สวัสดีค่ะชาวพันทิป กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพื่ออยากเล่าประสบการณ์และการเติบโตทางด้านความคิดของหญิงวัย 30 ปี หากท่านสมาชิกท่าอื่นมีสิ่งที่ต้องการแชร์หรือแลกเปลี่ยนกันเจ้าของกระทู้ยินอย่างมากเลยค่ะ
ข้อที่ 1 . คำตอบของความหมายของการมีอยู่ของเรา
เจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิงคิดมากและคิดเยอะอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ และเฝ้าถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเรามีชีวิตนี้อยู่ไปเพื่ออะไร ฟังแล้วดูน่าขำนะคะ แต่สำหรับเจ้าของกระทู้มันเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญสมควรจะต้องรู้มากๆ หลังจากค้นหาด้วยตัวเองทั้งจากหนังสือ , ภาพยนต์ , ปรัชญาหรือแม้แต่ศาสนา การหาความหมายของการมีชีวิตไม่ใช่สิ่งใหม่ที่มนุษย์อยากจะรู้ ดังนั้นในประวัติศาสตร์จึงมีผู้คว้าและคิดหาความหมายมานานแสนนาน สิ่งที่เจ้าของกระทู้ค้นพบ ว่าคนเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร สิ่งนั้นง่ายๆและบ้านๆ มาก นั่นก็คือ คนเรามีชีวิตอยู่เพื่อมีความสุข ลองสังเกตตัวเองสิคะ สิ่งที่เราทำ เราเป็นอยุ่ทุกๆวันนี้เราก็ทำไปเพื่อให้เรามีความสุขทั้งนั้น
ข้อที่ 2 การเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญและจำเป็นเสมอ
เคยได้ยินคำกล่าวประโยคนึงที่พูดว่า ¨ คนใดไม่สามารถผูกโยงตัวเองเข้ากับประวัติศาสตร์ได้จะต้องเป็นคนหาเช้ากินค่ำตลอดไป ¨ เจ้าของกระทู้ได้ยินได้ฟังคำๆนี้มานานมาก แต่ไม่เคยเข้าใจเลยจนกระทั่งเริ่มเรียนรู้และศึกษาประวัติศาสตร์บ้างเล็กน้อย อิอิ แต่สิ่งที่รู้และนำมาคิดวิเคราะห์คือ ถ้าเรารู้จักอดีตเราก็จะรู้จักปัจจุบันด้วย โลกของเราทุกวันนี้เดินเร็วมากๆ มีการโฆษณา ความเชื่อ และโปรโมชั่นอะไรเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด การรู้จักประวัติศาสตร์ทำให้เรารู้ทันโลกและไม่หลงเป็นทาสความเชื่ออะไรได้ง่ายๆ เราจะรู้จักที่มาและที่ไปของสิ่งที่เราได้ยินและได้รับฟัง ดังนั้นเราจึงปล่อยวางและสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างถูกวิธี
ข้อที่ 3 คนเราทุกคนเกิดแล้วก็ต้องตาย
มันเป็นเบสิกที่เราได้ยินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันถูกมั้ยค่ะ แต่เจ้าของกระทู้กลับไม่เคยอินกับมันเลยสักครั้ง จนต่อเมื่อนำมานั่งคิดและวิเคราะห์ดูและเข้าใจความหมายของความตายจริงๆ มันทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีสิทธิภาพและใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะทักษะเรื่องการปล่อยวาง เจ้าของกระทู้คิดทุกครั้งที่ตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรว่า ¨ ถ้าพรุ่งนี้จะต้องตาย วันนี้ตอนนี้ยังจะทำสิ่งนี้อยู่ไหม และถ้าไม่อะไรล่ะที่อยากจะทำ ¨
ข้อที่ 4 คนเราเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ทุกวัน ทุก ๆ เวลา
หากตอนเรียนเราไม่ได้เรียนสิ่งที่เราชอบ เพราะเหตุผลต่างๆนาๆ แต่ถ้าเรายังไม่ได้ทำสิ่งเราชอบอีกในวัยที่พร้อมดูแลตัวเองได้แล้ว นั่น เป็นความผิดของคุณ เจ้าของกระทู้เคยเรียนวิชาชีพหนึ่งที่เจ้าของกระทู้เกลียดมันเข้าไส้ 555+ เรียนจบมาก็ทำงานสายเดิมตามที่เรียน มองหาเงินและรายได้ก่อนเสมอ เพราะคิดว่าหากรวยแล้วจะไม่ต้องทนทำงานนี้อีก แต่มันเป็นความคิดที่ดักดานมาก เพราะจริงๆแล้วเราก็ลองทำสิ่งที่เรารักได้เลย ถึงแม้งานๆนั้นจะยังไม่สามารถเลี้ยงดูเราได้ในทันที หรือทั้งชีวิตนี้มันจะเลี้ยงดูเราไม่ได้แต่มันก็หล่อเลี้ยงหัวใจเราได้ และไม่เคยสายไปเลยสำหรับการเริ่มต้นลงมือทำ และหากวันหนึ่งได้ทำสิ่งที่รักทุกๆวัน ชีวิตจะมีความสุขยิ่งกว่าถูกล๊อตเตอรี่อีก
