#ตามหาความจริง เซฟคนเป็น ไม่ให้เป็นแบบคนตาย วิธีช่วยคือต้องช่วยตอนที่มีชีวิต ตอนที่มีอิสรภาพ และตอนที่ไม่มีคดี

กระทู้คำถาม
หลักสำคัญเลย คือ

1. ไม่ยุยง ส่งเสริม หรือสนับสนุนการใด (อาทิ การแสดงความคิดเห็น การแชร์) อันที่จะกลับมาเป็นภัยต่อตนเองและครอบครัว

2. สำหรับคนที่ถูกดำเนินคดี ก็ให้สู้กันไปตามกระบวนการ

3. สำหรับคนที่หนีคดีทางการเมือง ถ้าช่วยก็ต้องช่วยกันให้สามารถทำการลี้ภัยไปสู่ประเทศที่สามอย่างเช่น อเมริกา ฝรั่งเศส เกาหลี ญี่ปุ่น ฯลฯ

4. สำหรับไม่ได้สถานะลี้ภัย และยังหลบหนีอยู่ตามประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าคิดว่าไม่มีโอกาสที่จะทำการลี้ภัยไปสู่ประเทศที่สามได้ และไม่มีเรี่ยวแรงและกำลังในการหลบหนี ก็ให้กลับมามอบตัวสู้คดี

มีเท่านี้จริงๆ ที่จะช่วยเซฟชีวิตคนและเซฟอิสรภาพได้ ซึ่งอาจจะต้องสูญสิ้นอิสรภาพแค่ชั่วคราว แต่ชีวิตยังยืนยาวได้ไปต่อ

ผมตามไปอ่านความคิดเห็นของผู้ที่ทำการหลบหนี ยังลี้ภัยไม่สำเร็จบางคน รวมถึงบทความของผู้ที่ทำการช่วยเหลือเรื่องลี้ภัย การลี้ภัยถ้าไม่มีการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างจริงๆ จังๆ ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ใช่เซเลป นักวิชาการ หรือนักการเมืองแล้วล่ะก็ การขอลี้ภัยเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างยิ่ง มีนายหน้า มีวิ่งเต้น ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น และถึงกับอดกลั้นว่า นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว นักสิทธิ หรือใครต่อใคร ไม่ต้องมาเซฟตอนที่ตายไปแล้ว

กรณีของผู้ถูกอุ้มรายล่าสุด ผู้ที่ทำการหลบหนีด้วยกันเอง ยกฐานะให้เป็นไฮโซ มีศักยภาพที่จะลี้ภัยไปสู่ประเทศที่สามได้ แต่ก็ไม่ได้ไป และเมื่อตามย้อนไปอ่านประวัติการโพสต์ในการแสดงความคิดเห็น แค่ใช้ความอดทนอ่านทุกข้อความที่โพสต์ไปให้ถึงช่วงก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ก็ทำให้คิดถึงบทความของเสริมสุขหรือเป๊ปซี่ลอยขึ้นมาในหัวโดยพลัน

ขอยืม quote ของ UNHCR ที่ขึ้นว่า No Comment มาใช้กับกระทู้นี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่