้งอยู่ตัดสินใจดีดีนะคะ หาข้อมูลเยอะๆ อย่างเราคิดว่าหาดีแล้ว ยังพลาดเลยค่ะ ต่อให้ได้ของก็จริง แต่มันเสียเวลาชีวิตมากๆ
“เพื่อนๆคิดว่าการกระทำเค้าเป็นยังไงบ้างคะ?? “
หวังว่าเรื่องที่แชร์จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน รวมถึงคนที่กำลังคิดจะสั่งของผ่านทางชิปปิ้งค่ะ
ประสบการณ์ครั้งแรกกับการสั่งของจากอเมริกามาไทยที่เกือบไม่ได้ของ!! 🇺🇸🇹🇭
เรามีงานประจำ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดเลยทำให้ได้หยุดงานชั่วคราว และไม่รู้จะได้กลับไปทำงานเมื่อไหร่ กลับมาอยู่ต่างจังหวัดเลยลองหาของมาขาย แรกๆก็เอาของที่ตัวเองมีอยู่ที่ยังไม่ได้ใช้มาขาย ก็พวกเครื่องสำอางค์/สกินแคร์พวกนี้ รับมาจากเพื่อนในบริษัทบ้าง หรือสั่งจากเว็บไทยบ้าง
มีวันนึงก็คิดว่าจะสั่งของจากเมกามาไทยดีกว่าเพราะที่เมกามันมีโปรโมชั่นบ่อยๆ ก็เริ่มหาข้อมูลในเน็ตเรื่องว่าจะสั่งของผ่านชิปปิ้งไหนดีนะ ??? เลยไปเจอคนนึงใน youtube นางเป็นบล็อกเกอร์ เค้าแนะนำ”การซื้อของเอง จ่ายเอง ส่งเอง จากเมกากลับไทย “ ใต้ยูทูปจะมีแนะนำไอดีไลน์ติดต่อชิปปิ้งอยู่สองคนค่ะ คนนึงเป็นผู้หญิงอีกคนนึงเป็นผู้ชาย(เดาเอาจากชื่อนะคะ ) ซึ่งเราเองก็เลือดแอดไลน์กับผู้หญิงไป ขอเรียกแทนคนนั้นว่า ม. นะคะ ม. คุยดีมากค่ะทุกอย่างพูด “จ้ะ/จ้า” บ่อยๆหน่อย ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งของได้ดี ว่ากิโลละเท่าไหร่ๆ ปิดรอบวันไหนบ้าง บลาๆเราเลือกสั่งของเองจ่ายเองนะคะ เพราะว่าเคยไปอยู่อเมริกามาช่วงนึงเลยรู้ว่าการสั่งต้องทำยังไงบ้างถึงจะได้ส่วนลด
สั่งอะไรไปก็ต้องแจ้งเลขออเดอร์กับ ม. ทุกครั้งเพราะนางจะได้เช็คกับทางเมกาให้ เออใช่เค้ามีแนะนำให้ซื้อน้ำหนักแบบเหมา10กิโล 8300 บาท ก็ตกกิโลละ 830 บาท (ปกติคิดกิโลละ900)ถ้าน้ำหนักเหลือสามารถเรียกคืนน้ำหนักได้ค่ะก็ตกลงเพราะเราคิดว่าจะสั่งของเยอะอยู่แล้วสิ่งที่ตัวเองอยากได้ก็เยอะสิ่งค่ะ 555 เราก็เริ่มสั่งของค่ะจากเว็บในเมกาส่วนใหญ่เป็นเว็บที่ขึ้นชื่อ Sephora/ Bobbibrown /Kiehls /...อะไรพวกนี้ค่ะ พอก่อนวันปิดรอบ ม. ก็แจ้งมาว่าของถึงครบแล้ว พร้อมส่งรูปของที่เราสั่งมาให้ดูและถามเราว่าครบนะกี่กล่องๆ เราเลยถามเค้าเรื่องน้ำหนักของที่เราสั่งไปทั้งหมด(8กล่อง) ม.