หลังจากที่ได้นั่งฟังเพลงนี้พร้อม Sub สิ่งที่ผมเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า สงสัยเพลงนี้จะไม่ได้แต่งมาแบบพื้นๆ แนวประชดแฟนเก่าซะละมั้ง จุดหลักคือ
1. ท่อนฮุคซ้ำซ้อนที่ปกติไม่ค่อยทำกัน นั่นก็คือท่อน Look at you now look at me ซึ่งจริงๆ ให้ lisa ร้องแค่คนเดียวซ้ำกันสามท่อนติดมันก็เกินพอละนะ ทำไมพอจบแล้วต้องให้ Jennie มาร้องซ้ำแบบเดียวกันอีก มันฟังแล้วซ้ำซ้อนมากเกินไปหรือเปล่า
2. ศัพท์แสง อ้างอิงจาก Sub Eng ของ Official MV มันดูไม่ใช่ศัพท์ที่ใช้กับการประชดแฟนเก่าสักเท่าไหร่ ดูมันใหญ่กว่านั้น อย่างท่อนแรกเปิดเพลงของ Jennie ที่ใช้คำว่า crumble ที่แปลได้ประมาณว่าแตกสลาย พักทลายเป็นเศษซาก หรือท่อนของ Rose' ที่ร้องว่า You should’ve ended me when you had the chance มันดูหนักพอสมควร
3. ท่อนแรปของ Lisa ที่เนื้อหามีการประชดประชัน ยิ่งสังเกตยิ่งเจอ เดี๋ยวค่อยเอามาคุยเจาะลึกกันต่อ
4. MV ที่ทำฉากดูดุเดือดเลือดพล่านเกินกว่าแค่เรื่องประชดแฟนเก่าที่ทิ้งกันไป หลายฉากมันสื่อกันแบบชัดเจนมากๆ เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องแฟนเก่าแน่ๆ
5. ประเด็นหลักที่เพลงต้องการสื่อสาร ผมว่าถ้าลองเปลี่ยนมุมคิดว่าถ้าสิ่งที่ YG ต้องการสื่อสารผ่านเพลงนี้ไม่ใช่เรื่องแฟนเก่า แต่เป็นการประชดสื่อและเหล่าแอนตี้ที่พยายามล้มค่ายอย่างหนักหน่วงในช่วงปีที่แล้วล่ะ พอลองคิดตามเท่านั้น ทุกอย่างมันก็โยงใยกันแบบพอดีอย่างเหลือเชื่อเลย
แต่ขอย้ำอีกที นี่คือการวิเคราะห์แบบมโนล้วนๆ ของผมเอง จริงๆ มันอาจจะเป็นแค่เพลงประชดแฟนเก่าในสไตล์ YG เท่านั้นเองก็ได้ ฟังเยอะเกินเลยอาจจะหลอนมากเกินไป ฮ่าๆๆๆ ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูความมโนศาสตร์ของผมดูละกันครับ
*****************************************
ขอย้อนความนิดนึง ถ้าใครยังจำตอน GD ออกมาดีส Mama ที่ฮ่องกงได้ ผมว่าเพลงนี้ที่ปล่อยออกมามันก็อารมณ์เดียวกันเลย คือตอกหน้าสื่อบางเจ้า และกลุ่ม Anit ที่รุมถล่มค่ายเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถ้าสิ่งที่ผมคิดไว้มันถูกต้อง รอดูเพลงของ Bigbang ได้เลย เพราะ Bigbang คือวงสร้างค่าย YG ดังนั้นรับรองว่าป๋าๆ ต้องมาตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมแน่ๆ แต่พอเป็นเพลงของ Blackpink มันก็มาแนวอ้อมๆ นิดๆ ประชดหน่อยๆ แบบนี้ผมว่าก็ดีนะ
เอาล่ะ เรามา Walk through เพลงนี้และ MV กันดีกว่า...
...
