"สวนดุสิตโพล" ชี้ผู้ปกครองกว่า 73% กังวลเรื่องมาตรการป้องกันโควิดในช่วงเปิดภาคเรียน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2246008
“สวนดุสิตโพล” ชี้ผู้ปกครองกว่า 73% กังวลเรื่องมาตรการป้องกันโควิดในช่วงเปิดภาคเรียน
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่มีบุตรหลานที่กำลังเปิดภาคเรียนทั่วประเทศจำนวน 1,253 คน ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน 2563 พบว่า 73.68% ระบุว่ามีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 และ 70.04% ระบุว่า กังวลเกี่ยวกับการเรียของบุตรหลาน/เรียนผ่านออนไลน์
นอกจากนี้ยังฝากถึงสถานศึกษาว่า ให้กำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้ชัดเจน ดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสม รักษาความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อ
ส่วนสิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลคือให้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ชัดเจน สนับสนุนการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานศึกษาทุกแห่ง สนับสนุนค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง
'นิด้า โพล' ระบุประชาชนส่วนใหญ่หาคนเหมาะเป็นนายกไม่ได้ - หนุน 'เพื่อไทย' มากกว่า พปชร.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2245986
‘นิด้า โพล’ ระบุประชาชนส่วนใหญ่หาคนเหมาะเป็นนายกไม่ได้ – หนุน ‘เพื่อไทย’ มากกว่า พปชร.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “
การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22 – 24 มิถุนายน 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,517 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “
นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 44.06 ระบุว่าเป็น ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 2 ร้อยละ 25.47 ระบุว่าเป็น พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ บริหารงานดีอยู่แล้ว ทำงานตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ บ้านเมืองสงบไม่วุ่นวายช่วยเหลือประชาชนได้จริง และอยากให้ดำรงตำแหน่งต่อไป
อันดับ 3 ร้อยละ 8.07 ระบุ คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ มีประสบการณ์การทำงาน การบริหารงานที่ผ่านมาได้ดี พูดจริง ทำจริง และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
อันดับ 4 ร้อยละ 7.03 ระบุว่าเป็น ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
อันดับ 5 ร้อยละ 4.57 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริง ทำจริง มีความซื่อสัตย์ และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
อันดับ 6 ร้อยละ 3.93 ระบุว่าเป็น นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ อยากได้คนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ และชื่นชอบนโยบายพรรค
อันดับ 7 ร้อยละ 1.67 ระบุว่าเป็น นาย
กรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะมีวิสัยทัศน์ที่ดี มีความเป็นผู้นำ มีความสามารถทางด้านเศษฐกิจ และมีความเข้าใจการเมืองทั้งแบบเก่าและแบบใหม่
อันดับ 8 ร้อยละ 0.99 ระบุว่าเป็น นาย
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ชอบผลงานของพรรคเพื่อไทย และเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น
อันดับ 9 ร้อยละ 0.95 ระบุว่าเป็น นาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะ มีความเป็นผู้นำ การทำงานมีความยืดหยุ่น
อันดับ 10 ร้อยละ 0.87 ระบุว่าเป็น นาย
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่) เพราะ มีนโยบายพรรคที่ชัดเจน น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดี
อันดับ 11 ร้อยละ 0.83 ระบุว่าเป็น นาย
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ ไม่มีประวัติด่างพร้อย และมีวิสัยทัศน์ที่ดี
อันดับ 12 ร้อยละ 0.44 ระบุว่าเป็น นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีผลงานในการทำงานที่ดี และบริหารจัดการงานได้ดี
อันดับที่ 13 ร้อยละ 0.32 ระบุว่า นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) เพราะ ชอบในการทำงาน และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และนายชวน หลีกภัย ในสัดส่วนที่เท่ากัน
อันดับ 14 ร้อยละ 0.20 ระบุว่าเป็น นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
อันดับ 15 ร้อยละ 0.16 ระบุว่าเป็น นาย
อุตตม สาวนายน (พรรคพลังประชารัฐ)
อันดับที่ 16 ร้อยละ 0.08 ระบุว่าเป็น หม่อมราชวงศ์
จัตุมงคล โสณกุล เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนาน และน่าช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดี
อันดับ 17 ร้อยละ 0.04 ระบุว่าเป็น นางสาว
กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา)
