เมื่อหมาแก่พันธุ์ใหญ่เป็นโรคไต (ข้อมูลการดูแลสุนัขแบบไม่เสียเงินมาก)

กระทู้สนทนา
*ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไร แต่ได้หาข้อมูลต่างๆมาเพื่อดูแลสุนัขในงบที่มีจำกัด ท่านไดที่เห็นว่าไม่ถูกสามารถทักได้นะครับ และสำหรับท่านที่จะนำข้อมูลไปใช้ ก่อนที่จะนำไปใช้ขอให้หาข้อมูลเพิ่มเติมและคุยกับสัตวแพทย์ที่ดูแลก่อนนะครับ

สาเหตุที่มาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะก่อนหน้านี้คุณหมอบอกว่าสุนัขพันธุ์ St. Bernard ของผมเป็นโรคไตขั้นสอง แล้วยังเป็นช่วงอายุได้ 7 ปี ทำให้คุณหมอได้บอกว่าต้องทำใจไว้หน่อย สุนัขพันธุ์นี้ส่วนใหญ่อยู่ได้ราวๆ 8-10 ปีโดยเฉลี่ย ดังนั้นสุนัขส่วนใหญ่ที่เป็นโรคไตจะอยู่ได้ไม่นานขนาดนั้น ค่าใช้จ่ายในการดูแลก็จะเยอะเพราะเป็นหมาใหญ่ด้วย ไอ้ผมก็เลยต้องหาข้อมูลเอาเองว่าต้องเลี้ยงยังไงโดยที่จะไม่ต้องพึ่งอาหารพิเศษของสุนัขป่วย แต่ข้อมูลในบ้านเรามันน้อยด้วยก็เลยต้องเอามาจากต่างประเทศซะเยอะ ในใจก็แอบบนบานไว้หน่อยๆว่าถ้าเลี้ยงเขาได้ถึงอายุ 10 จะเอาข้อมูลที่ได้มาลงกระทู้ เจ้าของสุนัขที่ยังไม่มีข้อมูลจะได้เอาไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง

ข้อมูลโรคไตที่ควรรู้
สำหรับหลายๆท่านที่พบว่าน้องที่บ้านเป็นโรคไต ขออย่าพึ่งเครียดไปนะครับ ผมเห็นบางคนถึงกับจะพาน้องไปการุณยฆาตเลยทีเดียว ยิ่งถ้าไม่ใช่ขั้น 3 ขึ้นไป น้องเขาสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากครับ ถ้าดูแลเรื่องอาหาร สุนัขผมต้องทานเนื้อวันละหนึ่งกิโล ค่าใช้จ่ายตกวันล่ะแค่ 80-90 บาทเท่านั้น ส่วนเรื่องน้ำเกลือสำหรับโรคไต ในกรณีของผมให้แค่เดือนล่ะ 1 ครั้งก็คุมค่าไตอยู่ครับ แต่ตอนแรกๆที่เริ่มเป็นแล้วค่าไตสูง ก็ต้องให้ทุกวันตามหมอสั่งก่อนนะ

เวลาเป็นโรคไต สิ่งที่ต้องระวังไว้คืออาหารที่มีค่าของเสียสูงๆ เกลือหรือโซเดียม โปรตีนในปริมานที่มากไป แล้วก็ฟอสฟอรัส ถ้าคุมพวกนี้อยู่ โอกาสที่ค่าไตขึ้นสูงก็ต่ำมากครับ ถ้าค่าไตขึ้นมาก็ให้น้ำเกลือเอาได้ครับ  แล้วก็พยายามให้วิตามินเลือดพวก FBC ทุกวัน หรืออย่างน้อยก็วันเว้นวันเพราะเวลาเป็นไต เขาจะผลิตเลือดได้ไม่ดีเท่าไหร่ ผมเห็นบางท่านจะให้สมุนไพรรำรุงไตกับน้องหมาด้วย ซึ่งจริงๆแล้วพวกนี้ควรถามคุณหมอก่อนนะครับ เพราะการให้ยาบำรุงไตในบางครั้งไม่ได้ช่วยให้สถาพไตดีขึ้นมา มันกลับทำให้ไตทำงานมากขึ้น อาจจะทำให้ยิ่งเสื่อมลงได้ เมื่อไตเสื่อมไปแล้ว กลับมาดีเหมือนเดิมไม่ได้นะครับ แต่คุมไม่ให้ทรุดลงได้ หมาผมเป็นไตอยู่ 3 ปี หมอบอกว่าสถาพแทบไม่ต่างจากตอนที่เริ่มเป็นเลย

