ความรักของอิสลามยากไหมครับ.

สวัสดีครับเพื่อนก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนผมชื่อนิวครับ อายุ24ปี ทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งนึง ได้ประมาณจะ2ปีแล้วครับ ด้วยความที่ว่าผมทำงานกับที่นี้มาสักพักก็มีความสุขดีทุกอย่างทุกคนเป็นกันเองมากๆเหมือนครอบครัวๆนึง ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ผมได้ทำการรู้จักกับผู้หญิงคนนึงที่ทำกันเดียวกัน ผมได้รู้จักกับเค้าในฐานะรุ่นพี่ที่ทำเกี่ยวกับด้าน IT network ด้วยความที่ว่า ก็เริ่มคุยกันได้สักพักนึง รุ่นพี่คนนี้เค้าเป็น ศาสนา(อิสลาม) ก็แลกเปลี่ยนความคิดกันซึ่งตัวผมเองนั้นไม่ได้นับถืออะไร เราก็คุยมาสักพักนึงรุ่นพี่เราคนนี้เป็นคนอัจฐยาศัยดี เป็นที่พูดถึงของทุกคน เพราะออฟฟิศเราเป็นเหมือนครอบครัวมีเรื่องอะไรต่างๆก็เปิดใจคุยกันตรงๆได้แบบไม่อาย ผมก็ได้ทำงานผ่านไปประมาณ 3เดือน ได้รู้จักกับรุ่นพี่คนนี้และก็สนิทกันชวนกันออกไปหาอะไรกินตอนเย็นๆ กับเค้าเสมอ ด้วยความที่ว่าตัวเค้าค่อนข้างหาของกินยากนิดนึงแต่เราก็อาสาพาไปด้วยความ เต็มใจอยากให้ได้กินของที่เค้าต้องการ แต่ด้วยความที่ว่าพอเราไปกันบ่อยเค้าก็ไม่แปลกที่ มีการแซวมาจากพวกๆรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยการปั่น  ว่าเราสองคน ชอบกันหรือป่าว หรือคบกับอยู่  แต่ในใจเราด้วยความไม่คิดอะไรในตอนนั้นก็เลยบอกไปว่า ไม่มีอะไรเพราะเราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นจริงๆ แต่ก็มีแซวกันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะตัวเราเองก็ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็มีแอบคิดว่าไม่อยากให้ใครพูดแบบนี้ จริงๆผมไม่ได้อายอะไรนะ แต่ผมกลัวว่าพี่เค้าจะอายและไม่กล้าที่จะไปไหนกับผมอีกเดียวคนพวกนี้จะแซว ด้วยความที่ว่าตัวเค้าเองอาจจะมีการเคร่งในเรื่องของศาสนาเขา ด้วยหรือป่าว แล้ว จนผ่านไปสักระยะนึงเราก็สนิทกันมากขึ้นจากเมื่อก่อน มีคุยกันหยอกล้อกันจนมีวันนึงเราก็เล่นหยอกล้อกันกับรุ่นพี่อีกคนที่ทำงานด้วยกัน โดยรุ่นพี่คนนี้พึ่งได้เข้ามาทำงานใหม่ เป็นทีมติดตั้งอินเตอร์เน็ต ว่าเรามาแกล้งจีบ รุ่นพี่คนนี้ที่เป็น(อิสลาม) กันไหมจีบเล่นๆเพียงแค่อยากรุ้ว่าเค้าจะมีปฏิกริยา อย่างไง เราก็เลยลองเล่นดูกับรุ่นพี่คนนี้ ด้วยการที่แกล้งกันปรเจำอยู่แล้วเราก็เลยลอง ทำเป็นดูแลแทคแคร์ บริการต่างๆ หาอะไรมาให้กินบ้างของกินที่เค้าชอบ แล้วเรามีวันนึงได้ไปงานวันเกิดพี่ผู้ชายคนนี้ที่ทำงานออฟฟิศ(ก็คือพี่คนที่แกล้งไปจีบ) คนเดียวกันที่เค้าเป็นคนเดียวกันกับที่ชวนเราแกล้ง ก็มีดื่มกันนิดหน่อย แต่พี่คนนี้ก็น่าจะเมา จู่ๆเลยมาหรอกถามเราว่า เราที่เล่นอยู่อะชอบเค้าจริงๆแล้วใช่ไหมไม่ใช่แค่แกล้ง ด้วยความที่เราก็ตกใจว่าทำไมถึงพูดมาเลยรีบปฏิเสทไปว่าไม่ได้ชอบเลย ได้คิดแบบนั้นจริงๆว่าจะชอบ เค้าต่างกับผมจะตายไปอีกอย่างคนละ ศาสนากันด้วยจะชอบกันมันยาก ด้วยกลัวที่ว่า พี่คนนี้จะไปบอกเค้าว่าเรานั้นชอบแล้วเราก็กลัวว่าถ้าเค้ารุ้แบบนี้เค้าจะรู้สึกยังไงกับเราอาจจะรู้สึกไม่ดี แต่ด้วยตอนนั้นคนอื่นๆก็อยู่กันเยอะอายก็อาย แต่พอผ่านไปก็เหมือนเดิมก็แซวกันปกติ เราก็ไม่ได้คิดอะไร ผ่านไปได้สัก 4-5 เดือน เราทำงานที่นี้มาก็จะครบ 1ปีแล้วตอนนั้น เราก็คุยกับรุ่นพี่คนนี้ที่เป็น(อิสลาม) มาตลอดไม่ได้ห่างกันไปก็มีหยอกล้อกันปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเราในตอนนั้นที่ ความรู้สึกกับพี่คนนี้เริ่มไม่เหมือนเดิม กับคำว่าเพื่อนร่วมงาน แต่มันเป็นความจริงใจที้เราอยากจะมอบให้เค้าตลอดเวลา ในตอนที่อยู่ด้วยกัน เช่น เค้าจะอยากกินอะไรเราอาสาที่จะพาไปทันที หรือ ในตอนที่เค้าเครียดเราก็อาสาที่จะชวนคุยเรื่องตลกต่างๆ เพื่อให้ลืมๆ เรื่องนั้นไป ความรู้สึกนี้ผมไม่รุ้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นมาได้ ปฏิเสทตัวเองตลอดว่าอย่าไปรักเค้าเลย เค้าต่างกับเรามากมาย ผมไม่ใช่คนหน้าตาดี ไม่ได้หล่อ ไม่ได้ดีอย่างที่เค้าต้องการหรอก คนอย่างเค้าน่าจะมีคนดีดี เข้ามาในชีวิต มากมาย ควรไม่ใช่เป็นเรา ผมปฏิเสทกับตัวเองเสมอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะผมดันมีความรู้สึกดีๆให้กับเค้าไปแล้ว แล้วตลอดทั้งๆที่รู้ว่าเราต่างกันเรื่อง ศาสนาด้วยอะไรด้วย เราเลยไม่กล้าที่จะคิดว่าตัวเองจะดีพอไหมที่จะเข้าไปอยู่ใน ศาสนาเข้า ซึ่งมันยากมากๆ จนมีอยู่คืนนึง ผมได้อยู่กับรุ่นพี่ผู้ชายคนนึงเค้าเป็น (อิสลาม)เหมือนกับพี่คนนั้น จนทำให้เราก็ได้ไปกินข้าวด้วยกันตอนเย็น ก็คุยกันเรื่องงาน เรื่องหน้าที่งานของเค้าและก็เรื่องต่างๆพี่คนนี้ก็เป็นคนตลกเฮฮา ดีอัธยาศัยดี จนเรากลับมาที่ออฟฟิศและนั่งคุยกันที่ข้างล่างคุยกันไปสักพักนึก ด้วยความที่ว่าเราก็ไม่รุ้พี่เค้าคิดอะไร มาถามเราแบบนี้ ถามเราว่าเราชอบรุ่นพี่คนนั้นหรอ มีอะไรคุยกับผมได้นะผมไม่บอกใคร ผมอยากรู้และผมจะสอนคุณว่าการคบกันในศาสนา ผมมันเป็นยังไง ทำเอาเราถึงกับพูดไม่ออกชาไปทั้งตัว ด้วยความที่ว่า เค้าจะไม่ไปบอกใครจริงๆใช่ไหม ไม่ได้หรอกถามแล้วเอาเราไปแซวกัน 1.