เราขอเกริ่นก่อนว่ามันเป็นปัญหาที่ทำให้เราปวดหัวมากที่สุดในตอนนี้ และมันทำให้เราอึดอัดสุดๆจนรู้สึกตัวกลัวว่าตัวเองจะทำผิดพลาดจนต้องเสียลูกไปอีกครั้ง
เรื่องของเรามีอยู่ เราเป็นคุณแม่ที่ต่องเลี้ยงดูลูกเองคนเดียว สามีทำงานต่างจังหวัด เรามีลูก2คน คนโต เกิดจากอดีตสามี ที่เลิกลาไปกว่า 10ปี ตอนนี้น้องอายุ 11ปีเป็นน้องผู้หญิง คนเล็กเกิดกับสามีปัจจุบัน อายุ 7ปีเป็นผู้หญิงเช่นกัน เมื่อก่อนนี้ ลูกคนโต ถูกสามีเก่าและทางครอบครัวเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามีแวะเวียนไปหาบ้างแต่ก็ไม่ค่อยสนิทกับน้องเท่าไหร่เพราะไปหาได้แปป ที่บ้านโน้นจะไม่ยอมให้ลูกสาว(ของแทนชื่อว่าน้อง เอ นะคะ) มานอนค้างที่บ้าน ส่วนมาจะให้แค่พาไปเที่ยวเล่นและตอนเย็นให้พาไปส่งค่ะ ส่วนลูกสาวคนเล็ก (ขอแทนชื่อว่าน้องบี)เราเป็นคนเลี้ยงดูน้องเองตั้งแต่เด็ก ไม่เคยห่างกันแม้แต่วันเดียวเอาเป็นว่ากินนอนหรือแม้แต่เข้าห้องน้ำ ก็ติดกันแจ ทำให้เรากับน้องบี สนิทกันมากมักเล่นหยอกล้อ ปล้ำกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันได้ แต่เรื่องมันมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ ตลอดระยะเวลา 10ปีที่ผ่านมา เราคุยกับสามีเก่า ว่าต้องการรับน้องเอ กลับมาดูแลเอง ด้วยปัญหาหลายๆอย่างทางบ้านอดีตสามีไม่ยอมให้ลูกกลับมาอยู่ด้วย จนเมื่อต้นเดือนมิถุนายน อดีตสามีโทรมาบอกว่าน้องเอไม่สบายให้มารับไปดูเเล เราด้วยความเป็นห่วงจึงรีบไปรับน้องเอมาบ้าน พอมาถึงบ้าน อดีตสามีโทรมาบอกว่า ต่อไปนี้ก็เลี้ยงดูน้องเอให้ดีๆนะ ไม่ต้องพาหลับไปส่งที่บ้านอีก ต่อไปนี้ก็ให้แกดูแลลูกต่อไป เอาจริงตอนนั้นที่ได้ยินคือดีใจและมึนงง เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเราพยายามจะพาลูกกลับมาอยู่ด้วยตลอด แต่เขาก็ไม่เคยยอมแต่พอจะยอมก็ยอมง่ายๆ ชีวิตที่ไม่ได้เตรียมใจรับว่าลูกจะกลับมาอยู่ในอ้อมกอดเราอีกครั้ง ทำให้เราวางตัวกับลูก2คนไม่ถูก มันไม่ง่ายเลย ที่จะทำความเข้าใจเด็กอายุ11ปี เราไม่รู้ลูกชอบกินหรือไม่กินอะไร เราไม่กล้าแสดงความรักเช่นการหอมกอดหรือ จูบ แบบที่เราทำกับน้องบีได้ แล้วยิ่งแย่ไปใหญ่คือ เราไม่กล้าแสดงความรักกับน้องบีอย่างเช่นที่ผ่านมาได้ เพราะ กลัวน้องเอเห็นแล้วจะน้อยใจ เราทำตัวไม่ถูกจริง ตอนนี้รู้สึกอึดอัด จนแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ เราไม่รู้จะถามใครปรึกษาใคร เราเคยมีชีวิตในวัยเด็กที่ไม่ดี เราจึงกลัวว่าลูกจะประสบแบบเรา ปัญหาเรื่องการแสดงความรักที่ไม่เท่ากันมันเลยเป็นปมในใจเรา อยากจะขอคำแนะจากหลายๆคนว่ามีใครพอมีวิธีที่พอจะช่วยแนะนำเราได้บ้าง จะขอบคุณอย่างมาก ลูกทั้งสองคนคือดวงใจของเรา น้องเอกำลังเข้าช่วงวัยรุ่น เรากลัวการกระทำบ้างอย่างของเราจะไปทำให้เขาห่างเราออกไป เราจะรอคำแนะนำ และพยายามนำไปใช้นะคะ