ซีนแรก : เทพีแห่งชัยชนะที่แตกหักพังทลาย
เปิด MV ด้วยฉากในห้องโถงใหญ่ มีรูปปั้นของเทพกรีกที่ชื่อว่าเทพีไนกี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ หลายคนจะคุ้นเคยกับภาพรูปปั้นไม่มีหัว ไม่มีแขนที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ตามภาพด้านล่าง
แต่ถ้าดูใน MV ของเพลงนี้ เราจะเห็นว่ารูปปั้นที่เอามาใส่ใน MV ไม่มีขานะ สรุปว่ารูปปั้นนี้หัวขาด แขนขาด ขาขาด ต้องการจะสื่ออะไรมั้ย สื่อถึงสภาพของ YG เมื่อปีที่แล้วหรือเปล่า ที่เสียทั้งหยางที่เป็นเหมือนหัวของค่าย ซึนรีสมาชิกบิ๊กแบงค์ที่เป็นวงเสาหลักของค่ายที่กำลังจะกลับมา Comeback แถมยังเสีย BI สมาชิกหลักของ iKON ไปจากข่าวยาเสพย์ติดที่สุดท้ายผลตรวจสอบยาเสพย์ติดจากเส้นผมก็ไม่พบสารเสพย์ติดใดๆ และ BI ก็เป็นเหมือนมือไม้ของค่าย อยู่เบื้องหลังการทำเพลงมากมายของ YG
ดังนั้นคงไม่ผิดนักที่จะเปรียบเทียบรูปปั้นเทพีแห่งชัยชนะใน MV นี้ว่าไม่ต่างจากสถานการณ์ของ YG สักเท่าไหร่นัก
แตกสลายและพังทลายลงไปเรื่อยๆ ...
แต่ท่ามกลางความมืดมนเหล่านั้น ซีนต่อมาก็คือการปรากฏกายของ Lisa ด้วยใบหน้าจริงจังที่มาพร้อมประโยคสร้างชื่อ Blackpink in your area ซึ่งคราวนี้ความหมายของมันแตกต่างไป ประโยคนี้สื่อความหมายในฉากนี้ว่าถึงแม้ว่าสถานการณ์ค่ายจะมืดมนเท่าไหร่ก็ตามที แต่ Blackpink ก็ยังอยู่ตรงนี้ ยังไม่หนีไปไหน
ซีนนี้ทุกคนนั่งลงอยู่ด้านล่างรูปปั้น สื่อว่าแม้ว่าตอนนี้จะสถานการณ์จะแย่ จะร่วงตกลงมาท่ามกลางเศษซากปรักหักพัง แม้อาจจะไม่ได้อยู่ท่ามกลางแสงสว่างแห่งความชื่นชมจากกลุ่มคนที่รุมถล่มค่ายก็ตามที แต่ Blackpink ก็ยังคงอยู่ตรงนี้ และจะอยู่เป็นฐานของค่ายต่อไป
... Blackpink in your area ...
อีกจุดนึงคือรูปปั้นนี้ไม่ได้ใช้สีขาว แต่เป็นรูปปั้นสีดำ ปีกดำ และแน่นอนว่าสาวๆ BP ก็มาในชุดดำเช่นกัน สื่ออะไร แน่นอนว่า BP ไม่ได้มาแบบใสๆ สวยๆ มารอบนี้กะเอาคืนเต็มที่แน่นอน ดูใบหน้าสาวๆ สิ ไม่ได้นั่งยิ้มสวยๆ นะ มันคือแววตาและสีหน้าที่พร้อมจะเอาคืนชัดๆ
จับตาดูดีๆ MV เล่นกับสีขาวและสีดำพอสมควรนะ
****************
ซีนที่ 2 : ความผิดหวังและน้ำตา
ฉากแรก MV มาในซีนเจนนี่ใส่ชุดสีขาว นั่งอยู่ในฉากที่เซ็ตให้เป็นใต้สระน้ำหลังพิงอยู่กับก้อนหินก้อนใหญ่ ล้อไปกับเนื้อหาเพลงท่อนแรกที่ว่า
I crumbled before your eyes
ฉันแตกสลายและพังทลายลงต่อหน้าต่อตาของคุณ
Hit rock bottom and sunk deeper
ชนเข้ากับก้อนหินใหญ่ แล้วค่อยๆ จมดิ่งลงเรื่อยๆ
ถ้ามองว่าปัญหาที่ YG เจอเมื่อปีที่แล้วมันคือก้อนหิน มันก็คงเป็นก้อนหินที่ใหญ่มากจริงๆ ที่ทำเอาค่ายถึงกับอับปางและค่อยๆ จมดิ่งลงได้แบบนั้น และคงเพราะปัญหาที่ YG เจอเมื่อปีก่อน มันยิ่งกว่ามรสุมที่ซัดมาไม่ยั้งลูกแล้วลูกเล่า กะพังค่ายให้ได้ ในซีนนี้จะเห็นว่าแม้กระทั่งอยู่ใต้น้ำ แต่น้ำตาของเจนนี่ก็ยังไหลออกมา สื่อว่าสถานการณ์ตอนนั้นมันหนักมากจริงๆ
***************************
ซีนที่ 3 : ความเป็นจริงที่โหดร้าย
