เพิ่งขึ้น Extern (แพทย์ปี 6) รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ไม่ใช่ทางควรทำอย่างไรดี

ตชอดชีวิตการเรียนแพทย์ปี1-3 เราไม่เคยมีปัญหาด้านการเรียนมาก่อน สอบผ่านแทบจะตลอด สอบผ่านใบประกอบครั้งที่ 1 แล้วด้วย พอเริ่มขึ้นปี 4 เราเริ่มมีปัญหาปรับตัวไม่ได้เริ่มเครียดและร้องแทบทุกวันตลอดระยะเวลา 2 อาทิตย์หลังจากนั้นมันดีขึ้นและหยุดร้องไปเอง การเรียนในปี 5 กับ ปี 4 ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนักแถมยังสวายกว่าตอนปี 4 เพราะผ่านวอร์ด minor จึงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ปัญหาเกิดขึ้นตรงนี้ เราเพิ่งขึ้น Extern ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งเราปัฏิบัติงานอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐ(เป็นศูนย์แพทย์ ไม่ใช่โรงเรียนแพทย์นะ) เราขึ้นวอร์ดออโถ(ศัลยกรรมกระดูก) เป็นวอร์กแรก อาจารย์ใจดี น่ารักมาก สอนทุกอย่าง ช่วยเหลือเราทุกอย่าง แต่เรามีปัญหาคือตอนอยู่เวร เรารู้สึกเครียดทุกครั้งที่ต้องอยู่เวร นอนไม่หลับ กินไม่ได้ กลัวเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ กลัวเสียงแจ้งเตือนไลน์ เราไม่สามารถอดนอนวันที่อยู่เวรแล้วไปทำงานวันถัดไปได้ มันทรมานไปหมด เริ่มรู้สึกว่าที่เราเรียนอยู่มันไม่ใช่ ร้องไห้ทุกวันตั้งแต่ขึ้น extern มา ปรึกษาพ่อแม่แล้ว พ่อแม่ก็บอกให้ทนให้จบจนได้ปริญญามาหลังจากนั้นจะไปทำอะไรก็ได้ ในมุมมองเรา เราสามารถเรียนสาขาทางเลือกที่เค้ามีไว้สำหรับคนที่เรียนปี 4 ไม่ไหว คือเรียนเอาวิทยาศาตร์บัณฑิต หลังจากนั้นมีแพลนว่าอาจจะไปสอบนับบินหรือไปช่วยธุรกิจต่อที่บ้าน ตอนนี้เราทำอะไรไม่ถูก ตัดสินใจไม่ถูก ช่วยด้วยครับ 😭😭😭
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เป็น extern เขาไม่ได้คาดหวังให้มารักษาผู้ป่วย แต่เขาคาดหวังให้มาเรียนกับผู้ป่วย
เรื่องเสียงโทรศัพท์ ไม่ต้องกลัว ท่องเอาไว้ ตามไม่หลบ พบได้เสมอ  ถ้าคุณทำอะไรไม่เป็นหรือไม่ได้ ก็ตามพี่ Intern ที่อยู่เวรด้วย
ยึดหลัก รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย
-ถ้าคุณสามารถมีความสุขในใจได้ มีรอยยิ้มในใจได้ และมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน คุณไม่ต้องกลัวเลย แล้วมันก็ผ่านไปเอง คุณน่าจะผ่าน ศัลยกรรมกระดูก ประมาณ 2-3 สัปดาห์ แล้วก็ผ่านไป ลุ้นกันไปทีละวัน  เพื่อนเราที่เรียนชั้นมัธยมด้วยกัน เขาบอกว่า เขาจบมาเป็นหมอ เขาไม่เคยทำคลอดเลย เอาแต่ช่วยอาจารย์ทำคลอดเท่านั้น เขายังนึกไม่ออกเลยว่า เด็กตัวเบ้อเร่อ คลอดออกมาทางช่องคลอดได้อย่างไร สงสัยพองลม แต่เขาบอกว่า เขาไม่ซีเรียสอะไร เพราะเขาไม่ได้เป็นหมอสูติแน่นอน แต่จะไปเรียน skin เราก็เห็นเขามีความสุขดี ไม่เครียดอะไร
-ตอนผ่านศัลยกรรมกระดูก เขาบอกว่า เขาไม่เคยทำการเข้าเฝือกเลย เพราะมีแพทย์ประจำบ้าน และแพทย์พี่เลี้ยงทำตลอด เขาเอาแต่เชียร์ว่าพี่เก่งจังเลย ชีวิตเขาก็ผ่านไปอย่างลั้นลา
-ความสำเร็จหมุนรอบความสุข  ไม่ใช่ความสุขหมุนรอบความสำเร็จ ถ้าเข้าใจความหมายข้อนี้ คุณจะผ่านดินแดนแห่งนี้ไปได้
ความคิดเห็นที่ 24
จากรุ่นพี่แพทย์นะครับ เคยเป็นเหมือนน้องครับ เข้าใจนะว่าอยู่รพ.ศูนย์ ความรู้สึกคือ ทำไมต้องความเป็นความตายของคน มาอยู่ในมือของหมอฝึกหัดอย่างเราด้วย มีแพทย์รุ่นพี่อยู่ด้วยก็จริง แต่พี่เขาก็ยุ่งมากๆจนบางทีพี่เขาก็ปลีกตัวมาไม่ได้ ตอนนั้นพี่ก็ทำหัตถการฉุกเฉินก็ไม่เก่ง พี่ขอให้แนะนำเป็นข้อๆดังนี้ครับ

