สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ไลฟ์โค็ชทั้งหลายเป็นที่ต้องการของช่วงวัยของคนที่กำลังต้องการแรงบันดาลใจ ต้องการประสบความสำเร็จ
มาเติมเต็มฝัน คนที่ทำหน้าที่คือผู้เล่าเรื่องคนคนอื่นที่ประสบความสำเร็จ หลายคนที่ฟังจบจะเกิดภาพเหล่านั้นติดมา
แนวทางของแต่ละคน ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แม้แต่ใช้เทคนิคคอลเหมือนกัน คนสิบคน ได้กำไรไม่เท่ากัน บางคนขาดทุน
ดังนั้นการไดฟัง จึงเป็นคนละเรื่องกับการเติมส่วนที่บกพร่องของแต่ละคน แต่เราจะต้องค้นหาตัวเองให้เจอ และเตรียมความพร้อม
ไว้รอโอกาสที่จะเข้ามาหา ถ้าวันใด โอกาสเข้ามาหา หรือ เราวิ่งเข้าไปหาโอกาส แต่ไม่มีความพร้อม ก็จะยังจนเหมือนเดิมครับ
นักกีฬาซ้อมหลายปี เพื่อเหรียญทอง โดยใช้เวลาแค่วันเดียว ไม่มีอะไรเปลี่ยนชีวิตเราในวันเดียวหรือคอร์สเดียวครับ ต้องไปฝึกและล้มเหลว
และวนไปอีกหลายรอบกว่าจะรวย
มาเติมเต็มฝัน คนที่ทำหน้าที่คือผู้เล่าเรื่องคนคนอื่นที่ประสบความสำเร็จ หลายคนที่ฟังจบจะเกิดภาพเหล่านั้นติดมา
แนวทางของแต่ละคน ไม่ได้เหมาะกับทุกคน แม้แต่ใช้เทคนิคคอลเหมือนกัน คนสิบคน ได้กำไรไม่เท่ากัน บางคนขาดทุน
ดังนั้นการไดฟัง จึงเป็นคนละเรื่องกับการเติมส่วนที่บกพร่องของแต่ละคน แต่เราจะต้องค้นหาตัวเองให้เจอ และเตรียมความพร้อม
ไว้รอโอกาสที่จะเข้ามาหา ถ้าวันใด โอกาสเข้ามาหา หรือ เราวิ่งเข้าไปหาโอกาส แต่ไม่มีความพร้อม ก็จะยังจนเหมือนเดิมครับ
นักกีฬาซ้อมหลายปี เพื่อเหรียญทอง โดยใช้เวลาแค่วันเดียว ไม่มีอะไรเปลี่ยนชีวิตเราในวันเดียวหรือคอร์สเดียวครับ ต้องไปฝึกและล้มเหลว
และวนไปอีกหลายรอบกว่าจะรวย
ความคิดเห็นที่ 8
สมัยเริ่มทำงานใหม่ ๆ เจ้านายเก่าเคยส่งพนักงานไปสัมมนาปลดล็อก คอร์ส 5000 บาท เรียน 2 วัน สอนโดยอาจารย์ชาวญี่ปุ่น (มีล่าม) ประสบการณ์ดีมาก เคลียร์ใจให้ใสขึ้น มีความสุขขึ้น ไฟแรงขึ้นระยะหนึ่ง ๆ (พอกลับมาใช้ชีวิตประจำวันก็กลับมาขุ่นเหมือนเดิม) โดยคร่าวมันก็ช่วยได้นะครับในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ แต่คนสอนต้องมีความเชียวชาญด้านจิตใจ จิตวิทนา และเรื่องคนทีเดียว
แต่หลัง ๆ มามีโอกาสได้ไปสัมมนาของไลฟ์โค้ชโซเชียล (ไม่ได้จ่ายตังเอง ได้รับเชิญไปในฐานะ Observer) แอบสารภาพว่าไม่โอเคเลย กล่าวคือพวกเขาไม่ได้สำเร็จด้านโค้ชชิ่ง และ ไม่ได้สำเร็จด้านการจัดสัมมนามา เพียงแต่ทำเพจ โพสต์คำคม แล้วคนตามเยอะเลยเปิดสัมมนากันเอง ทั้ง Content และ Context จึงแย่มากจนช่วงหนึ่งมีวลี "สัมมนาตบแปะ" ดราม่าอยู่พักใหญ่ ๆ คือ สัมมนามีแต่ ไฮไฟว์ กิฟมีไฟว์ คิดในใจ คือ คนจ่าย 5 พันมาทำแบบนี้อ่ะนะ 55