ซีนต่อมาเราเห็นจีซูพร้อมกับที่คาดปิดตาที่เต็มไปด้วยดอกไม้อันสวยงาม จีซูดึงมันลงมาพร้อมกับสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวด
ความหมายของซีนนี้ก็คือการพบเจอกับความจริง โลกที่สวยงามที่เคยเห็นนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว มันไม่ได้สวยงามอย่างที่เคยคิดว่ามันเป็นอีกแล้ว เหมือนเวลาเรามองโลกในแง่ดี คิดว่ามีคนรักเรามากมาย ไปงานที่ไหนก็มีแต่คนรัก คนชอบ มันก็เหมือนดวงตาถูกปิดบังไปด้วยดอกไม้อันสวยงามเรื่อยมา แต่เมื่อเจอปัญหาค่ายรอบนี้เข้าไป ถึงได้รู้ว่าคนที่ยิ้มให้ เอ่ยชม ด้วยถ้อยคำหวานๆ เมื่อเขาจะทำร้ายเรา เขาก็ทำได้มากกว่าที่เราคิด และนี่คือโลกแห่งความเป็นจริงเมื่อผ้าปิดตาโลกสวยนั้นถูกดึงลงมา
ฉากต่อมาเราได้เห็นจีซูใส่เสื้อสีดำที่ถูกฉีกขาด และเนื้อตัวเต็มไปด้วยตราบาปที่คนในสังคมถล่มใส่ บนตัวของ Jisoo ถูกเขียนไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าบาป 7 ประการ
Lust - กิเลสตัณหาราคะ
Gluttony - ความตะกละ มุ่งหวังต้องการของผู้อื่น
Greed - ความโลภ
Sloth - ความเกียจคร้าน
Envy - ความอิจฉาริษยา
Wrath - ความโกรธเคือง เกลียดชัง โทสะ
Pride - อัตตา ความหยิ่งทนงในตนเอง
เราได้เห็นฉากที่สร้างไว้ให้ดูเหมือนอาคารถูกลูกปืนใหญ่ยิงทะลุไปจนอาคารแทบพัง กระสุนที่ยิงเข้าใส่ก็คือปัญหาที่ YG เจอนั่นแหละ มันรุนแรงจนทะลุกำแพงได้ขนาดนั้นเลย แต่สิ่งที่ฉากนี้จะสื่อก็คือเมื่อเกิดรู (ปัญหา) ก็จะเกิดปัญญาและความพยายาม (แสงสว่าง) ขึ้นมาเช่นกัน ในซีนนี้เราเห็นจีซูชูมือขึ้น พร้อมกับแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ที่ลอดผ่านรูกระสุนปืนใหญ่เข้ามา ล้อกับเนื้อเพลงที่ว่า to grab on to the last bit of hope แสงสุดท้ายนั่นสื่อถึงความหวังกลายเป็นสิ่งเดียวที่พอจะไขว่คว้าได้ ณ เวลานั้น
To grab onto the last bit of hope
สิ่งที่หยิบคว้าได้ก็คือความหวังสุดท้ายอันน้อยนิด
I’ve tried to reach out with both of my hands
ที่ฉันพยายามไขว่คว้าเอาไว้ด้วยสองมือของฉันเอง
***************************
ซีนที่ 4 : แสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด
ซีนต่อมาของ Rose’ จะเห็นว่าเปิดฉากที่รูเหมือนกัน คราวนี้รูทะลุมาจากด้านบน เรียกว่ามากันทุกทิศทุกทาง และเช่นเดียวกันกับซีนก่อนหน้า เมื่อมีรูเกิดขึ้น สิ่งที่เห็นก็คือแสงสว่างจากผืนฟ้าที่ส่องเข้ามาในความมืดมิด เหมือนสำนวนที่ว่ายิ่งมืดเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
Again in this dark place, light up the sky
อีกครั้งภายใต้ความมืดมิด แสงสว่างของผืนฝ้าก็เปล่งประกาย
While looking into your eyes, I’ll kiss you goodbye
ระหว่างที่มองไปยังดวงตาของคุณ ฉันจะจูบลาเป็นครั้งสุดท้าย
