ผมอยากมาเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ความรักของผมเพื่อเป็นบทเรียนให้กับทุกคนที่กำลังมีความรักและอยากให้รักษาเอาไว้
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ผมเจอเค้าที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่งในเมืองนครราชสีมา. เพียงครั้งแรกที่ผมเห็นเค้าใจของผมมันบอกว่าผมจะต้องรู้จักกับเธอคนนี้ให้ได้ ผมเริ่มไปซื้อของร้านนี้บ่อยขึ้นวันละหลายๆรอบเพื่อที่จะได้ทำความรู้จัก เวลาผ่านไปผมได้ Facebook ของเธอมาและเราพูดคุยกัน ผมซื้อของไปฝากเธอเป็นครั้งคราว เธอชอบกินKitkat โกโก้ ชาเขียว ผมทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อให้เธอประทับใจ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปผมกับเธอได้ตกลงไปเจอกัน ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เบียร์ที่เรากินเป็นเบียร์ช้าง 3 ขวด เราคุยกันทุกอย่างความรู้สึกของผมตอนนั้นผมบอกได้เลยว่าไม่เคยมีผญคนใหนเป็นแบบนี้เลยเธอ เป็นได้ทั้งเพื่อน และทุกๆอย่างเป็นการคุยกันครั้งแรกที่ไม่มีใครใส่หน้ากากเข้าหากัน กินกันไปจนเธอเมาเธอเมามากๆ ผมขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เราตื่นขึ้นมาก็คุยกันถึงเมื่อคืนปกติของคำว่า คุยกันแรกๆ เวลาผ่านไป เราใช้ชีวิตเหมือนคู่วัยรุ่นหนุ่มสาวที่คบกันปกติ จนเวลาผ่านมาได้ประมาณหนึ่งผมได้ขอเธอเป็นแฟน ที่ตลาดนัดแห่งหนึ่ง ชั้น 2 โต๊ะแรกทางขวามือของบรรไดทางขึ้น หลังจากนั้นเธอก็มีปัญหาที่ขา เอ็นตรงข้อเท้าของเธออักเสบ เธอต้องใช้ไม้ค้ำเพื่อใช้ชีวิตไปทุกๆวันในช่วงนั้น จนเวลาผ่านไป ประมาณ 6 เดือน พวกเราไม่มีเงินที่แม้จะออกไปเจอกันได้ ผมเลยตัดสินใจพาเธอไปบ้านหลังหนึ่งเป็นของย่าผม ที่ไม่มีคนอยู่บ้านหลังนี้ จะมีของต่างๆมากมายๆเป็นเหมือนโกดังเก็บของที่เอาของมาวางๆทิ้งไว้เก็บไว้ วันนั้นผมกับเค้ามีเงินติดตัวอยู่ 40฿ เราพากันออกไปซื้อข้าวกล่อง กล่องละ20 เพื่อมาประทังชีวิตกันในวันนั้น จนเวลาผ่านไปประมาณ 3 วัน เธอก็ไปเรียนที่มหาลัยปกติแต่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านที่เรามาอยู่ด้วยกัน
ผมที่ตอนนั้นไม่มีเงินติดตัวขอใครไม่ได้เลยและผมจะต้องรับผิดชอบแฟนของผมไม่ให้อดตายและมีเงินไปมหาลัยทุกวัน ผมจึงเริ่มขายของภายในบ้านเพื่อประทังชีวิตเราทั้งสองคน จากตอนแรกยกไปขายเศษเหล็กที่โรงขยะได้เงินมานิดหน่อย พวกเราสองคนก็ค่อยๆช่วยกันปรับเปลี่ยนวิธีหาเงินจนเราใช้เงินใช้ของภายในบ้านมาเปิดเป็นร้านร้านหนึ่งเราช่วยกันสร้างช่วยกันเก็บบ้านจัดบ้านให้เป็นระเบียบและน่าอยู่ขึ้น ย้ายของที่ไม่ได้ใช้เราทำกันเพียงแค่สองคน ทุกๆเช้าเธอจะปลุกผมลุกขึ้นให้ผมเปิดร้านทำงาน หรือบางวันผมไม่ได้เปิดเธอก็จะอยู่กับผม ในชีวิตของผมครอบครัวมีปัญหา ผมเป็นคนหนึ่งที่ขาดความอบอุ่นแต่ผมไม่เคยแสดงออกให้ครอบครัวผมรับรู้ มีเพียงเธอคนนี้ที่ช่วยเติมเต็มทุกอย่างให้กับผม