แต่หลัง ๆ มามีโอกาสได้ไปสัมมนาของไลฟ์โค้ชโซเชียล (ไม่ได้จ่ายตังเอง ได้รับเชิญไปในฐานะ Observer) แอบสารภาพว่าไม่โอเคเลย กล่าวคือพวกเขาไม่ได้สำเร็จด้านโค้ชชิ่ง และ ไม่ได้สำเร็จด้านการจัดสัมมนามา เพียงแต่ทำเพจ โพสต์คำคม แล้วคนตามเยอะเลยเปิดสัมมนากันเอง ทั้ง Content และ Context จึงแย่มากจนช่วงหนึ่งมีวลี "สัมมนาตบแปะ" ดราม่าอยู่พักใหญ่ ๆ คือ สัมมนามีแต่ ไฮไฟว์ กิฟมีไฟว์ คิดในใจ คือ คนจ่าย 5 พันมาทำแบบนี้อ่ะนะ 55
ความคิดเห็นที่ 3
ในความเห็นส่วนตัว มันจะดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้น อยู่ที่ตัวเองล้วนๆครับ มันต้องเริ่มจากภายในใจตัวเองก่อน
ถึงจะรู้อะไรใหม่ๆ ถึงขั้นเสียเงินถ้าไม่ลงมือกระทำหรือเปลี่ยนแปลง ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ต่างกับบางคนแค่ฟังหรืออ่านฟรีๆ แล้วนำมาปรับใช้ยังมีประโยชน์กว่า ผมมองว่าอยู่ที่กระบวนการคิดของแต่ละคนมากกว่า
ฟัง อ่านแล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับชีวิตตัวเองครับ
ผมคนหนึ่งนะที่ไม่เสียเงิน หาฟัง อ่าน ดูฟรีตามคลิปและบทความเอา
ถึงจะรู้อะไรใหม่ๆ ถึงขั้นเสียเงินถ้าไม่ลงมือกระทำหรือเปลี่ยนแปลง ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ต่างกับบางคนแค่ฟังหรืออ่านฟรีๆ แล้วนำมาปรับใช้ยังมีประโยชน์กว่า ผมมองว่าอยู่ที่กระบวนการคิดของแต่ละคนมากกว่า
ฟัง อ่านแล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับชีวิตตัวเองครับ
ผมคนหนึ่งนะที่ไม่เสียเงิน หาฟัง อ่าน ดูฟรีตามคลิปและบทความเอา
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยเสียเงิน หลายพัน ไปฟังนักพูดสร้างแรงบันดาลใจบ้าง แล้วหน้าที่การงานดีขึ้นมั้ยครับ?
เลยไปเสียเงินน่าจะ 6,000 กว่า สัมมนาวันนึง
ลองคำนวณ ดูจากจำนวน ผู้เข้าร่วม อาจารย์น่าจะได้ประมาณ 1 ล้าน!!!(ยังไม่ได้หักค่าใช่จ่าย)
แล้วไปรอบ 2 อีก 6,000
เพราะคิดว่าจะทำให้หน้าที่การงานดีขึ้น
แต่สรุปแล้วเหมือนไม่ได้อะไร
อ่านหนังสือเอาก็ค่าเท่ากัน อยู่ที่เรามากกว่าว่าจะปรับเปลี่ยนตัวเองมั้ย
ตอนนี้ก็คิดได้แล้วว่าใช้เงินซื้อหนังสือมาอ่านก็พอ
คนอื่นๆเป็นยังไงบ้างครับ?
สำหรับผมตอนนี้บบรรลุแล้วเอาเงินไปซื้อหนังสือแบบนี้ดีกว่า ถูกกว่าอ่านได้หลายรอบ