บอกว่าถึงไทยจะแจ้งไปอีกทีเพราะ ม.ได้ชั่งน้ำหนักแบบรวมกับคนอื่นมา เราก็คิดว่าคงแบบนั้นเพราะว่าคนคงสั่งกับ ม. เยอะ น่าจะตามมาจากBlogger ที่แนะนำลูกค้าเกี่ยวกับชิปปิ้ง เลยไม่คิดอะไรมาก ของเราปิดรอบวันที่5 มิถุนายน 2563 ค่ะ ม. ก็ได้แจ้งว่าของจะถึงไทยรอบนี้เร็วประมาณวันที่ 21-22 มิถุนายน 2563 และเสนอให้ซื้อน้ำหนักเพิ่มให้ช่วยๆกันหรือหารกับลูกค้าคนอื่น แต่ก็ตอบ ม. ไปว่ารอของรอบนี้ก่อน
ในระหว่างที่เรารอของมาถึงไทย ... เราก็อยากได้ชิปปิ้งที่ราคาถูกกว่านี้ ว่างไง!! โควิดก็หาไรทำไปสิ ก็เลยหาชิปปิ้งที่ถูกกว่า เราก็ไปเจอชิปปิ้งนึงเออดูเค้าก็มีรอบส่งสินค้าตลอดๆคนสั่งเยอะดี อัพเดตทุกอย่างว่าของถึงไทยรึยัง จะส่งของวันไหนๆ ราคาถูกกว่าที่สั่งกับ ม. เลยทักไปถามข้อมูล เลยได้ที่อยู่โกดังที่เมกามาเป็นที่เดียวกันกับที่เราสั่งจาก ม.
ปกติสั่งของ Firstname : เราจะเขียนชื่อตามที่เค้าบอก ส่วน lastname ก็จะเป็นชื่อเราค่ะหรืออยู่ที่เราตกลงกับทางชิปปิ้งเราก็ไปไล่ๆหาชื่อเค้าจากแทรคกิ้งรอบเก่าๆค่ะ ม. ส่งของแทบทุกรอบ เราก็โอเคยังดีหน่อยรู้ว่า ม. ก็ยังสั่งของผ่านบริษัทชิปปิ้งนี้ เราก็จะได้ติดตามได้เองอีกทาง
พอถึงวันที่ 18 มิถุนายน ทาง ม. ได้แจ้งเราว่าของถึงไทยแล้ว แต่ทางโกดังไทยแจ้งมาว่าน้ำหนักเกิน 1.4 กิโล ให้จ่ายเพิ่มนะ เพราะของเรา 11.4 กิโล เราก้เลยบอก ม. ว่าทำไมน้ำหนักเกินเราเช็คแล้วของที่สั่ง8กล่องน้ำหนัก 18lbs (เช็คจากเว็บขนส่งของเมกาได้เลย และจากหน้ากล่องจะมีบอก) ถ้าตีเป็นกิโล ก็ประมาณ 8.2 กิโลเองไม่เกินนี้และมันอาจจะเบากว่านี้ด้วยซ้ำ!! ก็เริ่มเอะใจแล้ว แต่ก็โอนเงินค่าน้ำหนักที่เกินให้ ม. นะ เพราะคิดว่าของที่สั่งมันจำนวนเงินเยอะกว่าโอนๆไป(จำใจค่ะรู้ทั้งรู้ T T) เอาวะ..ได้ของมาก่อนค่อยเคลียร์กันเรื่องนำ้หนักอีกทีก็ได้
นี่เช็คเลขแทรกกิ้งทุกวันเลย ตื่นเต้นอ่ะ อยากเปิดกล่อง! เลยรู้ว่าของถึงไทยวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ตามที่ ม. บอก และของถึง ม.วันที่ 20 มิถุนายน 2563 แล้ว ไม่พอนะเรายังเอาเลขแทรกกิ้งคนอื่นในรอบเดียวกันไปเช็คอีก ว่าของเค้าถึงกันรึยังน้าาาา คนอยู่นครราชสีมาก็ถึงแล้วจ่ะ วันเดียวกันเลย