ขอคำแนะนำในการเลี้ยงลูกให้ลูกรู้สึกว่าเราไม่ได้ลำเอียงรักอีกคนมากกว่า
เรื่องของเรามีอยู่ เราเป็นคุณแม่ที่ต่องเลี้ยงดูลูกเองคนเดียว สามีทำงานต่างจังหวัด เรามีลูก2คน คนโต เกิดจากอดีตสามี ที่เลิกลาไปกว่า 10ปี ตอนนี้น้องอายุ 11ปีเป็นน้องผู้หญิง คนเล็กเกิดกับสามีปัจจุบัน อายุ 7ปีเป็นผู้หญิงเช่นกัน เมื่อก่อนนี้ ลูกคนโต ถูกสามีเก่าและทางครอบครัวเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามีแวะเวียนไปหาบ้างแต่ก็ไม่ค่อยสนิทกับน้องเท่าไหร่เพราะไปหาได้แปป ที่บ้านโน้นจะไม่ยอมให้ลูกสาว(ของแทนชื่อว่าน้อง เอ นะคะ) มานอนค้างที่บ้าน ส่วนมาจะให้แค่พาไปเที่ยวเล่นและตอนเย็นให้พาไปส่งค่ะ ส่วนลูกสาวคนเล็ก (ขอแทนชื่อว่าน้องบี)เราเป็นคนเลี้ยงดูน้องเองตั้งแต่เด็ก ไม่เคยห่างกันแม้แต่วันเดียวเอาเป็นว่ากินนอนหรือแม้แต่เข้าห้องน้ำ ก็ติดกันแจ ทำให้เรากับน้องบี สนิทกันมากมักเล่นหยอกล้อ ปล้ำกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันได้ แต่เรื่องมันมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ ตลอดระยะเวลา 10ปีที่ผ่านมา เราคุยกับสามีเก่า ว่าต้องการรับน้องเอ กลับมาดูแลเอง ด้วยปัญหาหลายๆอย่างทางบ้านอดีตสามีไม่ยอมให้ลูกกลับมาอยู่ด้วย จนเมื่อต้นเดือนมิถุนายน อดีตสามีโทรมาบอกว่าน้องเอไม่สบายให้มารับไปดูเเล เราด้วยความเป็นห่วงจึงรีบไปรับน้องเอมาบ้าน พอมาถึงบ้าน อดีตสามีโทรมาบอกว่า ต่อไปนี้ก็เลี้ยงดูน้องเอให้ดีๆนะ ไม่ต้องพาหลับไปส่งที่บ้านอีก ต่อไปนี้ก็ให้แกดูแลลูกต่อไป เอาจริงตอนนั้นที่ได้ยินคือดีใจและมึนงง เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเราพยายามจะพาลูกกลับมาอยู่ด้วยตลอด แต่เขาก็ไม่เคยยอมแต่พอจะยอมก็ยอมง่ายๆ ชีวิตที่ไม่ได้เตรียมใจรับว่าลูกจะกลับมาอยู่ในอ้อมกอดเราอีกครั้ง ทำให้เราวางตัวกับลูก2คนไม่ถูก มันไม่ง่ายเลย ที่จะทำความเข้าใจเด็กอายุ11ปี เราไม่รู้ลูกชอบกินหรือไม่กินอะไร เราไม่กล้าแสดงความรักเช่นการหอมกอดหรือ จูบ แบบที่เราทำกับน้องบีได้ แล้วยิ่งแย่ไปใหญ่คือ เราไม่กล้าแสดงความรักกับน้องบีอย่างเช่นที่ผ่านมาได้ เพราะ กลัวน้องเอเห็นแล้วจะน้อยใจ เราทำตัวไม่ถูกจริง ตอนนี้รู้สึกอึดอัด จนแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ เราไม่รู้จะถามใครปรึกษาใคร เราเคยมีชีวิตในวัยเด็กที่ไม่ดี เราจึงกลัวว่าลูกจะประสบแบบเรา ปัญหาเรื่องการแสดงความรักที่ไม่เท่ากันมันเลยเป็นปมในใจเรา อยากจะขอคำแนะจากหลายๆคนว่ามีใครพอมีวิธีที่พอจะช่วยแนะนำเราได้บ้าง จะขอบคุณอย่างมาก ลูกทั้งสองคนคือดวงใจของเรา น้องเอกำลังเข้าช่วงวัยรุ่น เรากลัวการกระทำบ้างอย่างของเราจะไปทำให้เขาห่างเราออกไป เราจะรอคำแนะนำ และพยายามนำไปใช้นะคะ