ซีนต่อมาเราได้เห็นโรเซ่ในชุดสีขาวนอนลงในดงดอกไม้ ฉากนี้ก็คือการสื่อว่าคนที่มองโลกในแง่ดีได้ตายไปแล้ว ฉันรู้แล้วว่าโลกความเป็นจริงมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด จากนี้ไปฉันคนใหม่จะกำเนิดขึ้น และจะไม่ยอมถูกรังแกง่ายๆ แบบนี้อีกแล้ว
ซีนนี้ตัดสลับไปที่โรเซ่ในชุดสีดำที่เต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผลที่ถูกรุมทำร้ายมา แต่โรเซ่คนนี้ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเดิมอีกแล้ว เธอพร้อมที่จะสู้กลับ พร้อมกับประโยคที่บอกว่า Because it’s about to be your turn พร้อมกับหมวกเพรชฆาตที่เคลื่อนลงมาคลุมหน้า
หมวกนี้จะเห็นเวลาเพรชฆาตใส่เพื่อสังหารคนทำความผิดนั่นเองครับ
Laugh all you want while you still can
หัวเราะเลย ตราบเท่าที่ยังพอทำได้นะ
Because it’s about to be your turn 1,2,3
เพราะจากนี้ไปจะถึงคราวของคุณบ้างแล้ว 1,2,3
************************
@... In-Depth Review : How you like that ? MV - หรือว่า YG จะทำเพลงนี้ให้กับสื่อและเหล่า ANIT ทั้งหลาย ...@
1. ท่อนฮุคซ้ำซ้อนที่ปกติไม่ค่อยทำกัน นั่นก็คือท่อน Look at you now look at me ซึ่งจริงๆ ให้ lisa ร้องแค่คนเดียวซ้ำกันสามท่อนติดมันก็เกินพอละนะ ทำไมพอจบแล้วต้องให้ Jennie มาร้องซ้ำแบบเดียวกันอีก มันฟังแล้วซ้ำซ้อนมากเกินไปหรือเปล่า
2. ศัพท์แสง อ้างอิงจาก Sub Eng ของ Official MV มันดูไม่ใช่ศัพท์ที่ใช้กับการประชดแฟนเก่าสักเท่าไหร่ ดูมันใหญ่กว่านั้น อย่างท่อนแรกเปิดเพลงของ Jennie ที่ใช้คำว่า crumble ที่แปลได้ประมาณว่าแตกสลาย พักทลายเป็นเศษซาก หรือท่อนของ Rose' ที่ร้องว่า You should’ve ended me when you had the chance มันดูหนักพอสมควร
3. ท่อนแรปของ Lisa ที่เนื้อหามีการประชดประชัน ยิ่งสังเกตยิ่งเจอ เดี๋ยวค่อยเอามาคุยเจาะลึกกันต่อ
4. MV ที่ทำฉากดูดุเดือดเลือดพล่านเกินกว่าแค่เรื่องประชดแฟนเก่าที่ทิ้งกันไป หลายฉากมันสื่อกันแบบชัดเจนมากๆ เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องแฟนเก่าแน่ๆ
5. ประเด็นหลักที่เพลงต้องการสื่อสาร ผมว่าถ้าลองเปลี่ยนมุมคิดว่าถ้าสิ่งที่ YG ต้องการสื่อสารผ่านเพลงนี้ไม่ใช่เรื่องแฟนเก่า แต่เป็นการประชดสื่อและเหล่าแอนตี้ที่พยายามล้มค่ายอย่างหนักหน่วงในช่วงปีที่แล้วล่ะ พอลองคิดตามเท่านั้น ทุกอย่างมันก็โยงใยกันแบบพอดีอย่างเหลือเชื่อเลย
แต่ขอย้ำอีกที นี่คือการวิเคราะห์แบบมโนล้วนๆ ของผมเอง จริงๆ มันอาจจะเป็นแค่เพลงประชดแฟนเก่าในสไตล์ YG เท่านั้นเองก็ได้ ฟังเยอะเกินเลยอาจจะหลอนมากเกินไป ฮ่าๆๆๆ ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูความมโนศาสตร์ของผมดูละกันครับ
ดังนั้นคงไม่ผิดนักที่จะเปรียบเทียบรูปปั้นเทพีแห่งชัยชนะใน MV นี้ว่าไม่ต่างจากสถานการณ์ของ YG สักเท่าไหร่นัก
แตกสลายและพังทลายลงไปเรื่อยๆ ...
ฉากต่อมาเราได้เห็นจีซูใส่เสื้อสีดำที่ถูกฉีกขาด และเนื้อตัวเต็มไปด้วยตราบาปที่คนในสังคมถล่มใส่ บนตัวของ Jisoo ถูกเขียนไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าบาป 7 ประการ