หนักใจคนเดียว
เรื่องมันมีอยู่ว่า. วันนั้น.วันเกิดเหตุ. ประมาณเดือน กุมภา. 63. วันนั้นเป็น วันพระ. อยู่ดีๆมีพี่คนหนึ่งเคยทำงานที่เดียวกันไม่ได้เจอกันมานาน มากแล้ว. แกบอกว่าโดนผีหลอก. ขอมานอนด้วยหน่อย. แกก็เล่า เหตุการณ์ให้ฟัง ผมดูๆแล้วคงกลัว จริงๆ. เลยตอบโอเค ไป.ผมก็คิดว่ามาแค่ วัน สองวัน เห้อ ช่วง แรกๆผมก็ต้องฝืนใจรับ เพราะมีจิตอยากช่วยเหลือคนอยู่แล้ว เขาก็อยู่มาอาทิตย์แล้วนิ ผมเลยตัดใจให้เขาอยู่ต่อ.หลักจากอยู่ต่อมาผมก็ช่วยมาตลอด เห็นเขาไม่มีโทรสัพ ผมก็เอาโทรสัพเก่าผมให้ไป. มอไซ ผมไม่ค่อยขี่ผมก็ให้เขาเอาไปใช้ไปทำงาน ต่อมาเวลากินข้าว ผมก็เป็นคนออกตัง พี่เขาเป็นคนไปชื้อข้าว. รายได้ผม จากที่เคยเก็บก็กลายเป็น ต้องเลี้ยงคนอื่นเพิ่ม ค่าน้ำค่าไฟเพิ่ม. ผมก็คิดว่าทำบุญ ไม่คิดอะไรมาก. ต่อมาเริ่ม หนักขึ้น ผมจะชอบวางตังใว้บนโต๊ะคอม แกกะชอบเอาไป แรกๆแกจะขอทุกวัน วันละ 10 ถึง 20 บาท เอาไปกินที่ทำงาน. พอเวลาผ่านไป. แกก็เริ่มไม่ขอ แล้วยิบไปเลยไม่บอก. บางครั้งเอาไป หลักร้อย มาบอกทีหลัง. แกยืมตังผมนัดวันไม่เคยจ่าย ถึงตอนนี้ยังไม่คืน. จากนั้น 1. เดือนผ่านไป. ห้องผมก็เริ่มมีกลิ่นแรงมาก. สกปรกมากห้องน้ำหลังบ้าน. คือแกไม่อาบน้ำ. ไม่ชักผ้า มันกลิ่นแรงมากจนผมไม่ไหว. พอผมไปเตือน. แกทำหน้าไม่พอใจ.ผมเลยไม่บอกอีก. ผมก็ทนมาจนตอนนี้จะเข้าเดือนที่ 4. แล้ว. สิ่งที่ทำให้ผมได้มาโพสต์. คือตังในห้องพระผมหาย. เป็นตังที่ผมรวมเอาใว้ทำบุญหายไป ครั้งแรกผมเจอผมนอนไม่หลับเลย. เจ็บใจ. พอมาคิดว่าคงเป็นกรรมของเรา. เลยไม่คิดอะไร. พอครั้งที่ 2. ผมก็ทุกข์หนักเข้าไปอีก.ผมอยากทราบว่า. ถ้าผมไล่เขาออกไป. ผมจะบาปไหม. เพราะผมเห็นเขาฟังธรรม. ทุกวัน. มันทำให้ผมใจอ่อนกลัวบาปกรรม ที่ไล่เขาไปทำให้เขาเป็นทุกข์
ขอรบกวนแนะนำผมหน่อยครับผมจะต้องทำยังไง
หนักใจ. มีคนรู้จัก อยู่ดีๆก็มาอยู่ด้วย. มา ขโมย ของ อีก. ทำไงดี เป็นทุกข์มาก