เธอคือใคร??

เรื่องนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริง(Base on true story) แต่ได้รับการแต่งเติม เพื่ออรรถรสในการอ่าน ขอให้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ 😊😊

ตอนที่#1 เรื่องเล่าจากแม่

คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั้ยคะ เรามีเรื่องจะมาเล่า

เราเกิดมาพร้อมกับ สัมผัสพิเศษอย่างหนึ่ง คือ มักจะได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง หรือเสียงเตือนบางอย่าง มันจะดังก้องๆอยู่ในหัว บางครั้งคล้ายเสียงกระซิบ ใกล้ๆหู แต่บางครั้งก็เป็นเสียงตะโกน เสียงนั้น เป็นเสียงผู้หญิงค่ะ จะได้ยินเฉพาะก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ สำคัญๆ เท่านั้น ไม่ได้ยินพร่ำเพรื่อนะคะ ( เดี๋ยวจะว่าเป็น bipolar 555)
เมื่อเล็กๆจะคิดมาตลอดว่าคือเสียงแม่ แต่พอหันกลับไปดูรอบๆตัว ก็ไม่เห็นใคร ก็แปลกใจหลายครั้ง แต่เพื่อความสบายใจ ก็คิดว่าแม่ พอมีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายเรื่อง จนโต และได้กลับไปถามแม่ ทำให้รู้เรื่องราวอีกหลายๆอย่าง จึงนำมาปะติดปะต่อ จนทราบว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ตอนแม่ตั้งท้องเรา แม่ฝันว่ามีผู้หญิง สวยมาก ผิวพรรณผุดผ่อง (ออร่ากระจาย )ถือดอกบัวสีทองมาให้แม่
ในฝันนั้น เธอพูดกับแม่ บอกแม่ว่า เธอชื่อ ......แต่แม่จำไม่ได้ 5555
หลังจากคลอดเรา แม่ได้พาเรา(เบบี๋) ไปให้หลวงพ่อท่านหนึ่งที่ครอบครัวเราเคารพ เพื่อให้ท่านตั้งชื่อ แม่บอกว่าจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี ท่านมองนานมาก ตรวจดูดวงชะตา แล้วท่านก็บอกว่า เด็กคนนี้ สัญญายังไม่ขาด ให้ดูแลให้ดีและให้ห่างจาก น้ำ ซึ่งแม่ไม่ค่อยเข้าใจ
ท่านเหมือนรู้ว่าแม่ไม่สบายใจ บอกแค่ว่า เราก็อย่าไปทำพิธีอะไรให้มันมากมาย ให้ทำบุญเยอะๆ แล้วท่านก็ตั้งชื่อให้ พร้อมแปลให้ว่า ผู้มีผิวพรรณ ผุดผ่องเหมือนดอกบัว ....แม่ถึงกับขนลุกซู่ เมื่อได้ยินความหมายของชื่อนั้น ใจก็นึกถึงผู้หญิงสาวสวยที่ฝันครั้งแรกตอนตั้งท้องเรา ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้

วันเวลาผ่านไป แม่คงลืมๆและคลายความวิตกกังวลไป ในที่สุด จนเราอายุได้ 7 ขวบ เราและครอบครัวได้มีโอกาสไปเที่ยวทะเลที่บางแสน จำวันนั้นได้ดี และยังจำได้จนถึงปัจจุบัน วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียง เธอ ผู้นั้น
ด้วยความเป็นเด็กเห็น ทะเลครั้งแรก ก็วิ่งสิคะ รออะไร ขณะที่กำลังวิ่งลงไป ได้ยินเสียงเรียกชื่อ เล่น ของตัวเอง แล้วบอกว่า หยุด!!..... (ไม่ใช่ส้มหยุดนะ555)...อย่าลงไป!!