ข้อที่ 5 เลือกคู่ชีวิตที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
คนรักเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดเรามากที่สุดคนหนึ่ง ถ้าไม่นับตัวเราเอง เจ้าของกระทู้เลือกอยู่กับคนที่รักเราจริง ๆ และยอมรับในสิ่งที่เราเป็น คอยเป็นห่วง ให้กำลังใจและข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการเข้าอกเข้าใจ เจ้าของกระทู้มองข้ามเงินทองหรือทรัพย์สินใดๆไปเลยค่ะ เพราะสิ่งของพวกนั้นเราหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คนที่มีคุณสมบัติพวกนี้หาไม่ได้ง่ายๆ
ข้อที่ 6 รักตัวเองให้เป็น
อย่างที่เขียนไปแล้วในข้ออื่นๆ หากเรารู้จักและเข้าใจตัวเองมากพอ ชีวิตเราจะมีความสุขขึ้นมาเอง ชีวิตของเราเป็นของ ๆ เราเองเสมอ เกิดมาก็เกิดมาคนเดียวแล้วยังจะจากโลกนี้ไปอีกตามลำพัง ถ้าเราไม่รู้จักรักตัวเองแล้วเราจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมกัน
ข้อที่ 7 มนุษย์เราอยากเป็นอะไรก็เป็นได้ ถ้าเรามีความอยากที่มากพอ
เจ้าของกระทู้เคยอ่านหนังสือจากอาจารย์ท่าหนึ่ง ท่านเขียนประโยคนี้ไว้ มันกินใจมาก ๆ และเจ้าของกระทู้เป็นคนเชื่ออย่างนั้น อยากทำอะไร อยากเป็นอะไรขอให้ลงมือมือทำเลยค่ะ ชีวิตที่เเสนสั้นของพวกเราสำหรับบางคนอาจไม่มีเวลามากพอที่จะสำเร็จมัน แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้ลองดู เราอาจจะเป็นคนโชดดีคนนั้นก็ได้
ข้อที่ 8 ไม่มีงานไหนในโลกนี้ที่ทำแล้วไม่เหนื่อย
ตามหัวข้อเลยค่ะ ไม่มีงานใดๆ ที่ทำแล้วไม่เหนื่อย คำว่างาน ก็คือการใช้กำลังแรง กำลังสมอง กำลังใจทำ ทำมันขึ้นเกิดขึ้นมาทั้งนั้นจึงไม่มีทางเลยค่ะที่มันจะไม่เหนื่อยหน่าย แต่งานที่เรารักจะทำให้เราสนุกจนใจไม่ไปจดจ่ออยู่กับงานที่ทำมากเกินไป
ข้อที่ 9 เงินทอง ลาภยศ สรรเสริญ เป็นมายา
เจ้าของกระทู้เคยมีช่วงชีวิตหนึ่งที่เคยมีเงินมากว่าเมื่อก่อน พอจะมีคนนับถืออยู่บ้าง แต่ตอนนั้นสิ่งพวกนั้นไม่ได้ทำให้ใจที่ร้อนรนสงบสุขลงเลยสักนิด ยิ่งมีมากก็ยิ่งอยากได้มาก ยิ่งมีน้อยลงก็ยิ่งทุกข์ เห็นได้ชัดว่านั่นไม่ใช่หนทางแห่งความสุขที่ชีวิตต้องการเลย และมันก็เป็นเพียงสิ่งสมมติทั้งสิ้น
ข้อที่ 10 พาตัวเองออกไปสัมผัสแตะผิวโลก
เจ้าของกระทู้เชื่อหมดหัวใจว่าในโลกใบใหญ่ใบนี้คือห้องเรียนใบใหญ่มีอะไรให้เรียนรู้มากมายเหลือเกิด เจ้าของกระทู้เป็นคนกระหายการเรียนรู้ ดังนั้นการท่องเที่ยวจึงไม่เคยเป็นการพักผ่อน มันคือการออกไปรู้จักผู้คน ประวัติศาสคร์ และวัฒนธรรมของที่แห่งนั้น ไม่เคยมีสักครั้งที่นอนหรู ๆ เล่นน้ำสบายๆในสระว่ายน้ำ 555+ ถ้าเลือกได้ก็จะเลือกโฮมสเตย์ ไม่ก็ Airbnb
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เจ้าของกระทู้เพิ่งคิดได้ตอนอายุ 30 ปี เจ้าของกระทู้เชื่อวั่นว่าความคิดของคน ๆ ทุก ๆ คนถูกเสมอ มความคิดคือหลักการความเชื่อของคนแต่ละคน จะมีพื้นฐานและภูมิการรับรุ้ที่แตกต่างเสมอ หากสมาชิกท่านใดอยากจะมาแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวของตนเองเจ้าของกระทู้ยินดีรับฟังค่า ขอบคุณค่ะ
ในวันที่ฉันเติบโตเป็นสาววัย 30