สารอาหารที่สุนัขต้องการ
หลักๆเลยก็คือโปรตีนครับ รองมาก็วิตามินกับเกลือแร่ แล้วก็ใยอาหาร ไขมันก็ควรครับถ้าเป็นไขมันที่เป็นประโยชน์ (กรณีโรคไต เลี่ยงน้ำมันมะกอกสักเล็กน้อยเพราะโอเมก้า 6 ไม่ค่อยดีกับไตนัก แต่โอเมก้า3 จะมีประโยชน์กับอาการโรคไต) ส่วนคารโบไฮเดทนี่ไม่ค่อยจำเป็นนัก ยิ่งถ้าไม่มีเวลาแปลงฟันให้เขาก็ควรเลี่ยงหน่อยครับ ฟันผุมาก็ลำบากอีก แต่ให้บ้างก็ได้นะครับตามความจำเป็น ไม่ใช่ไม่ให้เลย

อาหารสำหรับสุนัข

*ถ้าเห็นพวกผลไม้หรือผักที่ดูแพง ไม่ต้องตกใจนะครับ ที่แม็คโครมีอย่างแช่แข็งที่ราคาไม่แพง แซลม่อนบดเองก็กิโลล่ะ 70-80 บาทเท่านั้น 

โปรตีน
เมื่อเป็นไตแล้วก็ควรกินแต่โปรตีนคุณภาพดี หลักๆแล้วก็พวกอกไก่ ไข่ขาว ปลาน้ำจืด ถั่วเหลือก็ได้แต่ต้องดูว่าเขาแพ้มั้ย เวลาให้ก็ให้เท่าที่ร่างกายเขาต้องการ ถามคุณหมอเลยครับว่าน้ำหนักเท่านี้ต้องการโปรตีนเท่าไหร่ เสริมเกินนิดหน่อยได้อยู่ แต่ต้องปรึกษาหมอก่อนนะครับ แล้วก็ต้องคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเขาให้ดี ถ้าน้ำหนักลดลงต้องต้องเสริมหน่อย ไม่ใช่จะควบคุมอย่างเดียว เพราะทั้งนี้อาการไตจะส่งผลให้น้ำหนักเขาหายไปได้ครับ

ผักผลไม้
เท่าที่ผมเห็นว่าดีก็คือพวก berry ครับ หลักๆผมจะให้ Blackberry เพราะดีกับตาเขาด้วย สตอเบอรรี่ก็ดีครับ แต่มันมีน้ำตาล อาจจะทำให้ฟันผุ แต่ผมจะไม่ค่อยให้ทุกวันเพราะถ้าให้ใยอาหารเยอะๆอาจจะท้องเสียได้ ต้องสังเกตเอาเองครับโดยดูจากลักษณะอุจาระ ถ้าแข็งไปก็เพิ่ม เริ่มแหลวก็งด อีกอย่างที่ผมให้ก็คือพวกแครอทกับฟักทองที่สุกจนนิ่มแล้ว