อ่ะๆวันที่22 มิถุนายน 2563 ก็เริ่มๆถามจาก ม.ค่ะว่าของได้รึยังเพราะเห็นว่าของถึงบ้าน ม. ได้สองวันแล้ว จะได้รู้น้ำหนัก+เคลียร์ค่าน้ำหนักเสร็จจะได้ส่งของมาให้ (ต้องเสียค่าส่งตามจริงอีกนะคะ) ม. ก็ตอบว่า ”พรุ่งนี้จ้าา” (ก็คือวันที่23 มิถุนายน 2563 ) เราก็แบบอะไรวะผลัดไปเรื่อยอะ แต่ก็ยังไม่บอกมันนะ อ่ะๆ ให้โอกาสหน่อย ก็ต้องใจเย็นๆเนอะกับคนพวกนี้ เพราะระบบมันขึ้นว่าถึงแล้วจะไม่ตรงได้ยังไง
เริ่มโทรถามจากทางชิปปิ้งเองเลยและแจ้งเค้าตรงๆว่าเราสั่งกับ ม. ไปแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ของ ทางชิปปิ้งก็ดีมากค่ะเช็คให้ทุกอย่าง และบอกว่าของรอบที่เราสั่งถึงแล้วนะ ซึ่งเราก็มีเลขแทรกกิ้งอยู่แล้วไง ก็เลยเล่าให้เค้าฟังค่ะว่าทาง ม. ตอบกับเราว่ายังไงบ้าง ผลัดวันไปเรื่อยๆ บอกว่าขนส่งแจ้งมาว่ายังไม่ถึง เราก็อะใจเย็นทั้งๆที่รู้แล้วแหล่ะ แต่ก็ต้องค่อยๆเก็บหลักฐานไปเรื่อยๆด้วย (เตรียมพร้อมมากกับการจะไปแจ้งความ!! ทั้งโกรธทั้งโมโหแต่ต้องใจเย็น) พอถึงวันที่ 23 มิถุนายน2563 เราก็ถามจาก ม. อีกครั้งก็ได้คำตอบว่า “พรุ่งนี้ค่ำๆนะคะ เดี๋ยวถ้าลงที่บ้านพี่จะแจ้งอีกที” ม.ยังบอกอีกว่า “ ยังไม่ถึงที่บ้านพี่จ้ะ เค้าส่งตามคิว ของเยอะจ้ะ รอนิดนึงจ้ะ” เราก็อ่ะแกล้งๆใสซื่อไปก่อน แต่ในใจคือร้อนรนมากๆ ก็เงินมันเยอะนี่
พอวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ก็ถามอีกครั้งก็ได้คำตอบว่าไม่เกินวันที่ 26 มิถุนายน 2563 เดี๋ยววันถัดไปจะส่งให้เราเลยเราเลยบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวให้เพื่อนไปเอา ตอนนั้นคิดในทางลบหมดแล้ว ของต้องได้ จะให้เพื่อนไปเอาเอง กลัวส่งมาแล้วของโดนแกะ
ระหว่างที่รอถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2563
เราก็สืบประวัติ ม. ทุกอย่าง มีเพื่อนเป็นตำรวจด้วย พร้อมทั้งเตรียมหลักฐานทุกอย่าง เพื่อที่จะไปแจ้งความถ้ายังไม่ได้ของ ดึกๆหน่อยนอนไม่หลับค่ะเครียด!!! เลยลองพิมชื่อบล็อกเกอร์ลงในgoogle เลยเจอว่าเค้าไม่ได้มีแค่ยูทูป แต่เค้ามีเฟสบุคแฟนเพจด้วยเลยนั่งอ่านๆดูค่ะ
สรุปได้ความมาว่า
บล๊อคเกอร์ ทำธุรกิจชิบปิ้งร่วมกับ พี่ชาย (ต.)
