☯️☯️/มาลาริน/ไทยติดเชื้อโควิดใหม่ 6 ราย เป็นนศ.มาจาก'ซาอุ-อินเดีย' หมอธีระเตือนไม่มีที่ไหนปลอดไวรัส  คนไทยการ์ดยังไม่ตก

ศบค.แถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เป็นนศ.มาจาก'ซาอุ-อินเดีย'
วันพฤหัสบดี ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.30 น.



วันที่ 17 มิถุนายน 2563 พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์รายวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อ รายใหม่ 6 ราย มาจากต่างประเทศ อยู่ใน State Quarantine รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,141 ราย  ผู้ป่วยยืนยันอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้สะสม 204  ราย ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 1 ราย ยอดผู้ป่วยรักษาหายแล้วสะสม 2,997 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 86 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย

โดย 6 รายที่ติดเชื้อรายละเอียดมีดังนี้ 
 
ซาอุดิอาระเบีย 5 ราย

ทุกรายเป็นเพศชาย อาชีพนักศึกษา อายุ 23 24 27 ปี และ 26 ปี 2ราย เดินทางจากเมืองเจดดาห์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เข้าพักโรงแรมใน กรุงเทพมหานคร ตรวจหาเชื้อในวันที่ 16 มิถุนายน ผลพบเชื้อทุกราย ไม่มีอาการ ขณะนี้อยู่ในระบบการรักษา

อินเดีย 1 ราย
 
รายที่ 6 เพศหญิง อายุ 26 ปี เดินทางมาเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 เริ่มป่วยวันที่ 16 มิถุนายน  มีไข้ 38.5 c และตรวจหาเชื้อ พบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่ จังหวัดชลบุรี

https://www.naewna.com/local/499982

"หมอธีระ" โพสต์ "วันนี้เลขคู่" มาจากตะวันออกกลาง-อินเดีย



"หมอธีระ" โพสต์ "วันนี้เลขคู่" มาจากตะวันออกกลาง-อินเดีย เตือน ไม่มีที่ไหนในโลกปลอดไวรัส ไม่ว่าจะวางแผนดีแค่ไหนความเสี่ยงมาแน่
 
17 มิ.ย.63 "รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” ระบุว่า 
วันนี้เลขคู่...
มาจากตะวันออกกลาง และอินเดีย
ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ มีหนึ่งคนที่มีอาการ ขอให้หายไวไวนะครับ
วันนี้กับพรุ่งนี้ จะมีเที่ยวบินนำคนไทยกลับจากต่างประเทศรวม 7 ประเทศ เกือบ 1,000 คน
 
ขอให้ปลอดภัยทุกคน
ตอนนี้เหลียวซ้ายแลขวา ท่าทางโมเดลการดำรงชีพของประชาชนถัดจากนี้ไป คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นเหมือนภาวะฝุ่น PM2.5
เพราะเหมือนกระแสเรียกร้องให้เปิดรับนักท่องเที่ยวจะยั้งลำบาก ไม่มีที่ใดในโลกที่จะปลอดภัยจากไวรัส 100% ดังนั้นไม่ว่าจะวางแผนดีอย่างไร ความเสี่ยงก็จะมาแน่ ไม่มากก็น้อย
ถ้ารักสุขภาพของตนเอง ก็ต้องป้องกัน
ต่างกันเพียงว่า PM2.5 นั้นทำร้ายโดยตรงกับตัวเรา แต่ COVID-19 นั้น...เป็นโรคที่หากเราติดเชื้อ ก็มีโอกาสแพร่ให้คนในครอบครัวและคนอื่นๆ ได้
โควิด...ติด...ไม่ใช่แค่คุณ
 
ใส่หน้ากากเสมอ...ล้างมือบ่อยๆ...อยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1 เมตร
พูดน้อยลง...พบปะคนน้อยลงสั้นลง
เลี่ยงที่แออัดอโคจร...หมั่นสังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัว
เอาใจช่วยทุกคนครับ...