พวกผักใบเขียว ถั่ว หรือพืชเขียวๆทั้งหลายควรเลี่ยงครับเพราะค่าฟอสฟอรัสสูง แต่หมอบางท่านจะบอกว่ากินได้ถ้าให้กินร่วมกับ Aluminum Hydroxide (มีอยู่ในยากระเพาะ หาได้ตามร้านยาทั่วไป) แต่ผมมองว่ากลุ่มผลไม้ได้วิตามินกับเกลือแร่เยอะกว่าเลยให้กลุ่มนั้นไปเลย

ที่ต้องระวังก็คือพวกเมล็ดผลไม้บางชนิดครับ อย่างพวกเนื้อองุ่นกับพีชนี้กินได้ แต่จะมีพิษในเมล็ด (บางที่จะบอกว่าเนื้อองุ่นเองก็ควรเลี่ยงเหมือนกัน) ส่วนพวกเมล็ดพืชอย่าง งา หรือ เมล็ดทานตะวัน ถึงจะไม่มีพิษแต่สุนัขก็ย่อยไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ครับ นอกจากนั้นก็พวกเห็ดเพราะมันมีหลายชนิดไป ไม่ค่อยมีงานศึกษาว่าเห็ดชนิดไหนบ้างที่หมากินได้หรือไม่ได้จึงควรเลี่ยงไว้ ที่เหลือก็พวกพืชที่รู้ๆกันอยู่อย่างกระเทียม หอมทั้งหลาย

เครื่องเทศ
 ขมิ้น ขิง โอริกาโน่ ควรใส่ลงไปบางๆในอาหารเขาด้วยครับ ไม่ใช่แค่เพราะปรับสมดุลร่างกาย และช่วยเรื่องกระเพาะ แต่ช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งซึ่งมีโอการค่อนข้างสูงในสุนัขหลายๆพันธุ์

สูตรอาหารที่ผมใช้ (ขอให้เอาไปเป็นแนวทางคร่าวๆนะครับ เพราะหมาแต่ละพันธุ์ไม่เหมือนกัน น้ำหนักก็ต่างกัน ไม่ต้องตามผมซะทีเดียว)
โดยปกติผมจะทำอาหารไว้ทีละ 2-3 วันครับจะได้ไม่เหนื่อยไป เมื่อหมดแล้วก็จะเปลี่ยนอาหาร เช่นถ้าผมทำอกไก่ต้ม ผมจะให้เขากินสัก 2-3 วันแล้วเปลี่ยนเป็นปลาน้ำจืดอย่างปลานิล (ไม่ควรต้มพร้อมกระดูก ครีบ เครื่องในเพราะค่าของเสียสูง) พอกินไปได้อีก 2-3 วันจะเปลี่ยนเป็นไข่ขาวซึ่งผมจะไม่ให้ไข่ขาวล้วนๆเพราะสารอาหารมันน้อย แต่จะเพิ่มแซลม่อนไปด้วย 1 ใน 3 เพราะมันมีโอเมก้า3เยอะ แต่เป็นปลาทะเล แล้วพวกแซลม่อนส่วนใหญ่มักจะมีสารปนเปื้อนเยอะ ผมเลยไม่ให้เพียวๆล้วนๆ แต่ผสมกับไข่ขาว แล้วอาศัยการผลัดเปลี่ยนอาหาร

เวลาให้ผัก/ผลไม้ ผมจะให้วันเว้นวัน แล้วก็เปลี่ยนเป็น Blackberry บ้าง พีชบ้าง สตอเบอรี่บ้าง แครอทบ้าง ฟักทองบ้าง

ทุกๆสามวันผมจะบดแล้วใส่ยากระเพาะที่มี Aluminium Hydroxind ลงไปเพื่อช่วยคุมฟอสฟอรัสไม่ให้สูง

 อาหารเสริมอื่นๆ
ผมจะให้เปลือกไข่ลงไปด้วยครับเพื่อเสริมแคลเซียม โดยจะเอาไปต้มแล้วอบให้แห้งแต่ไม่ไหม้ บดเป็นผงแล้วโรยอาหาร ใยบางๆไม่ต้องเอาออกนะครับเพราะมีพวกคอลลาเจนนิดๆ เปลือกไข่หนึ่งฟองจะแบ่งใช้สองวันสำหรับหมาพันธุ์ใหญ่นะครับ บางทีก็จะให้แคลเซียมสำหรับคน เพราะมันดีกว่าตรงที่มีวิตามินDด้วย