และ ต. ก็เป็น สามี ของ ม. (ง่ายๆคือ3คนทำธุรกิจร่วมกัน/แต่ตอนนี้เลิกแล้ว) แต่ที่ช๊อค! ก็คือ ในขณะที่เรากำลังดำดิ่งตามหาความจริง เราก็มาได้รู้ว่า บล๊อคเกอร์คนนี้กำลังดำเนินคดีทางกฏหมายกับ นาย ต.(พี่ชายแท้ๆ) เกี่ยวกับเรื่องการโกงเงิน ยักยอก และหลอกลวงเงินลูกค้า!! (ตามที่เขียนในเพจนะคะ)
เราก็ อ่าว...!! นี่ขนาด ต. คนที่เป็นสามีของ ม. ยังทำกับน้องสาวแท้ๆของตัวเองแบบนี้ และ ม. คนนี้จะไม่ทำกับกูหรอออ🤣 (ขนาดพี่น้องผัวเมียมันยังร่วมกันทำ) แล้วกูจะไปเหลืออะไรรร
บล๊อคเกอร์ + ต. + ม.
(น้องสาว) (พี่ชาย) (เมีย)
บล๊อคเกอร์ VS ต.+ม.
(แจ้งความต่อพี่ชาย) (โดนแจ้ง)
กู ? 😂😭
ถึงแล้ววันที่ 26 มิถุนายน 2563 วันที่รอคอย!!! วันที่พร้อมจะฟาดกับนางละ ก็ทักถามเรื่องของอีกครั้งแต่เช้าเลย ม.ก็บอกว่าอาจจะต้องส่งพรุ่งนี้ตามที่แจ้ง เราก็ตอบไปว่าไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวให้เพื่อนไปรับตามที่ตกลงกันก่อนหน้า แล้วเราก็รีบโทรหา ม. ตอนนั้นเลย โทรไลน์ไม่รับ มือถือไม่รับ บอกตรงๆตอนนั้นโมโหแล้วค่ะ เลยไลน์ไปบอกว่าได้เช็คกับทางขนส่งแล้วนะ แล้วส่งรูปให้ดูเกี่ยวกับแทรกกิ้ง แล้วพิมไปบอกว่าถ้าไม่ให้ของวันนี้ก็จะไปแจ้งความเพราะให้โอกาสมาหลายวันแล้วกับการพูดกลับไปกลับมา ม. ก็โทรมาเลย รวดเร็วทันใจมากค่ะ แล้วอ้างว่าได้บอกเราแล้วว่าเข้า รพ. เรารีบตอบเลยค่ะว่าไม่เคยบอก ของถึงแล้วไม่เกี่ยวกับเข้า รพ. ก็เลยบอกว่าจะเอายังไงของถึงตั้งนานไม่ส่งคืออะไรใจเย็นมาหลายวันแล้ว ม. ตอบเราว่าของเรายังมาไม่ถึงคิดว่าขาดอีก2กล่อง เราก็เลยบอกว่าให้ย้อนไปดูข้อความที่คุยกันทั้งหมดนะว่าคอนเฟิมของเราแล้วตั้งแต่ของอยู่เมกาว่ามี 8 กล่อง แล้วชิปปิ้งทางเมกาเค้าก็ไม่ให้รวบรวมของส่งรอบเดียวกัน ก็คือของชิ้นไหนมาถึงรอบไหนก็จะส่งเลยรอบนั้นกันของหาย ม.ก็แบบบอกว่าไม่ได้คิดจะโกงนู่นนั่นนี่บลาๆๆๆ เราเลยบอกว่าเดี๋ยวจะให้เพื่อนไปเอาจะเอาตำรวจไปด้วย หรือจะเอามาให้ ม.ก็ตอบว่า อ่าว..ไหนบอกจะให้เพื่อนมาเอา เราก็เลยตอบไปว่างั้นเดี๋ยวให้เพื่อนไปเอา ส่งที่อยู่มาตอนนี้ ถ้าไม่งั้นแจ้งความแน่ๆ คือพร้อมแจ้งความมากค่ะ คิดว่าหลักฐานที่มีทั้งหมดเอาความได้อยู่แล้ว !!!