เราก็เบรค ดังเอี๊ยด หันกลับไปดู คิดว่าต้องเป็นแม่ แน่ๆ แต่ภาพที่เห็น คือ แม่เดินตามหลังมา พร้อมกับ พ่อ คุยกันกระหนุงกระหนิง ไม่ได้มีทีท่าว่า เรียกเรา แม้แต่น้อย ... ก็ออกจะ งงๆๆ แต่ เด็ก อ่ะนะ ไปต่อ รอ อะไรล่ะคะ

กระโดดตูมลงไป พร้อมห่วงยาง แต่หารู้ไม่ว่า ร่างอันผอมแห้ง ของตัวเอง หลุดลงไปตรงกลางห่วงยาง แล้วจมลงไปใจหายวาบ เพราะ เท้าไม่แตะพื้น วินาทีที่อยู่ใต้หวงยางอันใหญ่ และหนักนั้น คว้าอะไรสะเปะสะปะไปหมด หายใจไม่ออก คิดแน่ๆ ว่าจะตายแล้ว ทันใดนั้น ก็มีมือคู่หนึ่ง ฉุดเราขึ้นมา พ่อนั้นเอง ทุกคนตกใจมาก เพราะคิดว่าเราอยู่ในห่วงยาง แต่ผลุบหายไปได้อย่างไง ถือว่าเป็นวินาที เฉียดตาย จริงๆ .... และก็เป็นอย่างที่คิดค่ะ แม่ไม่ให้เราลงเล่นอีกเลยและวันรุ่งขึ้น ก็เดินทางกลับ ทั้งที่เพิ่งมาได้วันเดียว

เมื่อกลับมาบ้าน แม่เหมือนคิดอะไรได้ สั่งห้ามไม่ให้เราไปเล่นแถว แม่น้ำ หรือออกบ้านโดยไม่มีแม่ ข้างๆบ้านตา ติดกับแม่น้ำสายเล็กๆ ใส สะอาด เด็กๆในหมู่บ้าน มักจะไปเล่นกัน และหัดว่ายน้ำ เราอยากเล่นมาก อ้อนวอน ขอแม่เท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล แม่ไม่ยอม
และแม่ก็ไปเชิญ อาจารย์ที่นับถือ มาทำพิธีๆหนึ่ง

ตามความเชื่อของคนภาคเหนือ จะมีความเชื่อว่า เด็กหลายคนจะหนี พ่อ เกิด แม่เกิดมา แล้วถ้าเขาตามเจอ เขาก็จะเอากลับคืนไป จึงจะมีพิธีหนึ่งเรียกว่า ตัดพ่อ เกิด แม่เกิด โดยจะเตรียมของเซ่นใส่ใน หาบที่ทำจากต้นกล้วย และคานเป็นก้านกล้วย หลังทำพิธีเสร็จ จะให้พ่อ เอาหาบไปทิ้ง ที่ลับตา ขั้นตอนสำคัญอยู่ที่การทิ้งหาบ นี่แหละค่ะ หลังจากวางแล้ว ต้องใช้มีดตัดคาน ก้านกล้วยให้ขาดจากกัน แล้วหันหลังกลับ ห้ามมองเด็ดขาด

พอพ่อกลับมาจากการทิ้งหาบ สีหน้าไม่สู้ดี เข้าไปคุยกับแม่เบาๆเราแอบเห็นแม่ร้องไห้ แล้วไม่พูดอะไรอีก
ตอนที่#2 เมื่อเธอกลับมาอีกครั้ง

จนล่วงถึงเราอายุ 12 ปี วันนั้นมีงานศพของญาติสนิทที่อยู่ต่างอำเภอ แม่จึงไปพร้อมกับพ่อ ทิ้งเราเฝ้าบ้านคนเดียวโดยบอกว่าจะกลับตอนดึกๆหน่อย

คืนนั้นมีเหตุการณ์ประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง จำได้ว่าเป็นหน้าหนาว อากาศหนาวเย็นจับใจ แต่พอเราเข้านอน กลับรู้สึกร้อนไปหมด ร้อนจนไปเอาพัดลมมาเปิด คือมันแปลกตรง พอเราออกจากห้อง มันเย็น ยะเยือก แต่พอกลับเข้าห้องนอนกลับร้อนขึ้นมาซะงั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่