คือผมกลัวที่เค้าจะรู้มากว่าผมคิดยังไง 2.คือผมไม่รุ้ว่าถ้าเกิดเค้ารู้แล้วหลังจากนั้นเค้าจะเกลียดเราไหม โกดเราไหมที่เราคิดแบบนั้นทำไม ในเมื่อเค้าไม่ได้คิด ผมเลยบอกกับพี่คนนั้นไปว่า ถ้าผมบอกพี่แล้วพี่สัญญากับผมได้ไหมว่าอย่าไปบอกใคร ถ้าสัญญาด้วยความจริงใจผมจะยอมบอกพี่เป็นคนแรก เค้าก็ตอบรับเรา อราก็เลยเล่าให้ดี่เข้าฟังว่า เราได้เริ่มคุยกันมันเริ่มสนิทกันมากขึ้น ดี่เค้าดูเป็นคนจริงใจ และ อัธยาศัยดี กับทุกคน ไม่หยิ่ง ไม่ถือตัว แตกต่างกับคนอื่นๆที่เป็นศาสนานี้ที่ผู้หญิงบ้างคนจะถือตัว ห้ามใกล้บ้าง ห้ามโดนมือบ้าง ต่างกันมากๆกับคนนี้ ผมก็ไม่รุ้ว่าทำไมใจผมถึงได้เป็นแบบนี้ เวลาที่เค้าโดนคนอื่น นินทาว่าร้าย หรือ เวลาที่เค้าโดนแกล้งแต่ก็ไม่ได้แกล้งรุ่นแรงอะไรแค่หยอกล้อธรรมดา ผมกลับรู้สึกว่าทำไมผมปกป้องเค้าไม่ได้ และทำไมผมถึฝรุ้สึกแบบนั้น รู้สึกแบบว่าผมชอบเค้า ห่วงเค้าไม่อยากให้เค้าเป็นอะไรในยามที่เค้า ไม่สบายหรือโดนว่าในเรื่องงาน หรือโดนนินทาอะไรต่างๆ พี่บอกผมได้ไหมว่าแบบนี้ผมรักเค้าหรือป่าว ครับ แล้วคนศาสนาพี่ถ้าผมจะชอบเค้าในตอนนี้ผมไม่มีศาสนาผมจะชอบเค้าได้ไหมครับ สิ่งที่ผมกลัวคือ 1.ผมกลัวว่าจะเป็นผู้นำที่ดีได้ไหม 2.ผมกลัวว่าเค้าจะปฏิเสทผมไหม 3.ผมกลัวว่าที่บ้านเค้าจะรับเราไหม เพราะผมไม่ใช่อิสลาม และ ก็ไม่ใช่พุทธ แต่บ้านผมเป็นพุทธ รุ่นพี่ผู้ชายคนนี้เลยบอกกับเราว่า ถ้าคุณพร้อมแล้วคุณรักเค้าจริง เค้าไม่สนว่าคุณจะมาจากศาสนาอะไร เพราะถ้าคุณเข้ามาแล้วคุณต้องแต่ง แล้วคุณต้องเป็นอิสลามเท่านั้น ไม่สนว่าพ่อแม่คุณจะเป็นพุทธ แต่อยู่ที่คุณว่า พ่อแม่คุณรับได้ไหมเพราะเป็นคนพุทธแล้วไปแต่งกับอิสลาม หากรับได้ ทางอิสลามเค้าก็ยินดีที่จะรับคุณ แต่อิสลาม กฏและระเบียบค่อนข้างเคร่งนะ คุณจะทำมันได้หรือป่าว หากทำได้คุณก็เป็นคนนำได้ มันจะเหมือนง่ายแต่ก็ไม่ง่าย จะเหมือนยากก็ไม่ยากอยู่ที่ความอดทนของคุณว่า คุณจะอดทนได้ไหมเพราะกฏจะเยอะอย่างคุณเคยกินอันนี้ต่อไปคุณก็จะกินไม่ได้เราเลยบอกพี่เค้าไปว่าตามจริงผมก็อยากศึกษานะ ถ้าเป็นไปได้ รุ่นพี่คนนี้ก็แนะนำเราว่าคุณลอง ดูด้วยการกระทำ ว่าคุณจริงใจไหมเช่น เค้าจะอยากได้อะไรคุณลองออกตัวเลย หรือ ทำอะไรให้เค้ารู้สึกว่า เรามองเค้าเป็นคนสำคัญกับเรา แค่นี้และ เราก็ได้คุยกันเรื่องนี้ ไปพักนึง แล้วก็ผ่านมาเราก็ทำแบบที่รุ่นพี่คนนี้แนะนำมาโดยตลอดแต่ก็มีบางทีที่เราไม่ได้ทำให้บ้าง หวังว่าเค้าคงไม่โกดกัน นะ 555 แต่ก็ยังมีการแซวกัน จนยางทีเราก็น้อยใจว่า