1.พี่สังเกตุน้องไม่ชอบเฉพาะอยู่เวร แต่ปีก่อนหน้านั้น กลับเรียนมาได้อย่างไม่มีปัญหา งั้นแสดงว่าปัญหาคือเวร overnight แล้วแต่ยังต้องทำงานรุ่งขึ้น แต่ที่อ่านมาพี่ไม่แน่ใจว่าน้อง ไม่ชอบเวรกลางคืน หรือ กลัวการทำหัตถการ emer ที่เราไม่ถนัดกันแน่

ถ้าแค่ไม่ชอบอยู่เวรกลางคืน ทางออกของน้องคือ เรียนให้จบแล้วเลือกเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางที่ไม่มีเวรหรือมี emergency น้อย

แต่ถ้ากลัว ทำหัตถการ emer ไม่ได้ พี่แนะนำให้ฝึกบ่อยๆ อ่านนส.และพัฒนาตัวเรา บางคนก็ไม่เก่งแต่เกิด แต่พัฒนาไปเดี๋ยวก็เป็น

2. ทางออกของน้องในการเอาตัวรอดที่พี่แนะนำคือ หาเพื่อนคอย support หรือรุ่นพี่สนิทที่ consult ได้

3.มีปัญหา แนะนำปรึกษา อ.ครับ พี่หรือคนในนี้ก็ไม่รู้หรอก performance ของน้องจริงๆเป็นยังไง อ.เขาผ่านประสบการณ์นี้มาก่อน เขาให้คำแนะนำให้ดีกว่าพี่เยอะครับ

ถ้าน้องมีปัญหาอะไรพิมมาถามส่วนตัวให้ครับ ยินดีตอบคำถามให้กับน้องๆแพทย์ครับ
ความคิดเห็นที่ 12
แพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) อีกแค่ปีเดียว เก็บวุฒิปริญญาไปแล้ว เวลาไปเรียนต่ออย่างอื่นต่อให้เป็นปริญญาตรีใบใหม่ บางทีมันโอนพื้นฐานได้โดยที่ไม่ต้องเรียนปีหนึ่ง หรือต่อให้ไม่อยากเป็นหมอ ใบปริญญาสามารถประกอบอาชีพได้หลายอาชีพอย่างคาดไม่ถึงพื้นฐานใบปริญญาสามารถไปต่อได้เยอะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่