ชวนอ่านบทสัมภาษณ์ BNK48 : One Take’ สารคดีไทยเรื่องแรกบน Netflix ของ ‘โดนัท มนัสนันท์’
Cr.
https://judprakai.bangkokbiznews.com/entertainment/2135?fbclid=IwAR1FbCrK5rG7BNDc5qREMg75UuAQVS54PZKmYiTXTwS4mZusotPrEYNtwIA
อีกครั้งกับหนังสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องจริงหลังม่านการแสดงของวงไอดอล BNK48 การต่อสู้เพื่อการมีตัวตน การแข่งขันเพื่อหาที่ยืนบนเวทีที่แสงไฟส่อง ด้วยมุมมองของผู้กำกับสาวที่พิสูจน์ฝีมือแบบเทคเดียว “ผ่าน!”

ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการได้ชื่อว่าเป็น Original Content ของแพลตฟอร์มบันเทิงออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix โดยเฉพาะกับสื่อประเภทสารคดีหรือ Documentary ที่ไม่ได้อยู่ในกระแสหลักของวงการบันเทิงบ้านเรามาแต่ไหนแต่ไร ทว่า ‘โดนัท’ มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ดาราสาวที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ กำลังพิสูจน์ฝีมือด้วยสารคดีไทยเรื่องแรกที่ได้เป็น Original Documentary บนเน็ตฟลิกซ์
BNK48 : One Take เป็นภาพยนตร์สารคดีลำดับที่สองที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับวงไอดอล BNK48 ถัดจาก Girls Don’t Cry ของผู้กำกับ ‘เต๋อ’ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่ฉายไปเมื่อปี 2561 แม้จะเล่าเรื่องของวงเดียวกัน ทว่าไม่เกี่ยวข้องกัน โดยที่โดนัทนิยามว่าใน Girls Don’t Cry เล่าในมุมมองคนที่ชื่นชอบ แฟนคลับ คนที่ให้กำลังใจ แต่ One Take ถูกเล่าในฐานะ 'คนไม่รู้จัก'
One Take, First Take!
จากคนที่ข้อมูลเกี่ยวกับ BNK48 เป็นศูนย์ ต้องได้รับโจทย์ใหญ่คือต้องทำหนังเกี่ยวกับช่วงเวลาอีเว้นท์ใหญ่ประจำปีของวงในเครือ 48 Group คืองานเลือกตั้ง BNK48 6th Single Senbatsu General Election ครั้งแรกเมื่อปี 2562 ทำให้โดนัทต้องหาข้อมูลอย่างหนัก จนพบว่าความยากไม่แพ้ที่เคยทำสารคดีเรื่อง The Journey บันทึกทางไกลถึงพ่อ ซึ่งต้องรวบรวมฟุตเทจที่มีน้อยและหายาก นั่นคือ การมีฟุตเทจมากเกินไป
“พอมาทำสารคดี BNK48 ฟุตเทจหาไม่ยาก แต่ฟุตเทจที่คนไม่เคยเห็น หาไม่ได้”
โดนัทอธิบายว่าด้วยรูปแบบของวงที่ต้องแสดงตัวตนบนพื้นที่สาธารณะตลอดเวลา ภารกิจเสาะหาฟุตเทจที่คนไม่เคยเห็นจึงเริ่มต้นขึ้น ถึงขนาดว่าต้องข้ามฟ้าไปประเทศญี่ปุ่นที่ต้นตำรับในย่าน Akihabara แล้วย้อนกลับมาที่ตัวเมมเบอร์ของวงทั้ง 51 คน ณ ตอนที่ถ่ายทำผ่านมุมมองของผู้หญิงด้วยกัน เปิดใจกัน และอยู่ในพื้นฐานเดียวกันคือทุกคนมีสิทธิ์ตอบครั้งเดียว
“ที่ชื่อว่า One Take เพราะไม่มีใครมีสิทธิ์ตอบเทคที่สอง เชื่อมโยงกับการเป็นสารคดี ไม่มีอะไรปรุงแต่ง มันอาจจะมีมุมที่เราเลือกเล่า แต่เราเว้นที่ว่างไว้ให้คนดู เด็กทุกคนเปิดใจหมดเลย โดนัทมั่นใจว่าในสารคดีเรื่องนี้เราจะไม่เคยเห็นน้องๆ ในมุมแบบนี้ และสำหรับเราก็ได้เห็นเขาในมุมของเด็กผู้หญิง มีวันที่เขาไม่น่ารัก มีวันที่เขาเบื่อ ซึ่งเราพยายามถ่ายโดยให้เขาไม่รู้ว่าเรากำลังทำหนัง เพื่อให้ได้สิ่งที่จริงที่สุด แม้ในวันที่เขาเริ่มรู้ว่าเราต้องเอาไปทำอะไรสักอย่าง เราก็ทำให้เขาลืมไปว่าเราถ่ายอยู่”
บทสัมภาษณ์คุณโดนัท กับ One take (มีสปอยเนื้อเรื่องนิดๆ)
Cr. https://judprakai.bangkokbiznews.com/entertainment/2135?fbclid=IwAR1FbCrK5rG7BNDc5qREMg75UuAQVS54PZKmYiTXTwS4mZusotPrEYNtwIA
อีกครั้งกับหนังสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องจริงหลังม่านการแสดงของวงไอดอล BNK48 การต่อสู้เพื่อการมีตัวตน การแข่งขันเพื่อหาที่ยืนบนเวทีที่แสงไฟส่อง ด้วยมุมมองของผู้กำกับสาวที่พิสูจน์ฝีมือแบบเทคเดียว “ผ่าน!”
ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการได้ชื่อว่าเป็น Original Content ของแพลตฟอร์มบันเทิงออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix โดยเฉพาะกับสื่อประเภทสารคดีหรือ Documentary ที่ไม่ได้อยู่ในกระแสหลักของวงการบันเทิงบ้านเรามาแต่ไหนแต่ไร ทว่า ‘โดนัท’ มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ดาราสาวที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ กำลังพิสูจน์ฝีมือด้วยสารคดีไทยเรื่องแรกที่ได้เป็น Original Documentary บนเน็ตฟลิกซ์
BNK48 : One Take เป็นภาพยนตร์สารคดีลำดับที่สองที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับวงไอดอล BNK48 ถัดจาก Girls Don’t Cry ของผู้กำกับ ‘เต๋อ’ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่ฉายไปเมื่อปี 2561 แม้จะเล่าเรื่องของวงเดียวกัน ทว่าไม่เกี่ยวข้องกัน โดยที่โดนัทนิยามว่าใน Girls Don’t Cry เล่าในมุมมองคนที่ชื่นชอบ แฟนคลับ คนที่ให้กำลังใจ แต่ One Take ถูกเล่าในฐานะ 'คนไม่รู้จัก'
One Take, First Take!
จากคนที่ข้อมูลเกี่ยวกับ BNK48 เป็นศูนย์ ต้องได้รับโจทย์ใหญ่คือต้องทำหนังเกี่ยวกับช่วงเวลาอีเว้นท์ใหญ่ประจำปีของวงในเครือ 48 Group คืองานเลือกตั้ง BNK48 6th Single Senbatsu General Election ครั้งแรกเมื่อปี 2562 ทำให้โดนัทต้องหาข้อมูลอย่างหนัก จนพบว่าความยากไม่แพ้ที่เคยทำสารคดีเรื่อง The Journey บันทึกทางไกลถึงพ่อ ซึ่งต้องรวบรวมฟุตเทจที่มีน้อยและหายาก นั่นคือ การมีฟุตเทจมากเกินไป
“พอมาทำสารคดี BNK48 ฟุตเทจหาไม่ยาก แต่ฟุตเทจที่คนไม่เคยเห็น หาไม่ได้”
โดนัทอธิบายว่าด้วยรูปแบบของวงที่ต้องแสดงตัวตนบนพื้นที่สาธารณะตลอดเวลา ภารกิจเสาะหาฟุตเทจที่คนไม่เคยเห็นจึงเริ่มต้นขึ้น ถึงขนาดว่าต้องข้ามฟ้าไปประเทศญี่ปุ่นที่ต้นตำรับในย่าน Akihabara แล้วย้อนกลับมาที่ตัวเมมเบอร์ของวงทั้ง 51 คน ณ ตอนที่ถ่ายทำผ่านมุมมองของผู้หญิงด้วยกัน เปิดใจกัน และอยู่ในพื้นฐานเดียวกันคือทุกคนมีสิทธิ์ตอบครั้งเดียว
“ที่ชื่อว่า One Take เพราะไม่มีใครมีสิทธิ์ตอบเทคที่สอง เชื่อมโยงกับการเป็นสารคดี ไม่มีอะไรปรุงแต่ง มันอาจจะมีมุมที่เราเลือกเล่า แต่เราเว้นที่ว่างไว้ให้คนดู เด็กทุกคนเปิดใจหมดเลย โดนัทมั่นใจว่าในสารคดีเรื่องนี้เราจะไม่เคยเห็นน้องๆ ในมุมแบบนี้ และสำหรับเราก็ได้เห็นเขาในมุมของเด็กผู้หญิง มีวันที่เขาไม่น่ารัก มีวันที่เขาเบื่อ ซึ่งเราพยายามถ่ายโดยให้เขาไม่รู้ว่าเรากำลังทำหนัง เพื่อให้ได้สิ่งที่จริงที่สุด แม้ในวันที่เขาเริ่มรู้ว่าเราต้องเอาไปทำอะไรสักอย่าง เราก็ทำให้เขาลืมไปว่าเราถ่ายอยู่”