เธอเป็นทั้งแม่ผม เพื่อนของผม น้องสาวที่น่ารัก และแฟนที่น่ารักของผม เธอจะเป็นคนที่ระเบียบเรียบร้อยสะอาดจู้จี้จุกจิก ตามประสาของผญ พอเวลาผ่านไปเราเริ่มมีการทะเลาะกัน การทะเลาะกันเริ่มจากเรื่องเล็กๆและเป็นปัญหาที่ใหญ่ จนเรามีปากเสียงกัน ผมเป็นคนที่เวลาผมโมโหผมจะพูดจาดุร้ายและไม่แคร์ใคร เธอคนนั้นทนผมมาตลอด เธอไม่เคยคิดที่จะหนีผมหรือหายไปเธอสู้เธอบอกผมแค่คำเดียวว่าเธอรักผม ในตอนนั้นเองมันทำให้ผมได้รู้ว่าเธอคนนี้จะไม่ได้มาอยู่ด้วยกันในสถานะแฟน เธอคือคนที่ผมจะต้องแต่งงานด้วย เธอเป็นคนที่จะเตือนผมตลอดอันนี้ไม่ดีอันนั้นไม่ดีแม้แต่ตอนที่เราเจอปัญหาเธอจะอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจผมเสมอ จนเวลาผ่านไป 1 ปีกว่าๆเราคบกันจนวันนึง เราทะเลาะกันแรงมากผมถึงขั้นลงไม้ลงมือกับเธอผมทำเธอหนักมาก จนทุกอย่างจบลงผมรู้สึกเสียใจและละอายใจ ที่ผมทำแบบนั้นแบะผมก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก
ความรักของเธอที่มีต่อผมมันเหมือนคนคนนึงที่ถวายให้ทุกอย่างยอมทุกอย่าง และผมก็รักเธอมากขึ้นมากจนผมลืมคิดไปว่าวันวันนีงผมจะเสียเธอหปไปเพราะผมมั่นใจมากจนเกินไปว่าเธอจะอยู่กับผมและเราจะไม่เลิกกัน
จนกระทั่งเราคบกันประมาณ 1 ปี 4 เดือน ผมทำเธอท้อง เราตรงจะอายุครรภ์ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ผมและเธอตัดสินใจทำแทงค์ เพราะเราทั้งคู่ไม่พร้อมและไม่อยากให้เป็นภาระใคร หลังจากที่ทำเธอก็มีอาการเป็นโรคซึมเศร้า ในระยะแรกอาการเธอไม่ค่อยรุนแรงมาก แต่เพราะผมเครียดกับงานและทุกอย่างบางครั้งผมจึงทะเลาะกับเธอบ่อยๆเราเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นบ่อยขึ้น จนเรามาปรับเปลี่ยนมาพูดคุยกัน แต่การทะเลาะกันบ้างครั้งทำให้เธอคิดที่จะฆ่าตัวตายทำร้ายตัวเอง ผมทำให้ผญคนหนึ่งที่น่ารักสดใสมีแต่รอยยิ้มกลับเป็นคนที่มีความเครียด เราพยายามประคับประคองชีวิตคู่ของเราและพยายามดูแลกันจนเข้าปีที่ 2 เดือน 3 เราย้ายจากบ้านหลังนั้นมาอยู่ที่บ้านของอาผม เพราะบ้านหลังนั้นทำร้านใหม่และบิ้วใหม่ทุกอย่าง เราใช้ชีวิตกันปกติต่างคนต่างทำงานและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขทะเลาะกันบ้างเล็กน้อยแต่เรารักกันทุกครั้งที่หายโมโห จนมาวันนึงเหตุการณ์เดิมย้อนกลับมา เธอท้องอีกครั้งผมคนที่ไม่เอาใหนคิดถึงแต่ตัวผมเองผมทำแท้งอีกครั้ง ในอายุครรภ์ปนะมาก2 สัปดาห์ ผมตัดสินใจแบบไม่คิดอะไรผมกลัวแต่เพียงว่าคนอื่นจะต้องรับผิดชอบและผมยังไม่พร้อมแต่ผมลืมนึกถึงจิตใจของเค้าไป และเธอก็ทำจนทุกอย่างจบสิ้นขั้นตอน เรากลับมาใช้ชีวิตปกติหลังจากผ่านช่วงนั้นมาอีกครั้ง จนเวลาผ่านไป เป็นวันที่ผมเสียใจที่สุดในชีวิตที่ผมเกิดมาจะเสียใจได้ วันนั้นเราทะเลาะกันเรื่องเธอค้นโทรศัพท์ของผม ผมก็ให้เธอดูปกติแต่เธอดูแล้วผมรู้สึกอึดอัดผมจึงบอกว่า "นี่คือพื้นที่ส่วนตัวของพี่ อย่ายุ่งได้มั้ยพี่ไม่เคยไปยุ่งของหนูเลย". หลังจากนั้นผมก็คว้าโทรศัพท์ผมมาและนิสัยเดิมที่ผมเคยเป็นเมื่อ2ปีที่แล้นก็กลับมา ผมด่าเธอเรามีปากเสียงกันผมต่อว่าเธอจนเธอเสียใจมากๆเธอเดินลงไปข้างล่าง เพื่อจะแยกกันอยู่แต่ด้วยความโมโหของผมผมตามลงไปด่าไปว่าเธอต่อจนวันนั้นทำให้เธอพูดกับผมว่า เธอหมดแล้วเธอไม่เหลืออะไรแล้วเธอไม่อยากอยู่กับผมแล้ว ผมเดินขึ้นมาได้สักพักแล้วผมก็เดินลงไปอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธออยู่ในห้องน้ำอาการของเธอคือเบลอปวดหัว ผมคิดว่าเธอคิดมากเลยปวดหัวผมจึงพาเธอขึ้นมานอนบนห้องและพยายามถามว่ากินอะไรไป เธอบอกว่ากินยานอนหลับไป 3 เม็ดและหลังจากนั้นอาการก็เริ่ม ออกเธอทรมานไม่ได้สติพูดไม่รู้เรื่องน้ำลายไหล ผมทำอะไรไม่ถูกผมพาเธอขึ้นมอเตอร์ไซค์แต่ผมคิดว่าจังไงก็ไม่ทันเพราะเธอไม่รู้สึกตัว ผมจึงตัดสินใจอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำและเอาน้ำฉีดเธอให้รู้สึกตัว ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกผมเห็นแฟนผมกำลังจะหมดสติผมทำได้แค่เรียกและร้องให้ จนอาผมและน้องผมกลับมา ผมจึงให้พวกเค้าโทรเรียกรถพยาบาล ผมอุ้มเธอออกไปนั่งโซฟาข้างนอกและพยายามเรียกเธอ ตอนนั้นเธอไม่รู้สึกตัวแล้วเธอนิ่งน้ำลายฟูมปาก จนรถพยาบาลมา พวกเค้าพาเธอขึ้นไปบนรถพอขึ้นไปเธอตื่นขึ้นและพูดเหมือนหวาดกลัวพูดไม่รู้เรื่องผมทำได้แค่เรียกชื่อเธอและมองดูเธอด้วยความสงสารและเสียใจพอไปถึงโรงพยาบาล หมอพาเธอไปที่ห้องฉุกเฉินเสียงร้องของเธอดังทั่วห้องจนทำให้ผมที่นั่งอยู่ข้างหน้าห้องร้องให้ออกมาจะเป็นจะตายด้วยความสงสาร หมอให้ผมกลับไปหายาที่เธอกินแต่ผมเจอเพียงถุงยาโรคซึมเศร้าของเธอผมกลับเอาไปให้หมอ ในขณะนั้นเองแฟนผมที่นอนอยู่บนเตียงถูกทัดแขนมัดขาเพราะดิ้น ผมเดินปรี่เข้าไปโอบหัวเค้าขึ้นแล้วกอดเค้า แต่เค้าจำผมไม่ได้ อาการของเค้าคือพูดไม่รู้เรื่องพูดเร็วหวาดกลัวและเบลอ ผมทำได้แค่กอดลูบหัวแล้วร้องให้อยู่ตรงนั้นจนหมอต้องพาผมออกไป เวลาผ่านไป 6 ชั่วโมงจนเป็นเวลา ตี5.45 หมอพาเธอออกจากห้องมาและเธอนอนนิ่งๆพอไปถึงห้องพักเธอมองผมและยังเป็นแบบเดิมเธอขอให้แก้มัดและพูดจาไม่รู้เรื่อง ใจผมสลาย ตอนนั้นใจของผมไม่เหลืออะไรผมคิดได้เพียงแค่ว่าถ้าเธอตายไปผมจะต้องตายไปกับเธอเพราะผมจะหม่ให้เธอไปเผชิญชะตากรรมคนเดียว ผมคนที่ไม่เคยเชื่อในพระเจ้าหรือศาสนาผมคุกเข่าอ้อนวอนทุกศาลในโรงพยาบาล จนรุ่งเช้าผมมาหาเธอแต่เช้าตามเวลาเข้าเยี่ยม ผมเห็นเธออยู่ในสภาพที่เบลอยาพูดไม่รู้เรื่อง จนเวลาผ่านไป 2 วันเธอดีขึ้นเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม หมอให้เธอออกจากโรงพยาบาลและครอบครัวของเธอพากลับไปอยู่ที่บ้าน ผมก็ทำให้เธอเสียใจอีกครั้งด้วยการที่ผมพูดกับแม่ของเธอว่าผมไม่มีเงินที่จะไปหมั้นแต่ในอนาคตผมจะทำแน่นอน คำพูดนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าผมไม่พยายาม