FBC ยาบำรุงเลือดตัวนี้มีวิตามิน b กับ c ด้วย ผมเลยให้เพื่อเสริมสารอาหารให้เขาครับ ยาบำรุงเลือดสำหรับสุนัขโรคไตเป็นอะไรที่จำเป็น ควรให้ประจำ มีพักบ้างตามเห็นควร

อาหารเสริมบำรุงข้อ
หนึ่งในโรคที่หมาใหญ่เป็นก็คือข้อและกระดูกครับ ควรให้เขากินตั่งแต่ตอนอายุได้ 5-6 ปี เวลากินต้องกอนต่อเนื่องนานหน่อย อาจจะสักสิบสัปดาห์แล้วพักสักเดือน ควรให้เรื่อยๆครับ เพราะพวกนี้พอเสื่อมแล้วก็ยากที่จะดูแล

น้ำมันปลาแซลม่อน
ให้บ้างก็ดีครับ เสริมโอเมก้า3 มีประโยชน์อีกค่อนข้างเยอะ

การดูแลด้านอื่นๆที่ควรรู้

การทำหมัน

ชัดๆนะครับ... ควรทำมาก โดยเฉพาะตัวเมียที่แก่แล้ว ตัวผู้เองก็ควรด้วย ถ้าคุณแค่คิดว่า “เผื่อไว้ เผื่ออยากได้ลูก” แต่ไม่ได้วางแผนไว้จริงๆจังๆก็ควรทำหมันนะครับ อย่างตัวผู้นี่ หลายๆคนคิดว่าเวลาติดฮีทก็ไม่เป็นไร ปล่อยไว้พอหมดเดี๋ยวก็หาย เอาจริงๆเวลาติดฮีทอยากขึ้นตัวเมีย เขาจะอยู่ไม่สุขและวิ่งไปๆมาๆทั้งวัน บวกกับอากาศร้อนๆในบ้านเรา ด้วยร่างกายของหมาใหญ่ เขาอาจจะซ็อกได้เลยเพราะร่างกายร้อนไปแล้วปรับตัวไม่ทัน ส่วนตัวเมียเองอาจจะเป็นมะเร็งหรือมดลูกอักเสบได้ ซึ้งโอกาสที่จะเกิดก็ไม่น้อยขนาดนั้นด้วย

เมื่อไม่ยอมกินอาหาร

พาหาหมอเลยครับ.... สุนัขอาจเบื่ออาหารบ้าง แต่ถ้าวันไหนไม่กินเลยก็คือน่าจะไม่สบาย โดยเฉพาะการเป็นพยาธิเม็ดเลือดซึ้งเป็นสาเหตุของโรคไตได้ด้วย ถ้าเป็นอยู่แล้วก็อาจจะยิ่งทรุด ดังนั้นถ้าเห็นเขาอาการแปลกๆ คิดถึงหมอไว้ก่อนเป็นอย่างแรก

ถ้าจำเป็นต้องบังคับป้อน สำหรับหมาใหญ่การใช้กระบอกฉีดยาหรือกระบอกให้อาหารอาจจะไม่ใหญ่พอ ที่ใช้ได้อีกอย่างคือถุงบีบครีมทำขนมเค้กครับ อาหารต้องเหลวๆหน่อย ใช้เป็นเนื้อปลาสุกปั่นกับน้ำแล้วค่อยๆบีบเข้าปากเขาเอาก็ได้ครับ ตัดปลายให้เล็กหน่อย จะได้คุมง่ายๆ