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ คะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1 เดือนธันวาคม 2562 พบว่า
ผู้ที่ระบุว่า คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นาย
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, นาย
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นาย
อนุทิน ชาญวีรกูล, นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา, นาย
ชวน หลีกภัย, หม่อมราชวงศ์
จัตุมงคล โสณกุล และนางสาว
กัญจนา ศิลปอาชา มีสัดส่วนลดลง
ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นาย
กรณ์ จาติกวณิช, นาย
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์, นาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, นาย
อุตตม สาวนายน ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 32.38 ระบุว่าเป็น ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย
อันดับ 2 ร้อยละ 20.70 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
อันดับ 3 ร้อยละ 15.73 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ
อันดับ 4 ร้อยละ 13.47 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
อันดับ 5 ร้อยละ 7.75 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 6 ร้อยละ 3.42 ระบุว่าเป็น ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
อันดับ 7 ร้อยละ 2.50 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย
อันดับ 8 ร้อยละ 1.43 ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย
อันดับ 9 ร้อยละ 1.11 ระบุว่าเป็น พรรคกล้า
อันดับ 10 ร้อยละ 0.60 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อชาติ
อันดับ 11 ร้อยละ 0.36 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา
อันดับ 12 ร้อยละ 0.20 ระบุว่าเป็น พรรคเศรษฐกิจใหม่
อันดับ 13 ร้อยละ 0.16 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชาติ
อันดับ 14 ร้อยละ 0.11 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนา
อันดับ 15 ร้อยละ 0.08 ระบุว่าเป็น พรรครวมพลังประชาชาติไทย
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ คะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1 เดือนธันวาคม 2562 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคประชาชาติ มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคชาติพัฒนา ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย และไม่ตอบ/ไม่สนใจมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และผู้ที่ระบุว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย มีสัดส่วนเท่าเดิม
JJNY : ดุสิตโพล73%กังวลมาตรการป้องกันโควิดช่วงเปิดเรียน/นิด้าโพล หนุนพท.กว่าพปชร./ทั่วโลกป่วยโควิด10ล./ไม่มีผู้ติดเชื้อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2246008
“สวนดุสิตโพล” ชี้ผู้ปกครองกว่า 73% กังวลเรื่องมาตรการป้องกันโควิดในช่วงเปิดภาคเรียน
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่มีบุตรหลานที่กำลังเปิดภาคเรียนทั่วประเทศจำนวน 1,253 คน ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน 2563 พบว่า 73.68% ระบุว่ามีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 และ 70.04% ระบุว่า กังวลเกี่ยวกับการเรียของบุตรหลาน/เรียนผ่านออนไลน์
นอกจากนี้ยังฝากถึงสถานศึกษาว่า ให้กำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้ชัดเจน ดูแลเอาใจใส่เด็กอย่างใกล้ชิด จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสม รักษาความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อ
ส่วนสิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลคือให้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ชัดเจน สนับสนุนการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานศึกษาทุกแห่ง สนับสนุนค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง
'นิด้า โพล' ระบุประชาชนส่วนใหญ่หาคนเหมาะเป็นนายกไม่ได้ - หนุน 'เพื่อไทย' มากกว่า พปชร.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2245986
‘นิด้า โพล’ ระบุประชาชนส่วนใหญ่หาคนเหมาะเป็นนายกไม่ได้ – หนุน ‘เพื่อไทย’ มากกว่า พปชร.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22 – 24 มิถุนายน 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,517 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 44.06 ระบุว่าเป็น ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 2 ร้อยละ 25.47 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ บริหารงานดีอยู่แล้ว ทำงานตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ บ้านเมืองสงบไม่วุ่นวายช่วยเหลือประชาชนได้จริง และอยากให้ดำรงตำแหน่งต่อไป
อันดับ 3 ร้อยละ 8.07 ระบุ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ มีประสบการณ์การทำงาน การบริหารงานที่ผ่านมาได้ดี พูดจริง ทำจริง และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
