ไม่รู้ลมหายใจ แล้วมืดหมด ไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเวลา หายหมด ไม่รู้ว่านั่งสมาธิอยู่
เป็นอรูปฌาน เข้าไปก็เป็นฤาษี
ไม่มีลมหายใจแต่มีสติ รู้ว่าตนนั่งอยู่ ให้ประคองจิตเอาไว้ ดูอารมณ์นั้นไว้ ให้ชำนาญ
อย่าไปถอนออกมา ถ้าไปกำหนดลมหายใจใหม่ สมาธิจะถอนออกมา ลมหายใจจะหยาบขึ้น
ถ้าไม่ถอนลมหายใจจะละเอียด แล้วให้ดู กาย เป็นอนิจจัง โดยยกร่างกาย กระดูก ที่เน่าเหม็นขึ้นมาทำวิปัสสนา
ถ้ายกขึ้นได้ ดูเห็นชัด แสดงว่าจิตเราอยู่ฌาน4 สติมีกำลัง พิจารณาได้ชัดเจน
ถ้ายกแล้วเห็นร่างกายเราไม่ชัดแสดงว่าสมาธิเรายังมีกำลังไม่พอ ให้ทำต่อไปให้ชำนาญ
รูปฌานที่1 จะมีลมหายใจหยาบ จิตจะจับลมหายใจเข้าออก จับคำภาวนา
โดยไม่หลุด ไม่วอกแวก ไปไหน ไม่สนใจภายนอก
ฌานที่2 จิตจะไม่จับลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา จิตจะไปจับปิติ ซาบซ่าน ขนลุก ขนพอง สุข เรียกว่า อาการของจิต
ฌาน3 จิตไม่จับ ลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา จิตจะติดที่สุข ในสมาธิ เฉยอยู่ที่สุข อยากนั่งนานๆๆ ไม่อยากออกจากสมาธิ
ฌาน4 จะมีลมหายใจละเอียดเหมือนไม่ได้หายใจ จิตจะมีอารมณ์เดียวคืออุเบกขารมณ์
นิวิรณ์5มากระทบจิตก็เฉย สติแหลมคมมาก ยกธรรมะอะไรมาพิจารณา จิตจะเห็นหมด
ท่านให้ใช้ฌาน4ที่มีกำลังมากนี้เจริญวิปัสสนา เพราะฌาน4มีญาณปัญญาสูง
ใช้ฌาน4เจริญวิปัสสนา