สคร. จัดเก็บรายได้ 8 ด. เกินเป้า 79%
สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้ 8 เดือน แตะ 149,283 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,748 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 79%
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2563 ทาง สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า
ร้อยละ 50 จำนวน 4,361 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ส่งผลให้มีเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมจากรัฐวิสาหกิจและกิจการฯ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 – 31 พฤษภาคม 2563) จำนวน 149,283 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายสะสมจำนวน 4,748 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 79 ของเป้าหมายทั้งปีงบประมาณ 2563 จำนวน 188,800 ล้านบาท
https://www.innnews.co.th/economy/news_695544/
สิงคโปร์นำเข้าผลไม้ไทย 4 เดือนพุ่ง 4.83%
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย สิงคโปร์นิยมผลไม้ไทยยอด 4 เดือนแรกเพิ่ม 4.83% แนะผู้ส่งออก เร่งเพิ่มมูลค่าผลไม้ด้วยนวัตกรรม เจาะตลาดผลไม้ออร์แกนิก
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผลการสำรวจตลาดผลไม้ของไทยในตลาดสิงคโปร์ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ พบว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.หรือ 4 เดือนแรกของปีนี้ประเทศสิงคโปร์มีการนำเข้าผลไม้จากไทยมูลค่า 11.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.83%
โดยผลไม้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5.06% ของการนำเข้าผลไม้ทั้งหมดของสิงคโปร์ ซึ่งผลไม้ที่มีการนำมากที่สุด ได้แก่ มะม่วงสดและแห้ง ฝรั่งสดและแห้ง ลำไยสด มะพร้าวอ่อน ลำไยอบแห้ง ทุเรียน แตงโม มังคุด สับปะรด กล้วย ส้มโอ เงาะ มะขาม ลิ้นจี่ เป็นต้น
ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะผลไม้สด พบว่า สิงคโปร์นำเข้าผลไม้สด จากไทย ช่วง ม.ค.-เม.ย 63 มีอัตราขยายตัวสูงถึง 10.24% โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีกำหนดจัดงานเทศกาล Thai Fruits Golden Month เพื่อส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในตลาดสิงคโปร์ในช่วงเดือนก.ค.นี้
นายสมเด็จ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดผลไม้ในสิงคโปร์ ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่มีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากผู้บริโภคสิงคโปร์มีกำลังซื้อสูง และนิยมเลือกซื้อสินค้าผลไม้ที่มีคุณภาพ คุ้มค่ากับราคา และเริ่มให้ความสำคัญกับการบริโภคผลไม้อินทรีย์เพิ่มมากขึ้น จากการที่ผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม
ด้านนางสาวสุปราณี ก้องเกียรติกมล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ กล่าวว่า ปัจจุบันสิงคโปร์ได้มีการวางแผนและพัฒนาการทำเกษตรในเขตเมืองด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือ Living Lab เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า แต่ขณะนี้ยังเน้นการปลูกผักเป็นหลัก ดังนั้น ผลไม้จึงยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศต่อไป จึงเป็นโอกาสของไทยในการขยายการส่งออกผลไม้ไปยังสิงคโปร์ได้เพิ่มขึ้น โดยมีความต้องการผลไม้แบบแช่เย็นแช่แข็ง และผลไม้ออร์แกนิกเพิ่มขึ้น โดยมีคู่แข่งสำคัญ ที่มีผลไม้ใกล้เคียงกับไทย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมา
นางสาวสุปราณี กล่าวว่า ส่วนการเจาะตลาดผลไม้สิงคโปร์ ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างความหลากหลายของตัวสินค้า การแปรรูปผลไม้เพื่อเพิ่มมูลค่า และควรให้ความสำคัญกับกระแสผลไม้ออร์แกนิกที่กำลังมาแรงและมีการขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ก็จะส่งผลดีต่อการส่งออกผลไม้ของไทย พร้อมทั้งเข้าร่วมงานแสดง Thai Festival หรือ Thailand Week ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่จำหน่ายเฉพาะสินค้าไทย รวมถึงผลไม้ไทย และพิจารณาการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารในสิงคโปร์ เช่น Asia Pacific Food Expo และ Singapore Food Expo แต่ขณะนี้ สิงคโปร์ยังมีคำแนะนำให้ยกเลิกหรือชะลอการจัดงานขนาดใหญ่ออกไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
นางสาวสุปราณี กล่าวว่า ล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือธุรกิจสิงคโปร์หลายมาตรการ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 3 แพ็กเกจ มีมูลค่ารวม 59.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และยังมีการประกาศแพ็กเกจ E-Commerce Booster ที่ให้การสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ประกอบการภาคการค้าปลีกในสิงคโปร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถประคองตัวได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก รวมถึงสามารถพัฒนาศักยภาพในการทำธุรกิจเพื่อการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้พร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทย ที่จะร่วมมือกับผู้นำเข้าในการทำตลาดผลไม้ไทยทางออนไลน์ด้วย
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/884280?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=economic
ข่าวทั้งหมดคือรายได้ของประเทศนะคะ...