ถ้ากินยายาก วิธีที่ผมใช้คือตีไข่แล้วร่อนกับกระทะเป็นแผ่นบางๆเหมือนไข่ห่อผัดไท เสร็จแล้วห่อยาป้อนเขาครับ ไม่งั้ยก็ยัดใส่ไข่ต้มก็ได้เหมือนกัน แต่ไม่ควรทำกับยาที่ทานตอนท้องว่างนะครับ

ถ้าจนหนทาง.... ต้องง้างปากแล้วสอดมือเข้าไป(ตัดเล็บให้สั้นๆก่อนนะ)ดันยาเข้าไปในลำคอให้รู้สึกว่าเขากลืนไปแล้วค่อยเอาออก ถ้ายาหลายเม็ดก็ห่อกับอาหารไว้เป็นคำเดียวก่อนก็ได้ครับ วิธีนี้มันอาจจะทำให้เขาเจ็บได้ ไม่ควรทำบ่อยๆถ้าไม่จำเป็น แล้วเขาอาจจะยิ่งดื้อเวลากิน

ถ้าน้องหมาเป็นมะเร็ง

ผมแนะนำได้แค่สมุนไพรนะครับ.... พอเป็นแล้ว สำหรับหมาที่เป็นไต มันจะมีความเสี่ยงสูงในการรักษา หมอผมก็แนะนำว่าไม่ต้องรักษาแต่ดูแลตามอาการไป อยู่กับเขามากๆ เพราะทุกนาทีกับเขามีค่ามาก สูตรสมุนไพรของผม ก็ไม่แน่ใจมากว่ามีประโยชน์แค่ไหน ไม่กล้ายืนยัน แต่ก็ทำให้ชีวิตอยู่ได้นานกว่าที่หมอประเมินไว้เล็กน้อย

สูตรสมุนไพรที่ผมใช้คืออังกาบหนู เอาไปต้มให้น้ำเดือด ทิ่งไว้สัก 5-10 นาที น้ำไม่เยอะ ให้เขากินน้ำต้ม ใบนี่ใช้มือบีบเป็นก้อนแน่นๆแล้วซ่อนในอาหารให้เขากิน ในหนึ่งวันผมให้อังกาบหนู 20 กรัม ให้บ่อยๆทุกๆ 4-5 ชั่วโมงระงับได้ดีกว่าให้ทีละมากๆหนเดียว แต่ละรักษาได้หรือไม่ก็ขึ้นกับระยะอาการกับชนิดมะเร็ง ของผมช้าไปหน่อยกว่าจะเริ่มได้สูตรยาที่เห็นผล ตอนนั้นช้ามากแล้วครับ

ในเอกสารต่างประเทศ เขาพบว่าอังกาบหนูช่วยในเรื่องมะเร็งได้ครับ แต่ไม่เห็นผลในมะเร็งลำไส้ ถ้าเป็นมะเร็งชนิดนี้ข้อมูลของผมอาจะไม่ช่วยเท่าไหร่นะครับ

ถ้าจะให้ดีต้องทานคู่กับสมุนไพรอื่นด้วย ผมใช้ขมิ้นกับมะระขี้นกแบบสกัดอัดเม็ด เสริมประสิทธิภาพในการรักษา ให้มากกว่าขนาดแนะนำสำหรับคนสองเท่า พอลองสูตรนี้แล้วเหมือนขนาดมะเร็งลดลงทีละน้อย หรืออาจจะเป็นเพราะน้ำหนักลดก็ไม่ทราบ ไม่อาจจะทราบแน่ชัดได้แล้วด้วยครับ น้องเขาอ่อนแอมากจนเดินไม่ได้ เสียไปเพราะมีอาการท้องเสียแทรกเข้ามา อายุได้ 10 ปีตามที่บนบานไว้ เลยเอาข้อมูลมาแบ่งให้ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างครับ

มีอะไรต้องติ หรือผิดพลาดไป ขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ อย่าลืมว่าควรปรึกษาหมอก่อนที่จะทำอะไรไปเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่