ผมเริ่มพูดคุยกับเธอที่มีแต่เรื่องเครียดจนเธอเครียดอีกครั้ง ทุกครั้งที่ผมคุยกับเธอเราจะทะเลาะกัน ผมจะเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลยและเข้าใจยาก จนมาวันนี้วันที่ผมเขียน เธอตัดสินใจเลิกกับผม โอกาศของผมหมดแล้วผมไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ใขอะไรได้ ตอนนี้ผมทำได้เพียงแค่นั่งอยู่ในสถานที่เดิมๆเป็นสถานที่ที่ไม่มีเธอแล้ว ผมแค่อยากจะฝากคำพูดของผมไว้ในโพสนี้
" แม่ครับผมขอโทษที่ผมทำให้ขีวิตคนดีๆคนหนึ่งต้องมาเสียเพราะคนแบบผม ผมรู้ว่าผมไม่มีโอกาศที่จะแก้ใขแล้วแต่ผมเสียใจและสำนึกผิดต่อสิ่งที่ผมได้กระทำไว้ ผมรักลูกสาวแม่มากๆครับ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าขีวิตของผมคือลูกสาวของแม่ ผมตื่นไปทำงานทุกเช้าได้เพราะผมมองหน้าเค้าและผมมีความคิดว่าผมจะต้องสู้เพื่ออนาคตของผมและเค้า ผมขอโทษที่มารู้สึกตัวในตอนนี้และผมเสียใจ ผมเพียงแค่หวังว่าสักวันผมจะได้กลับไปแก้ใขทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม "
บทเรียนของคนที่กำลังมีความรักแต่ไม่สนใจใส่ใจคนรักไปสนใจอย่างอื่นให้เวลาก้บสิ่งอื่นจนมากเกินไปจนบืมว่าคนที่อยู่ข้างๆเรารู้สึกยังไง วันนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ ผมขอสารภาพกับทุกคนและผมยอมรับผิดและชะตากรรมที่ผมได้ก่อไว้
และจนมาถึงวันนี้วันที่ 17 : เวลา 10.45 ผมขับรถไปที่บ้านของเธออีกครั้ง หลังจากผมเสียเธอไปประมาณ 2 วันมันทำให้ผมรู้เลยว่า ชีวิตผม ไม่ได้ต้องการเงินทอง ไม่ได้ต้องการเหล้าเบียร์ ไม่ได้ต้องการอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ผมสนุกโดยที่ไม่มีเธอ ชีวิตของผมต้องการเพียงแค่ตื่นเช้ามาเจอหน้าเค้านอนหลับอยู่ผมลุกขึ้นไปทำงานโดยที่มีจุดหมายว่าผมจะสร้างครอบครัวที่ดีเพื่อเธอ จากที่ผมเป็นคนนึกถึงแต่ตัวเองวันนี้ ผมทิ้งทุกอย่างที่เป็นตัวผมทิ้ง ศักศรี ทิ้ง อีโก้ และ ชั้นเชิง ทุกๆอย่างที่ผมเป็นออกไปจากชีวิต ผมไปขอโอกาศเธออีกครั้ง ให้ผมได้แก้ใขรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ให้ผมได้เป็นคนที่แก้ใขมันและยืนหยัดสู้ไปกับมัน ถ้าผมตัดสินเลิกตามที่เธอขอมันเหมือนผมปล่อยให้เธอไปสู้กับเรื่องร้ายๆที่ผมทำไว้คนเดียว ผมจึงตัดสินใจเข้าไปที่บ้านไปขอขมา ตา ยาย ของเธอ แต่ผมไม่สามารถคุยกับแม่เธอได้ ในเวลานั้นแม่ของเธอไปทำงาน สิ่งที่ผมได้ยินจากปากเค้าคือ เค้าบอกให้ผมพอเค้าไม่อยากให้ผมคบกับลูกสาวเค้าแล้ว ผมเข้าใจในอารมณ์คนเป็นแม่ ผมทำให้ลูกสาวเค้าเป็นแบบนี้ วันที่ 20 นี้เป็นวันตัดสิน ว่าทางบ้านของผมและทางบ้านของเค้าจะยอมให้ผมคบกับเธอมั้ย ผมแค่หวังว่าผมอยากได้ดูแลเธออีกสักครั้งได้แก้ใขสิ่งที่ผมทำได้รับผิดชอบได้ยืนอยู่ข้างหน้าเธอเวลาปัญหาถาโถมเข้ามาผมอยากจะเป็นคนแรกที่โดนปัญหาไม่ใช่เธอ
ผมขอจบการเล่าไว้เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณพื้นที่ดีๆครับ