⚖⚖⚖/มาลาริน/ข่าวดี้ดีค่ะ...สิงคโปร์นำเข้าผลไม้ไทย 4 เดือนพุ่ง 4.83% ... สคร. จัดเก็บรายได้ 8 เดือน เกินเป้า 79%
สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้ 8 เดือน แตะ 149,283 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,748 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 79%
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2563 ทาง สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า
ร้อยละ 50 จำนวน 4,361 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ส่งผลให้มีเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมจากรัฐวิสาหกิจและกิจการฯ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 – 31 พฤษภาคม 2563) จำนวน 149,283 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายสะสมจำนวน 4,748 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 79 ของเป้าหมายทั้งปีงบประมาณ 2563 จำนวน 188,800 ล้านบาท
https://www.innnews.co.th/economy/news_695544/
สิงคโปร์นำเข้าผลไม้ไทย 4 เดือนพุ่ง 4.83%
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย สิงคโปร์นิยมผลไม้ไทยยอด 4 เดือนแรกเพิ่ม 4.83% แนะผู้ส่งออก เร่งเพิ่มมูลค่าผลไม้ด้วยนวัตกรรม เจาะตลาดผลไม้ออร์แกนิก
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผลการสำรวจตลาดผลไม้ของไทยในตลาดสิงคโปร์ จากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ พบว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.หรือ 4 เดือนแรกของปีนี้ประเทศสิงคโปร์มีการนำเข้าผลไม้จากไทยมูลค่า 11.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.83%
โดยผลไม้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5.06% ของการนำเข้าผลไม้ทั้งหมดของสิงคโปร์ ซึ่งผลไม้ที่มีการนำมากที่สุด ได้แก่ มะม่วงสดและแห้ง ฝรั่งสดและแห้ง ลำไยสด มะพร้าวอ่อน ลำไยอบแห้ง ทุเรียน แตงโม มังคุด สับปะรด กล้วย ส้มโอ เงาะ มะขาม ลิ้นจี่ เป็นต้น
ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะผลไม้สด พบว่า สิงคโปร์นำเข้าผลไม้สด จากไทย ช่วง ม.ค.-เม.ย 63 มีอัตราขยายตัวสูงถึง 10.24% โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีกำหนดจัดงานเทศกาล Thai Fruits Golden Month เพื่อส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในตลาดสิงคโปร์ในช่วงเดือนก.ค.นี้
นายสมเด็จ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดผลไม้ในสิงคโปร์ ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่มีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากผู้บริโภคสิงคโปร์มีกำลังซื้อสูง และนิยมเลือกซื้อสินค้าผลไม้ที่มีคุณภาพ คุ้มค่ากับราคา และเริ่มให้ความสำคัญกับการบริโภคผลไม้อินทรีย์เพิ่มมากขึ้น จากการที่ผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และการปกป้องสิ่งแวดล้อม
ด้านนางสาวสุปราณี ก้องเกียรติกมล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ กล่าวว่า ปัจจุบันสิงคโปร์ได้มีการวางแผนและพัฒนาการทำเกษตรในเขตเมืองด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือ Living Lab เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า แต่ขณะนี้ยังเน้นการปลูกผักเป็นหลัก ดังนั้น ผลไม้จึงยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศต่อไป จึงเป็นโอกาสของไทยในการขยายการส่งออกผลไม้ไปยังสิงคโปร์ได้เพิ่มขึ้น โดยมีความต้องการผลไม้แบบแช่เย็นแช่แข็ง และผลไม้ออร์แกนิกเพิ่มขึ้น โดยมีคู่แข่งสำคัญ ที่มีผลไม้ใกล้เคียงกับไทย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมา
นางสาวสุปราณี กล่าวว่า ส่วนการเจาะตลาดผลไม้สิงคโปร์ ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างความหลากหลายของตัวสินค้า การแปรรูปผลไม้เพื่อเพิ่มมูลค่า และควรให้ความสำคัญกับกระแสผลไม้ออร์แกนิกที่กำลังมาแรงและมีการขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ก็จะส่งผลดีต่อการส่งออกผลไม้ของไทย พร้อมทั้งเข้าร่วมงานแสดง Thai Festival หรือ Thailand Week ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่จำหน่ายเฉพาะสินค้าไทย รวมถึงผลไม้ไทย และพิจารณาการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารในสิงคโปร์ เช่น Asia Pacific Food Expo และ Singapore Food Expo แต่ขณะนี้ สิงคโปร์ยังมีคำแนะนำให้ยกเลิกหรือชะลอการจัดงานขนาดใหญ่ออกไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
นางสาวสุปราณี กล่าวว่า ล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือธุรกิจสิงคโปร์หลายมาตรการ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 3 แพ็กเกจ มีมูลค่ารวม 59.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และยังมีการประกาศแพ็กเกจ E-Commerce Booster ที่ให้การสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ประกอบการภาคการค้าปลีกในสิงคโปร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถประคองตัวได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก รวมถึงสามารถพัฒนาศักยภาพในการทำธุรกิจเพื่อการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้พร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทย ที่จะร่วมมือกับผู้นำเข้าในการทำตลาดผลไม้ไทยทางออนไลน์ด้วย
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/884280?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=economic
ข่าวทั้งหมดคือรายได้ของประเทศนะคะ...