https://www.komchadluek.net/news/regional/434254?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=section_สถานะการโคโรน่า

โพลล์เผยคนไทย'การ์ดยังไม่ตก'!ใส่แมสเกิน90% ‘ซูเปอร์มาร์เก็ต’มาตรการลดเสี่ยงโควิดดีสุด
วันพฤหัสบดี ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 12.43 น.



https://www.naewna.com/local/500000

ถึงแม้ว่าไทยจะไม่ติดเชื้อในประเทศ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อจากภายนอกที่เข้ามานะคะ

คุณหมอธีระ เตือนว่า เราต้องรับมือให้ดี ถ้าเราเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาตามความต้องการในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจก็จะมีความเสี่ยง

จากการสำรวจคนไทยยังการ์ดไม่ตกค่ะ  นี่คือภูมิคุ้มกันอย่างดี



คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 18 มิ.ย. 2563
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ​ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 18 มิถุนายน 2563




รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19  ณ วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2563

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,141 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 6 ราย)
   -ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 24
   -และมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 6 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,997 ราย (95.42%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 1 ราย)

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State quarantine ดังนี้
- มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 5 ราย อยู่ใน State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
- มาจากประเทศอินเดีย 1 ราย อยู่ใน State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดชลบุรี

สถานการณ์อาเซียนในวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อของ อินโดนีเซีย มากกว่า สิงคโปร์ แล้ว

ทั้งนี้ วช. ได้ปรับรูปแบบการรายงาน โดยจะรายงานรวมทั้งในส่วนประเทศไทย อาเซียน และต่างประะเทศ ในรอบรายงานเดียวกัน และยกเลิกการรายงานในรอบเย็น

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2863468110445409


ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกัน 24 วันแล้ว
ความร่วมมือ คนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก
ขอบคุณที่ ไม่ประมาท การ์ดไม่ตก
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/154599322825067


อภ.เผย ชุด PPE รุ่น “เราสู้” ซักใช้ซ้ำ ได้ 20 ครั้ง ตัดเย็บ พร้อมกระจายส่งให้โรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว

ชุด PPE แบบเสื้อคลุมแขนยาวกันน้ำชนิดซักใช้ซ้ำได้ (Reusable Isolation Gown) รุ่น “เราสู้” ที่ได้ตัดเย็บเป็นชุด และผ่านการตรวจมาตรฐานจากศูนย์วิเคราะห์ทดสอบ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเรียบร้อย และดำเนินการตรวจรับแล้ว จำนวน 46,898 ชุด และได้เริ่มทยอยจัดสรรและจัดส่งให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว จำนวน 41,950 ชุด ส่วนที่เหลือศูนย์ปฏิบัติการกระจายเวชภัณฑ์ในภาวะโควิด-19 จะดำเนินการจัดสรร กระจายให้โรงพยาบาลต่างๆต่อไป โดยชุด PPE รุ่น “เราสู้” นี้ สามารถซักและใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง ทำให้คาดว่าจะสามารถนำมาใช้ทดแทน ชุด PPE ชนิดที่ใช้ครั้งเดียวได้มากกว่า 937,960 ชุด / ครั้ง

ทั้งนี้ชุดได้ผ่านการทดสอบคุณสมบัติของเนื้อผ้าและตะเข็บหลังซัก 20 ครั้ง โดยสามารถป้องกันการซึมผ่านของน้ำที่มีแรงดันได้ (Hydrostatic pressure) มากกว่าหรือเท่ากับ 20 cmH2O ตามมาตรฐาน AATCC 127 ป้องกันการซึมผ่านของน้ำที่แรงดันกระแทก (Water impacting penetration) น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 กรัม ตามมาตรฐาน AATCC42

