กลายเป็นประเด็นร้อนแรงบนโลกออนไลน์ เมื่อบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี บริษัท ทรู ฟินเทค จำกัด และการจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการให้บริการแอปพลิเคชัน TRUE CASH PRO เมื่อวันที่ 22 มิย. 2563 ที่ผ่านมา
จากกรณีที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ “ศปน.ตร.” บุกทลายแอพพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบของชาวต่างชาติ ผ่านแอพฯ "TRUE CASH PRO" ซึ่งมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดนั้น พบผู้เกี่ยวข้องเป็นชาวจีนหลายราย
ซึ่งจากแอพพลิเคชั่น "TRUE CASH PRO" และ บจก.ทรู ฟินเทค ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ มีชื่อคล้ายคลีงจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วย
จนทำให้
Facebook : PR True ต้องออกมาชี้แจงว่า "บจก.ทรู ฟินเทค แอป TRUE CASH PRO และแอป TRUE CASH ไม่ใช่ธุรกิจของกลุ่มทรูและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เป็นเพียงธุรกิจของบุคคลอื่นที่มีชื่อคล้ายคลึงเท่านั้น ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้" จึงขอชี้แจงมาเพื่อโปรดทราบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรืออย่างเคสก่อนหน้านี้ก็
"ทรู ฟิตเนส เทลูกค้า ปิดทุกสาขาไม่บอกล่วงหน้า"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทรู ฟิตเนส เป็นธุรกิจฟิตเนส โยคะภายใต้เดอะ ทรู กรุ๊ป สัญชาติสิงคโปร์ ประกอบธุรกิจด้านฟิตเนสและด้านสุขภาพ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 แต่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในปี 2549 เปิดสาขาแรกที่สาขาเอ็กเชน ทาวเวอร์ อโศก มีพื้นที่ให้บริการ 3 ชั้น รวม 3,700 ตารางเมตร ต่อมาได้ขยายสาขาไปยังเซน แอท เซ็นทรัลเวิล์ด และเอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย ปัจจุบันเดอะ ทรู กรุ๊ปได้ทำตลาดอยู่ใน 5 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ไต้หวัน และจีน
นับเป็นผู้ประกอบการฟิตเนสอีกราย ที่กำลังซ้ำรอยกับ แคลิฟอร์เนีย ว้าวที่เป็นแบรนด์ฟิตเนสเช่นเดียวกันได้ปิดให้บริการถอยทัพจากประเทศไทย และได้เทลูกค้าโดยไม่บอกกล่าว ทำให้ลูกค้าหลายรายเสียหาย จนเป็นคดีความร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลายราย
เรียกได้ว่า ครั้งนั้นก็ทำให้บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นฯ ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ทรู ฟิตเนส" อีกเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า ครั้งนี้คงจะไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลายครั้งที่ผู้บริโภคแบบเราๆ มักถูกทำให้เข้าใจผิดจากชื่อ และรูปแบบโลโก้ที่มีความเหมือนกันหรือคล้ายกัน จนทำให้เราถูกหลอกอย่างสนิทใจว่า เป็นสินค้าจากธุรกิจที่เราต้องการ
ก็ได้แต่หวังว่า คนไทยเราจะเพิ่มความระมัดระวัง และควรศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดีว่าเป็นสินค้าที่เรามั่นใจได้ไหม
จาก "ทรู ฟิตเนส" ถึง "True Cash Pro" และ "True Fintech"
จากกรณีที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ “ศปน.ตร.” บุกทลายแอพพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบของชาวต่างชาติ ผ่านแอพฯ "TRUE CASH PRO" ซึ่งมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดนั้น พบผู้เกี่ยวข้องเป็นชาวจีนหลายราย
ซึ่งจากแอพพลิเคชั่น "TRUE CASH PRO" และ บจก.ทรู ฟินเทค ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ มีชื่อคล้ายคลีงจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วย
จนทำให้ Facebook : PR True ต้องออกมาชี้แจงว่า "บจก.ทรู ฟินเทค แอป TRUE CASH PRO และแอป TRUE CASH ไม่ใช่ธุรกิจของกลุ่มทรูและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เป็นเพียงธุรกิจของบุคคลอื่นที่มีชื่อคล้ายคลึงเท่านั้น ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้" จึงขอชี้แจงมาเพื่อโปรดทราบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรืออย่างเคสก่อนหน้านี้ก็ "ทรู ฟิตเนส เทลูกค้า ปิดทุกสาขาไม่บอกล่วงหน้า"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรียกได้ว่า ครั้งนั้นก็ทำให้บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นฯ ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ทรู ฟิตเนส" อีกเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า ครั้งนี้คงจะไม่ได้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหลายครั้งที่ผู้บริโภคแบบเราๆ มักถูกทำให้เข้าใจผิดจากชื่อ และรูปแบบโลโก้ที่มีความเหมือนกันหรือคล้ายกัน จนทำให้เราถูกหลอกอย่างสนิทใจว่า เป็นสินค้าจากธุรกิจที่เราต้องการ
ก็ได้แต่หวังว่า คนไทยเราจะเพิ่มความระมัดระวัง และควรศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดีว่าเป็นสินค้าที่เรามั่นใจได้ไหม