ปล.ผมต้องขอโทษหากผมเขียนไม่เข้าใจครับ
ผมทำให้คนดีๆคนนึงเปลี่ยนไป และผมกำลังจะเสียเธอไป
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ผมเจอเค้าที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่งในเมืองนครราชสีมา. เพียงครั้งแรกที่ผมเห็นเค้าใจของผมมันบอกว่าผมจะต้องรู้จักกับเธอคนนี้ให้ได้ ผมเริ่มไปซื้อของร้านนี้บ่อยขึ้นวันละหลายๆรอบเพื่อที่จะได้ทำความรู้จัก เวลาผ่านไปผมได้ Facebook ของเธอมาและเราพูดคุยกัน ผมซื้อของไปฝากเธอเป็นครั้งคราว เธอชอบกินKitkat โกโก้ ชาเขียว ผมทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อให้เธอประทับใจ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปผมกับเธอได้ตกลงไปเจอกัน ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เบียร์ที่เรากินเป็นเบียร์ช้าง 3 ขวด เราคุยกันทุกอย่างความรู้สึกของผมตอนนั้นผมบอกได้เลยว่าไม่เคยมีผญคนใหนเป็นแบบนี้เลยเธอ เป็นได้ทั้งเพื่อน และทุกๆอย่างเป็นการคุยกันครั้งแรกที่ไม่มีใครใส่หน้ากากเข้าหากัน กินกันไปจนเธอเมาเธอเมามากๆ ผมขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เราตื่นขึ้นมาก็คุยกันถึงเมื่อคืนปกติของคำว่า คุยกันแรกๆ เวลาผ่านไป เราใช้ชีวิตเหมือนคู่วัยรุ่นหนุ่มสาวที่คบกันปกติ จนเวลาผ่านมาได้ประมาณหนึ่งผมได้ขอเธอเป็นแฟน ที่ตลาดนัดแห่งหนึ่ง ชั้น 2 โต๊ะแรกทางขวามือของบรรไดทางขึ้น หลังจากนั้นเธอก็มีปัญหาที่ขา เอ็นตรงข้อเท้าของเธออักเสบ เธอต้องใช้ไม้ค้ำเพื่อใช้ชีวิตไปทุกๆวันในช่วงนั้น จนเวลาผ่านไป ประมาณ 6 เดือน พวกเราไม่มีเงินที่แม้จะออกไปเจอกันได้ ผมเลยตัดสินใจพาเธอไปบ้านหลังหนึ่งเป็นของย่าผม ที่ไม่มีคนอยู่บ้านหลังนี้ จะมีของต่างๆมากมายๆเป็นเหมือนโกดังเก็บของที่เอาของมาวางๆทิ้งไว้เก็บไว้ วันนั้นผมกับเค้ามีเงินติดตัวอยู่ 40฿ เราพากันออกไปซื้อข้าวกล่อง กล่องละ20 เพื่อมาประทังชีวิตกันในวันนั้น จนเวลาผ่านไปประมาณ 3 วัน เธอก็ไปเรียนที่มหาลัยปกติแต่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านที่เรามาอยู่ด้วยกัน
ผมที่ตอนนั้นไม่มีเงินติดตัวขอใครไม่ได้เลยและผมจะต้องรับผิดชอบแฟนของผมไม่ให้อดตายและมีเงินไปมหาลัยทุกวัน ผมจึงเริ่มขายของภายในบ้านเพื่อประทังชีวิตเราทั้งสองคน จากตอนแรกยกไปขายเศษเหล็กที่โรงขยะได้เงินมานิดหน่อย พวกเราสองคนก็ค่อยๆช่วยกันปรับเปลี่ยนวิธีหาเงินจนเราใช้เงินใช้ของภายในบ้านมาเปิดเป็นร้านร้านหนึ่งเราช่วยกันสร้างช่วยกันเก็บบ้านจัดบ้านให้เป็นระเบียบและน่าอยู่ขึ้น ย้ายของที่ไม่ได้ใช้เราทำกันเพียงแค่สองคน ทุกๆเช้าเธอจะปลุกผมลุกขึ้นให้ผมเปิดร้านทำงาน หรือบางวันผมไม่ได้เปิดเธอก็จะอยู่กับผม ในชีวิตของผมครอบครัวมีปัญหา ผมเป็นคนหนึ่งที่ขาดความอบอุ่นแต่ผมไม่เคยแสดงออกให้ครอบครัวผมรับรู้ มีเพียงเธอคนนี้ที่ช่วยเติมเต็มทุกอย่างให้กับผม เธอเป็นทั้งแม่ผม