ยกตัวอย่าง
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 183
ผู้ใดกระทำความผิดตาม มาตรา 177 มาตรา 178 หรือ มาตรา 180
แล้วลุแก่โทษและกลับแจ้งความจริงต่อศาล หรือเจ้าพนักงานก่อนมีคำพิพากษาและก่อนตนถูกฟ้องในความผิดที่ได้กระทำ
ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได
เช่น
ใครรู้ว่าทำผิด ก็รีบสารภาพต่อศาล
ก่อนโดนพิพากษาในคดีที่ได้เบิกความเท็จต่อศาล ก่อนถูกฟ้องในความผิดฐานเบิกความเท็จต่อศาล
โทษห้าปี ศาลท่านก็อาจเมตตาลงโทษแค่ห้าวัน หรืออื่นใด
หากไม่กระทำ ไม่ยอมลุแก่โทษ ก็จะต้องรับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
.
ความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมไทย หากแค่มีความจริงใจต่อบ้านเมืองและประชาชน
ทุกฝ่าย ควรหันหน้าพูดคุยกัน แบบเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ต้องมีการชี้ว่าใครผิด แต่ทุกฝ่ายควรกล้าแสดงความรับผิดชอบออกมาเอง
ประชาชนทำหน้าที่เหมือนศาล สังคมไทยเป็นสังคมประนีประนอมพร้อมให้อภัยคนยอมรับความผิดพลาด
จะเป็นการสร้างบรรทัดฐาน สร้างวัฒนธรรมทางการเมืองและสังคมที่ดี ทำลายเล่ห์กลทางการเมือง ก้าวสู่ยุคโปร่งใสอย่างจริงแท้
หากเอาแต่ถือดีเข้าใส่กัน โยนโทษคนอื่น ทรนงว่าตัวเองถูกต้อง ไม่กล้าแสดงความรับผิดชอบ
ความขัดแย้งก็ไม่มีวันคลี่คลาย
.
ก่อนจะสายเกินไป
และก็สายเกินไปแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่ ?
.
ลุแก่โทษ คือ ทางออกของบ้านเมือง ........................................... โดย ตระกองขวัญ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 183
ผู้ใดกระทำความผิดตาม มาตรา 177 มาตรา 178 หรือ มาตรา 180
แล้วลุแก่โทษและกลับแจ้งความจริงต่อศาล หรือเจ้าพนักงานก่อนมีคำพิพากษาและก่อนตนถูกฟ้องในความผิดที่ได้กระทำ
ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได
เช่น
ใครรู้ว่าทำผิด ก็รีบสารภาพต่อศาล
ก่อนโดนพิพากษาในคดีที่ได้เบิกความเท็จต่อศาล ก่อนถูกฟ้องในความผิดฐานเบิกความเท็จต่อศาล
โทษห้าปี ศาลท่านก็อาจเมตตาลงโทษแค่ห้าวัน หรืออื่นใด
หากไม่กระทำ ไม่ยอมลุแก่โทษ ก็จะต้องรับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้