สำหรับกระบวนการซักชุด PPE แบบซักใช้ซ้ำได้นี้มีข้อแนะนำให้ซักด้วยอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส พร้อมใส่ผงซักฟอก และ Sodium hypochlorite 0.1% เพื่อฆ่าเชื้อโรค นาน 15 นาที แล้วอบแห้งด้วยอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส นาน 60 นาที และห้ามใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็ดขาดเพราะจะทำให้สารเคลือบกันน้ำมีประสิทธิภาพกันน้ำลดลง และหลีกเลี่ยงการซักในสภาพที่รุนแรงและอุณหภูมิที่สูงกว่า 60 องศาเซลเซียส

องค์การเภสัชกรรม ได้ตระหนักและแสวงหาความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสถานะการณ์ COVID-19 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ให้มีใช้อย่างเพียงพอ ด้วยการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมมาทดแทน ลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการขาดแคลน ทั้งในระยะเร่งด่วนและในระยะยาว เพื่อประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ในทุกสถานการณ์

ที่มา : องค์การเภสัชกรรม
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/154272886191044


ต่างชาติ ใช้มาตรการอะไร❓ป้องกันการระบาดระลอกใหม่
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/154285502856449


จ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 เดือน ไม่ต้องลงทะเบียน!

#ไทยคู่ฟ้า มาแล้วครับ…รายละเอียดเพิ่มเติมของมาตรการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) ตามที่ ครม. ได้มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และกลุ่มคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ รวมทั้งสิ้น 6,781,881 ราย

ประชาชนทั้ง 3 กลุ่มจะต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิจากมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะจัดสรรเงินเยียวยาตามฐานข้อมูลที่มีอยู่ เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องลงทะเบียนใหม่เพื่อขอรับสิทธิช่วยเหลือเยียวยาตามมาตรการนี้

การจ่ายเงินจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ
• รอบที่ 1 ดำเนินการจ่ายเงินภายในเดือน มิ.ย. 63 จำนวน 2,000 บาท (รวมของเดือน พ.ค. - มิ.ย. 63)
• รอบที่ 2 ดำเนินการจ่ายเงินภายในเดือน ก.ค. 63 จำนวน 1,000 บาท
ผ่านช่องทางเช่นเดียวกับการจ่ายเงินอุดหนุนรายเดือน ทั้งการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือแจกจ่ายเป็นเงินสดให้กับกลุ่มเป้าหมายผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชม.
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/939356716530135


หนุนภาคประชาสังคม...ร่วมเฝ้าระวังการใช้จ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

#ไทยคู่ฟ้า เพื่อให้เกิดความสบายใจกันทุกฝ่ายในเรื่องการใช้จ่ายงบตาม พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น รัฐบาลเห็นชอบให้มีกลไกเฝ้าระวังการใช้จ่ายงบประมาณตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 โดยมุ่งให้ภาคทั้งรัฐ สังคม เอกชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังการใช้จ่ายงบประมาณครอบคลุม 4 ด้านสำคัญ คือ  

1. เปิดช่องทางรับแจ้งเบาะแสจากประชาชน เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบรับเรื่องร้องเรียนของทุกหน่วยงานทางแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง หรือทางเว็บไซต์ระบบข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ เช่น ภาษีไปไหน https://govspending.data.go.th

2. การป้องกันและลดโอกาสการทุจริต หน่วยงานผู้รับผิดชอบทำการประเมิน และจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงการทุจริต ก่อนการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการ

3. การตรวจสอบ ให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)  เป็นหน่วยตรวจสอบการดำเนินโครงการหากมีเหตุสงสัย หรือเรื่องร้องเรียน
  
4. การดำเนินมาตรการทางปกครองวินัยและอาญา หน่วยงานต้นสังกัดมีอำนาจในการดำเนินการทางปกครอง วินัย และอาญากับผู้ที่กระทำความผิดตามมาตราป้องกัน และปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการอย่างรวดเร็ว และเป็นธรรม  

ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการตรวจสอบหน่วยงานที่เบิกจ่ายงบประมาณ อย่างเข้มงวดและจริงจังสอดคล้องกับแถลงการณ์องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD) ที่ให้ประเทศสมาชิกระมัดระวังการจ่ายงบประมาณ
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/938817439917396
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่