เพื่อนของผม น้องสาวที่น่ารัก และแฟนที่น่ารักของผม เธอจะเป็นคนที่ระเบียบเรียบร้อยสะอาดจู้จี้จุกจิก ตามประสาของผญ พอเวลาผ่านไปเราเริ่มมีการทะเลาะกัน การทะเลาะกันเริ่มจากเรื่องเล็กๆและเป็นปัญหาที่ใหญ่ จนเรามีปากเสียงกัน ผมเป็นคนที่เวลาผมโมโหผมจะพูดจาดุร้ายและไม่แคร์ใคร เธอคนนั้นทนผมมาตลอด เธอไม่เคยคิดที่จะหนีผมหรือหายไปเธอสู้เธอบอกผมแค่คำเดียวว่าเธอรักผม ในตอนนั้นเองมันทำให้ผมได้รู้ว่าเธอคนนี้จะไม่ได้มาอยู่ด้วยกันในสถานะแฟน เธอคือคนที่ผมจะต้องแต่งงานด้วย เธอเป็นคนที่จะเตือนผมตลอดอันนี้ไม่ดีอันนั้นไม่ดีแม้แต่ตอนที่เราเจอปัญหาเธอจะอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจผมเสมอ จนเวลาผ่านไป 1 ปีกว่าๆเราคบกันจนวันนึง เราทะเลาะกันแรงมากผมถึงขั้นลงไม้ลงมือกับเธอผมทำเธอหนักมาก จนทุกอย่างจบลงผมรู้สึกเสียใจและละอายใจ ที่ผมทำแบบนั้นแบะผมก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก
ความรักของเธอที่มีต่อผมมันเหมือนคนคนนึงที่ถวายให้ทุกอย่างยอมทุกอย่าง และผมก็รักเธอมากขึ้นมากจนผมลืมคิดไปว่าวันวันนีงผมจะเสียเธอหปไปเพราะผมมั่นใจมากจนเกินไปว่าเธอจะอยู่กับผมและเราจะไม่เลิกกัน
จนกระทั่งเราคบกันประมาณ 1 ปี 4 เดือน ผมทำเธอท้อง เราตรงจะอายุครรภ์ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ผมและเธอตัดสินใจทำแทงค์ เพราะเราทั้งคู่ไม่พร้อมและไม่อยากให้เป็นภาระใคร หลังจากที่ทำเธอก็มีอาการเป็นโรคซึมเศร้า ในระยะแรกอาการเธอไม่ค่อยรุนแรงมาก แต่เพราะผมเครียดกับงานและทุกอย่างบางครั้งผมจึงทะเลาะกับเธอบ่อยๆเราเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นบ่อยขึ้น จนเรามาปรับเปลี่ยนมาพูดคุยกัน แต่การทะเลาะกันบ้างครั้งทำให้เธอคิดที่จะฆ่าตัวตายทำร้ายตัวเอง ผมทำให้ผญคนหนึ่งที่น่ารักสดใสมีแต่รอยยิ้มกลับเป็นคนที่มีความเครียด เราพยายามประคับประคองชีวิตคู่ของเราและพยายามดูแลกันจนเข้าปีที่ 2 เดือน 3 เราย้ายจากบ้านหลังนั้นมาอยู่ที่บ้านของอาผม เพราะบ้านหลังนั้นทำร้านใหม่และบิ้วใหม่ทุกอย่าง เราใช้ชีวิตกันปกติต่างคนต่างทำงานและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขทะเลาะกันบ้างเล็กน้อยแต่เรารักกันทุกครั้งที่หายโมโห จนมาวันนึงเหตุการณ์เดิมย้อนกลับมา เธอท้องอีกครั้งผมคนที่ไม่เอาใหนคิดถึงแต่ตัวผมเองผมทำแท้งอีกครั้ง ในอายุครรภ์ปนะมาก2 สัปดาห์ ผมตัดสินใจแบบไม่คิดอะไรผมกลัวแต่เพียงว่าคนอื่นจะต้องรับผิดชอบและผมยังไม่พร้อมแต่ผมลืมนึกถึงจิตใจของเค้าไป และเธอก็ทำจนทุกอย่างจบสิ้นขั้นตอน เรากลับมาใช้ชีวิตปกติหลังจากผ่านช่วงนั้นมาอีกครั้ง จนเวลาผ่านไป เป็นวันที่ผมเสียใจที่สุดในชีวิตที่ผมเกิดมาจะเสียใจได้ วันนั้นเราทะเลาะกันเรื่องเธอค้นโทรศัพท์ของผม ผมก็ให้เธอดูปกติแต่เธอดูแล้วผมรู้สึกอึดอัดผมจึงบอกว่า "นี่คือพื้นที่ส่วนตัวของพี่ อย่ายุ่งได้มั้ยพี่ไม่เคยไปยุ่งของหนูเลย". หลังจากนั้นผมก็คว้าโทรศัพท์ผมมาและนิสัยเดิมที่ผมเคยเป็นเมื่อ2ปีที่แล้นก็กลับมา ผมด่าเธอเรามีปากเสียงกันผมต่อว่าเธอจนเธอเสียใจมากๆเธอเดินลงไปข้างล่าง เพื่อจะแยกกันอยู่แต่ด้วยความโมโหของผมผมตามลงไปด่าไปว่าเธอต่อจนวันนั้นทำให้เธอพูดกับผมว่า เธอหมดแล้วเธอไม่เหลืออะไรแล้วเธอไม่อยากอยู่กับผมแล้ว ผมเดินขึ้นมาได้สักพักแล้วผมก็เดินลงไปอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธออยู่ในห้องน้ำอาการของเธอคือเบลอปวดหัว ผมคิดว่าเธอคิดมากเลยปวดหัวผมจึงพาเธอขึ้นมานอนบนห้องและพยายามถามว่ากินอะไรไป เธอบอกว่ากินยานอนหลับไป 3 เม็ดและหลังจากนั้นอาการก็เริ่ม ออกเธอทรมานไม่ได้สติพูดไม่รู้เรื่องน้ำลายไหล ผมทำอะไรไม่ถูกผมพาเธอขึ้นมอเตอร์ไซค์แต่ผมคิดว่าจังไงก็ไม่ทันเพราะเธอไม่รู้สึกตัว ผมจึงตัดสินใจอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำและเอาน้ำฉีดเธอให้รู้สึกตัว ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูกผมเห็นแฟนผมกำลังจะหมดสติผมทำได้แค่เรียกและร้องให้ จนอาผมและน้องผมกลับมา ผมจึงให้พวกเค้าโทรเรียกรถพยาบาล ผมอุ้มเธอออกไปนั่งโซฟาข้างนอกและพยายามเรียกเธอ ตอนนั้นเธอไม่รู้สึกตัวแล้วเธอนิ่งน้ำลายฟูมปาก จนรถพยาบาลมา พวกเค้าพาเธอขึ้นไปบนรถพอขึ้นไปเธอตื่นขึ้นและพูดเหมือนหวาดกลัวพูดไม่รู้เรื่องผมทำได้แค่เรียกชื่อเธอและมองดูเธอด้วยความสงสารและเสียใจพอไปถึงโรงพยาบาล หมอพาเธอไปที่ห้องฉุกเฉินเสียงร้องของเธอดังทั่วห้องจนทำให้ผมที่นั่งอยู่ข้างหน้าห้องร้องให้ออกมาจะเป็นจะตายด้วยความสงสาร หมอให้ผมกลับไปหายาที่เธอกินแต่ผมเจอเพียงถุงยาโรคซึมเศร้าของเธอผมกลับเอาไปให้หมอ ในขณะนั้นเองแฟนผมที่นอนอยู่บนเตียงถูกทัดแขนมัดขาเพราะดิ้น ผมเดินปรี่เข้าไปโอบหัวเค้าขึ้นแล้วกอดเค้า แต่เค้าจำผมไม่ได้ อาการของเค้าคือพูดไม่รู้เรื่องพูดเร็วหวาดกลัวและเบลอ ผมทำได้แค่กอดลูบหัวแล้วร้องให้อยู่ตรงนั้นจนหมอต้องพาผมออกไป เวลาผ่านไป 6 ชั่วโมงจนเป็นเวลา ตี5.45 หมอพาเธอออกจากห้องมาและเธอนอนนิ่งๆพอไปถึงห้องพักเธอมองผมและยังเป็นแบบเดิมเธอขอให้แก้มัดและพูดจาไม่รู้เรื่อง ใจผมสลาย ตอนนั้นใจของผมไม่เหลืออะไรผมคิดได้เพียงแค่ว่าถ้าเธอตายไปผมจะต้องตายไปกับเธอเพราะผมจะหม่ให้เธอไปเผชิญชะตากรรมคนเดียว ผมคนที่ไม่เคยเชื่อในพระเจ้าหรือศาสนาผมคุกเข่าอ้อนวอนทุกศาลในโรงพยาบาล จนรุ่งเช้าผมมาหาเธอแต่เช้าตามเวลาเข้าเยี่ยม ผมเห็นเธออยู่ในสภาพที่เบลอยาพูดไม่รู้เรื่อง จนเวลาผ่านไป 2 วันเธอดีขึ้นเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม หมอให้เธอออกจากโรงพยาบาลและครอบครัวของเธอพากลับไปอยู่ที่บ้าน ผมก็ทำให้เธอเสียใจอีกครั้งด้วยการที่ผมพูดกับแม่ของเธอว่าผมไม่มีเงินที่จะไปหมั้นแต่ในอนาคตผมจะทำแน่นอน คำพูดนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าผมไม่พยายาม