เค้าจะโกดเราไหมนะถ้าเรายังเป็นแบบนี้ หรือเราคงไม่คู่ควรกับเค้าจริงๆเพราะบางที่ เค้าก็เล่นกับคนอื่น ที่ดูเป็นคนที่เค้าจดจำได้ เสมอในบางครั้งเวลาทำอะไร หรือจะชวนกันกินอะไร บางทีเค้าก็คิดถึงอีกคนนึงก่อนแล้วมาถามเรา แต่เราก็คงคิดไปเองเพราะเค้าไม่ได้เป็นอะไรกัน เราอยากลองหันหลังให้แต่ก็ทำใจไม่ได้สักครั้งนึงว่า ถ้าเราไม่ไปต่อ แล้วยอมแพ้มันเราจะพลาดโอกาสดีดีแบบนี้ไหม หรือ ถ้าเราปล่อยเค้าไปโอกาสที่เค้าจะเจอคนดีดีก็มีอยู่ดี มันทำให้ผมคิดยากมากๆ ก็เลยมีพักนึง ผมไปสนิทกับเพื่อนที่ทำงานเป็นตำแหน่งเดียวกัน เราคุยกันสนิทสนมกันตลอดที่เราทำไปเพราะเรา อยากให้คนอื่นๆเลิกแซวหรือแซวให้น้อยลงด้วยความที่กลัวว่าเค้าจะมาโกดเราเพราะเราเป็นต้นเหตุทำให้เค้าเป็นแบบนี้หรือป่าว พอผมได้สนิทกับเพื่อนคนนี้ที่ทำงานตำแหน่งเดียวก็ มีคนอื่นแซวเค้ากับผมน้อยลง และก็ไปแซวเค้ากับรุ่นพี่อีกคนนึง ซึ่งในใจตอนนี้ รู้สึกว่า มันชาเหลือเกินที่เราใจเย็นอะไรขนาดนี้ แต่ตัวเค้าก็ยิ้มแย้มไปตามประสา พอผ่านไปอีกเดือนนึง ซึ่งถ้านับตอนนี้ผมทำงาสมาได้ 10เดือนกว่าๆแล้ว ก็มีก่อนหน้านี้รุ่นพี่ที่ทำตำแหน่งเดียวกันก็เริ่มลาออกไป เพราะรุ่นพี่คนนี้สนิทกับเธอมาก มันก็เป็นครั้งที่ผมมองเธอแล้วดูเศร้าๆว่าคนสนิทที่รุ้จักกันไวใจกันลาออกไป จนทำให้ผมได้มีโอกาสกลับไปสนิทกันอีกครั้ง และครั้งนี้เราสนิทกันมากกว่าเดิม ผมไม่สนเลยว่าใครจะแซวอะไรก็ชั่งมัน เราอยากพิสูทความเป็นเรา จากคำบอกของรุ่นพี่คนนั้นที่แนะนำ ให้เราพิสูทตัวเอง เราก็เริ่มคุยกัน มีเล่นเกมส์ด้วยกันคอลสายกันระบายเรื่องต่างๆที่ทำงานกัน เรื่องที่เธอโดนนินทา บ้างเราเองได้ฟังแล้วก็อดเสียใจไม่ได้แบะไม่อยากใก้คนเหล่านี้มันพูดกับเธอแบบนี้ เราเลยเปิแใจคุยกันแลกเปลี่ยนความจิงใจ มีคำนึงที่เธอบอกกับผมว่า พี่ไว้ใจเราได้ไหม เราก็ตอบไปว่าได้ครับ ถ้าพี่เชื่อใจมันทำให้เรารู้สึกว่า เค้ามองเราสำคัญขึ้นมา พอเวลาผ่านไป มาถึงปีใหม่ เราก็รู้สึกว่า ผมปฏิเสทตัวเองไม่ได้เลยเหมือนตอนแรกว่าผมไม่ได้รักเค้าไม่ได้ชอบเค้า เค้าต่างกันกับเรา แต่มันทำใผ้ผมรู้สึกว่าความต่างหรือความยากลำบากนี้ เราจะขอทำด้วยความจิงใจที่มีให้เค้า จนมีพนักงานใหม่เข้ามา เป็นตำแหน่งเดียวกันกับผม และก็เป็น พนักงานทีมช่างติดตั้ง มีครังนึงเธอไปออกงานที่ ที่นึงแถวพัทยาโดยไปกับทีมติดตั้งคนใหม่และรุ่นพี่อีกคนคือคนที่เค้าให้ผมลองจีบเธอคนนี้ โดยความที่ว่าเราไม่ได้อะไร แต่มีอยู่ครั้งนึงที่เธอไปชอบเข้ากับพี่คนนี้ที่เป็นทีมติดตั้งเข้ามาใหม่ ด้วยความที่ว่าพี่เค้าดูเป็น สุภาพ และ อาจจะเทคแคร์ดี เป็นคนที่ตรงสเปคเธอที่เคยเบ่าให้ผมฟัง เธอบอกกับผมว่ามันทำให้เธอมีความรู้สึกเหมือนตอนเธอเรียนและเธอได้แอบชอบรุ่นพี่ ความรุ้สึกนี้มันกลับมาอีกครั้งกับพี่คนนี้ เธอเล่าใก้ผมฟังพร้อมบอกว่าอย่าให้ผมไปบอกใคร ด้วยใจผมตอนนั้นรุ้สึกหมดหวังมากๆรุ้สึกเหมือนกับว่าเราเดินมาไกลและมาหยุดเดินเพราะว่าขาเราหมดแรงที่ไปต่อ ผมทำได้เพียงยิ้มและบอกกับเธอว่าผมไม่บอกใครหรอกเรื่องนี้เรารู้กันสองคนนะ ได้แต่ยิ้มบอกกับเค้าว่า ถ้าคนนี้เค้าทำให้เธอมีความรู้สึกแบบนั้นเธอควรเก็บมันไว้นะ เพราะตลอดมทเธอก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน คนนี้อาจจะเป็นคนที่พระเจ้าส่งมาให้ก็ได้ แต่ทั้งๆที่ในใจผมอยากให้เธอมามองตรงนี้มากกว่า ผมรุ้ดีว่าเธออาจจะมองผมเป็นแค่น้องที่ทำงาน กับเธอเป็นน้องคนสนิทที่คุยกันได้ในหลายๆเรื่อง เธอก็ชอบพี่คนนี้เรื่อยมา ซื้อขนมให้ คอยถามคอยตอบผมคิดในใจว่าเธอคงชอบเค้ามากจริงๆถ้าครั้งนี้เค้าเป็นที่ส่งมาให้เธอในตอนที่เธอขอ ดุอา เป็นการขอพรของ อิสลามที่เชื่อว่าพระเจ้าประทานพรให้กับคนที่ปฏิบัติดี ผมก็คงต้องยอมรับความจริงต้องนั้นทั้งๆที่ใจผมอยากให้เธอมองเป็นเรา ผมได้แต่โทดตัวเองว่าผมไม่หล่อมั้ง รูปร่างไม่ได้ดีมั้ง ดูเด็กกว่าเธอมั้งเดราะเธอชอบคนที่อายุเยอะกว่า ผมเลยเอ่ยปากลอยในใจว่า เธอคนนี้คือคนนั้นที่เธอต้องการ เราขอให้เธอมีแต่ความสุขพระเจ้าคุ้มครองนะ ผมกลับมาบ้าน จากการที่ผมไม่เคยเสียใจมานาสในเรื่องแฟนที่ผมเคยมีหรือที่ผ่านมา อยู่ๆผมคิดถึงเธอน้ำตาผมมันไหลออกมามันดูตลกมากสำหรับผมผมได้แต่ถามตัวเองว่า เห้ยเป็นอะไรวะปัญญาอ่อนยิ้ม แค่คิดถึงเค้าว่าเค้าชอบคนนี้ร้องไห้เลยหรอ เพราะว่าเธอคือคนที่ทำให้ผมก็มีความรู้สึกแบบที่เธอาู้สึกกับพี่คนนั้นเหมือนกัน ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มานานมาก ผมไม่เคยออกไปเจอเพื่อนๆ หรือ ไปไหนผมไม่เที่ยวผมเลิกทุกอย่าง เพราะมีครั้งนึงผม ไอหนักมาก ขนาดที่ว่าใครอยู่ด้วยคงลำคาญ เพราะผมสูบบุหรี่ จนตอนนั้นผมอยู่กับเธอแล้วผมก็ไอ มีคำพูดนึงของเค้าบอกกับผมว่า พี่ชายเค้าก็สูบบุหรี่แบบนี้แหละ ละก็ไอ เค้าบอกให้ผมลองเลิกดูแล้วหาอะไรทำไม่ให้คิดถึงมัน เคี้ยวผมากฝรั่งหรืออะไรก็ได้ นับตั้งแต่วันนั้นผมไม่รุ้ทำไหมเหมือนมีมนต์สะกด ผมไม่แตะบุหรี่อีกเลย อาจจะมีแตะบ้างแต่น้อยลงจนมาถึงทุกวันนี้ ผมเลิกได้มาก็ เป็นปีพอดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่