อันดับ 4 ร้อยละ 7.03 ระบุว่าเป็น ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
อันดับ 5 ร้อยละ 4.57 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริง ทำจริง มีความซื่อสัตย์ และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
อันดับ 6 ร้อยละ 3.93 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ อยากได้คนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ และชื่นชอบนโยบายพรรค
อันดับ 7 ร้อยละ 1.67 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะมีวิสัยทัศน์ที่ดี มีความเป็นผู้นำ มีความสามารถทางด้านเศษฐกิจ และมีความเข้าใจการเมืองทั้งแบบเก่าและแบบใหม่
อันดับ 8 ร้อยละ 0.99 ระบุว่าเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะ ชอบผลงานของพรรคเพื่อไทย และเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น
อันดับ 9 ร้อยละ 0.95 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะ มีความเป็นผู้นำ การทำงานมีความยืดหยุ่น
อันดับ 10 ร้อยละ 0.87 ระบุว่าเป็น นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่) เพราะ มีนโยบายพรรคที่ชัดเจน น่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดี
อันดับ 11 ร้อยละ 0.83 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะ ไม่มีประวัติด่างพร้อย และมีวิสัยทัศน์ที่ดี
อันดับ 12 ร้อยละ 0.44 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีผลงานในการทำงานที่ดี และบริหารจัดการงานได้ดี
อันดับที่ 13 ร้อยละ 0.32 ระบุว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) เพราะ ชอบในการทำงาน และชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และนายชวน หลีกภัย ในสัดส่วนที่เท่ากัน
อันดับ 14 ร้อยละ 0.20 ระบุว่าเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
อันดับ 15 ร้อยละ 0.16 ระบุว่าเป็น นายอุตตม สาวนายน (พรรคพลังประชารัฐ)
อันดับที่ 16 ร้อยละ 0.08 ระบุว่าเป็น หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล เพราะ มีประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนาน และน่าช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดี
อันดับ 17 ร้อยละ 0.04 ระบุว่าเป็น นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา)
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ คะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1 เดือนธันวาคม 2562 พบว่า
ผู้ที่ระบุว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา, นายชวน หลีกภัย, หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล และนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา มีสัดส่วนลดลง
ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, นายอุตตม สาวนายน ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ และไม่ตอบ/ไม่สนใจ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 32.38 ระบุว่าเป็น ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย
อันดับ 2 ร้อยละ 20.70 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
อันดับ 3 ร้อยละ 15.73 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ
อันดับ 4 ร้อยละ 13.47 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
อันดับ 5 ร้อยละ 7.75 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 6 ร้อยละ 3.42 ระบุว่าเป็น ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
อันดับ 7 ร้อยละ 2.50 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย
อันดับ 8 ร้อยละ 1.43 ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย
อันดับ 9 ร้อยละ 1.11 ระบุว่าเป็น พรรคกล้า
อันดับ 10 ร้อยละ 0.60 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อชาติ
อันดับ 11 ร้อยละ 0.36 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา
อันดับ 12 ร้อยละ 0.20 ระบุว่าเป็น พรรคเศรษฐกิจใหม่
อันดับ 13 ร้อยละ 0.16 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชาติ
อันดับ 14 ร้อยละ 0.11 ระบุว่าเป็น พรรคชาติพัฒนา
อันดับ 15 ร้อยละ 0.08 ระบุว่าเป็น พรรครวมพลังประชาชาติไทย
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจ คะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1 เดือนธันวาคม 2562 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคประชาชาติ มีสัดส่วนลดลง ซึ่งในขณะที่ผู้ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคชาติพัฒนา ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย และไม่ตอบ/ไม่สนใจมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และผู้ที่ระบุว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย มีสัดส่วนเท่าเดิม