ผมเริ่มพูดคุยกับเธอที่มีแต่เรื่องเครียดจนเธอเครียดอีกครั้ง ทุกครั้งที่ผมคุยกับเธอเราจะทะเลาะกัน ผมจะเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลยและเข้าใจยาก จนมาวันนี้วันที่ผมเขียน เธอตัดสินใจเลิกกับผม โอกาศของผมหมดแล้วผมไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ใขอะไรได้ ตอนนี้ผมทำได้เพียงแค่นั่งอยู่ในสถานที่เดิมๆเป็นสถานที่ที่ไม่มีเธอแล้ว ผมแค่อยากจะฝากคำพูดของผมไว้ในโพสนี้
" แม่ครับผมขอโทษที่ผมทำให้ขีวิตคนดีๆคนหนึ่งต้องมาเสียเพราะคนแบบผม ผมรู้ว่าผมไม่มีโอกาศที่จะแก้ใขแล้วแต่ผมเสียใจและสำนึกผิดต่อสิ่งที่ผมได้กระทำไว้ ผมรักลูกสาวแม่มากๆครับ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าขีวิตของผมคือลูกสาวของแม่ ผมตื่นไปทำงานทุกเช้าได้เพราะผมมองหน้าเค้าและผมมีความคิดว่าผมจะต้องสู้เพื่ออนาคตของผมและเค้า ผมขอโทษที่มารู้สึกตัวในตอนนี้และผมเสียใจ ผมเพียงแค่หวังว่าสักวันผมจะได้กลับไปแก้ใขทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม "
บทเรียนของคนที่กำลังมีความรักแต่ไม่สนใจใส่ใจคนรักไปสนใจอย่างอื่นให้เวลาก้บสิ่งอื่นจนมากเกินไปจนบืมว่าคนที่อยู่ข้างๆเรารู้สึกยังไง วันนี้ผมขอจบเพียงเท่านี้ ผมขอสารภาพกับทุกคนและผมยอมรับผิดและชะตากรรมที่ผมได้ก่อไว้
และจนมาถึงวันนี้วันที่ 17 : เวลา 10.45 ผมขับรถไปที่บ้านของเธออีกครั้ง หลังจากผมเสียเธอไปประมาณ 2 วันมันทำให้ผมรู้เลยว่า ชีวิตผม ไม่ได้ต้องการเงินทอง ไม่ได้ต้องการเหล้าเบียร์ ไม่ได้ต้องการอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้ผมสนุกโดยที่ไม่มีเธอ ชีวิตของผมต้องการเพียงแค่ตื่นเช้ามาเจอหน้าเค้านอนหลับอยู่ผมลุกขึ้นไปทำงานโดยที่มีจุดหมายว่าผมจะสร้างครอบครัวที่ดีเพื่อเธอ จากที่ผมเป็นคนนึกถึงแต่ตัวเองวันนี้ ผมทิ้งทุกอย่างที่เป็นตัวผมทิ้ง ศักศรี ทิ้ง อีโก้ และ ชั้นเชิง ทุกๆอย่างที่ผมเป็นออกไปจากชีวิต ผมไปขอโอกาศเธออีกครั้ง ให้ผมได้แก้ใขรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ให้ผมได้เป็นคนที่แก้ใขมันและยืนหยัดสู้ไปกับมัน ถ้าผมตัดสินเลิกตามที่เธอขอมันเหมือนผมปล่อยให้เธอไปสู้กับเรื่องร้ายๆที่ผมทำไว้คนเดียว ผมจึงตัดสินใจเข้าไปที่บ้านไปขอขมา ตา ยาย ของเธอ แต่ผมไม่สามารถคุยกับแม่เธอได้ ในเวลานั้นแม่ของเธอไปทำงาน สิ่งที่ผมได้ยินจากปากเค้าคือ เค้าบอกให้ผมพอเค้าไม่อยากให้ผมคบกับลูกสาวเค้าแล้ว ผมเข้าใจในอารมณ์คนเป็นแม่ ผมทำให้ลูกสาวเค้าเป็นแบบนี้ วันที่ 20 นี้เป็นวันตัดสิน ว่าทางบ้านของผมและทางบ้านของเค้าจะยอมให้ผมคบกับเธอมั้ย ผมแค่หวังว่าผมอยากได้ดูแลเธออีกสักครั้งได้แก้ใขสิ่งที่ผมทำได้รับผิดชอบได้ยืนอยู่ข้างหน้าเธอเวลาปัญหาถาโถมเข้ามาผมอยากจะเป็นคนแรกที่โดนปัญหาไม่ใช่เธอ
ผมขอจบการเล่าไว้เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณพื้นที่ดีๆครับ
ปล.ผมต้องขอโทษหากผมเขียนไม่เข้าใจครับ