สักพัก ม. ก็ส่งที่อยู่มาให้บอกว่าบ่าย2 ขอเบอร์เพื่อน เราก็เริ่มสงสัยแล้วว่าขอทำไม ในเมื่อเราก็ขอที่อยู่ ม. ไว้แล้วจะเป็นคนไปเอาเอง เราก็ให้ไปค่ะเพราะยังไงเพื่อนก็ต้องโทหา ม. อยู่แล้วตอนไปเอาของที่บ้าน สรุปว่า ม. โทหาเพื่อนเราบอกว่าเปลี่ยนจากบ้าน ม. (ที่มีนบุรี) เป็นเซ็นทรัลอีสวิวแทน เราเลยถาม ม. ว่ามาส่งของเองไหมคะ ม.ตอบว่ากำลังไปพอเพื่อนเราไปถึงที่เซนทรัลอีสวิว ก็มีข้อความจากแกรปทักมา เลยรู้ว่าไม่ได้มาเอง (ตลกนะคะไม่มาส่งเองตอนบอกให้ส่งแกรปสมาให้ตอนแรกก็บอกว่าอ่าว ไหนเราจะให้เพื่อนไปเอา) สุดท้ายกูต้องลำบากเพื่อนและแฟนเพื่อนอีก!!! (ต้องปลุกเพื่อนค่ะเพื่อนตื่นสาย🤣🤣 )
สักพักมือถือก็มียอดโอนเงินมาเพิ่มให้เรา บอกว่าของเรามัน6.4 กิโลคืนเงินให้ เราก็เลยงงค่ะ ตอนแรกบอกน้ำหนัก11.4 โกดังไทยชั่งแยกชื่อแล้วแจ้งมา จำได้ใช่ไหมคะที่เล่าก่อนหน้า นี่ก็กลัวของหายค่ะ เลยบอกว่าจะเช็คของแล้วจะแจ้ง ม. อีกที ระหว่างแกรปมาส่งก็ให้แกรปเป็นพยานนะคะ เพื่อนอัดวีดีโอตอนดูสภาพแต่ละกล่องก่อนเปิดดูของข้างในทุกชิ้น
สรุปเราเช็คของครบหมดของไม่ได้ถูกแกะทั้งสิ้น
ต้องขอบคุณพ่อที่แนะนำให้ไปแจ้งความที่ไหนถ้าไม่ได้ของ เพื่อนซี้ที่ไปเอาของมาให้(ซึ้งน้ำตาแทบไหล) เพื่อนตำรวจสาวสุดสวยที่เช็คข้อมูลเกี่ยวกับ ม. ให้) พี่คนนึงที่เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง ชิปปิ้งที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แฟนที่คอยรับฟังทุกวันและช่วยแก้ปัญหาตลอดเวลา
หากใครที่กำลังมองหาชิปปิ้งอยู่ตัดสินใจดีดีนะคะ หาข้อมูลเยอะๆ อย่างเราคิดว่าหาดีแล้ว ยังพลาดเลยค่ะ ต่อให้ได้ของก็จริง แต่มันเสียเวลาชีวิตมากๆ
“เพื่อนๆคิดว่าการกระทำเค้าเป็นยังไงบ้างคะ?? “
หวังว่าเรื่องที่แชร์จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน รวมถึงคนที่กำลังคิดจะสั่งของผ่านทางชิปปิ้งค่ะ