“อาร์ก” (Arch) ซุ้มประตูหิน ความสวยงามที่เกิดจากธรรมชาติ

ซุ้มประตูหิน หรือ “อาร์ก” (Arch) เป็นความสวยงามซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ธรรมชาติรังสรรค์ด้วยการกัดเซาะของทะเล แม่น้ำ หรือสภาพดินฟ้าอากาศ จนก่อให้เกิดหินรูปร่างแปลกตา เว้าแหว่ง สร้างความสะดุดตาและเติมสีสันให้สภาพแวดล้อมบริเวณนั้น หลายแห่งที่มี ซุ้มประตูหิน ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

 Fairy Bridge 
     

สะพานเซียนเริ่น หรือ สะพานนางฟ้า คือ ซุ้มประตูหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสะพานเชื่อมแม่น้ำ Buliu ในเขตเทศมณฑล Fengshan ในเขตปกครองตนเอง Guangxi Zhuang ระยะทางยาวประมาณ 400 ฟุต (120 เมตร)  ตั้งอยู่ในสถานที่ที่เข้าถึงได้ยากมากในจังหวัดกวางสีของจีนใกล้กับเมือง Fingshan เนื่องจากไม่เป็นที่รู้จักแม้แต่ในพื้นที่โดยรอบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้
 
แม่น้ำบิลิยา( Biliya ) มีส่วนร่วมในการสร้างสะพานนางฟ้านี้  ซึ่งเป็นเวลาหลายพันปีที่หินปูนที่แข็งกระด้างนี้มีการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้เกิดเป็นซุ้มประตูขนาดมหึมา ด้วยความยาว 130 เมตรสูง 71 เมตร ในส่วนที่แคบที่สุดกว้างประมาณ 5 เมตร  การจะไปที่สะพานที่น่าทึ่งนี้สามารถเดินทางโดยเรือเท่านั้น 

 Fairy Bridge นั้นไม่เป็นที่รู้จักนอกประเทศจีน NABS เริ่มทราบเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในปี 2009 เมื่อ Jay Wilbur กำลังค้นหาพื้นที่ผ่านทางคอมพิวเตอร์โดยใช้ Google Earth และเห็นสิ่งที่ดูเหมือนสะพานธรรมชาติขนาดใหญ่ทอดยาวไปตามแม่น้ำ สิ่งนี้ได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็วจากภาพถ่าย Panoramio ที่เชื่อมโยงกับ Google Earth ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพชาวจีน“ ivanytng”

สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เรย์จัดทริปไปที่นั่น  ความพยายามครั้งแรกของเขาในการไปถึงซุ้มประตูในปี 2009 ล้มเหลว ความพยายามครั้งที่สองในปี 2010 มีสมาชิก NABS อีกหกคนเข้าร่วมและทำได้สำเร็จ 
ภาพถ่ายโดย Gunter Welz
Cr. https://www.liveinternet.ru/users/4776207/post256028298/
Cr.https://www.naturalarches.org/big-FairyBridge.htm

สะพานหินโค้งแลนด์สเคป


ด้วยภูมิประเทศเป็นหินแห้งแล้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐยูทาห์(Utah) แลดูคล้ายพื้นผิวดาวเคราะห์น่าอัศจรรย์  แต่ที่น่าพิศวงกว่านั้นคือ ซุ้มหินโค้งราว 200 ซุ้มที่เปิดเป็นช่องประตูนหมู่กำแพงหิน ทำให้แถบนี้ได้ชื่อว่า อุทยานซุ้มหินโค้ง
 
อุทยานแห่งชาติสะพานหินโค้ง หรือ อุทยานซุ้มหินโค้ง หรือ อุทยานแห่งชาติอาร์เชส (Arches National Park) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐยูทาห์ เขตอุทยานแห่งชาติหินโค้งมีเนื้อที่ 300 ตารางกิโลเมตร มีสะพานหินโค้งมากกว่า 200 แห่ง
      
สะพานหินโค้งแลนด์สเคป ยาวกว่า 89 เมตร เป็นสะพานหินโค้งที่ยาวที่สุดในโลก แต่ช่วงสะพานมีช่วงเปราะบางมาก เชิงสะพานเป็นหินทรายยื่นออกจากหินโผล่ขรุขระเหนือพื้นหุบผาชันด้วยความสูงประมาณ 30 เมตร 

แลนด์สเคป เป็นซุ้มธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นแถบหิน หนาไม่ถึง 1.8 ม. และวัดระหว่างผนังค้ำยันสองด้านได้ยาวถึง 89 ม. "ตาปลาวาฬ" คือช่องใต้สะพานมหึมา ซุ้มหินโค้งที่สะดุดตาที่สุดคือ ซุ้มเดลิเคต ตั้งอยู่โดดๆ มีรูปร่างเหมือนตัวยูกลับหัว ด้านข้างเอียงลาด  ตั้งอยู่ริมลานรูปอัฒจันทร์ตามธรรมชาติ

ซุ้มหินโค้งรูปทรงอื่นๆในอุทยานนี้ ยังมีชื่อที่เปี่ยมจินตนาการอีกมาก บางซุ้มมีรูปร่างคล้ายคน สัตว์ หรือสิ่งของ  "เทวทูตมืด" เป็นยอดหินดำสูง 38 ม. ตระหง่านอยู่เหนือบริเวณที่เรียกว่า "สวนปีศาจ" และ "หอคอยบาเบล" เป็นแท่งหินที่มีลักษณะเหมือนซี่โครงสูงลิ่วถึง 150 ม.
 

สะพานหินโค้งเดลิเคต 


ซุ้มหินโค้งเกิดจากการกัดกร่อนของหินทราย ซึ่งประกอบด้วยเม็ดแร่ควอตซ์ ที่ประสานติดกันด้วยซิลิกาหรือแคลเซียมคาร์บอเนต และเคลือบด้วยสารประกอบของเหล็ก จึงทำให้หินมีหลายสี หินทรายในบริเวณนี้อยู่เหนือชั้นเกลือหนา ด้วยแรงกดทับจากหินด้านบน ทำให้เกลือแทรกเข้าไปในชั้นหินส่วนที่เป็นเนื้ออ่อนได้
       
เกลือที่ซึมเข้าไปในเนื้อหินดังกล่าว จะเคลื่อนตัวดันให้หินทรายผุดสูงขึ้นเป็นรูปโดม แล้วทำให้หินทรายนั้นแตกร้าวและขยายตัวออก มีลักษณะคล้ายครีบวางขนานต่อๆกันนับร้อยๆครีบ แต่ละครีบอยู่ห่างกัน 3-6 ม. น้ำจะซึมลงไปตามรอยต่อ หินที่เป็นครีบเหล่านี้ถูกสภาพอากาศกัดกร่อนได้ง่ายกว่าส่วนอื่นก็จะแตกสลายไปก่อน บางแห่งชั้นหินด้านล่างสึกกร่อนไปก่อนชั้นหินด้านบน จึงเกิดเป็นซุ้มหินโค้ง

รัฐยูทาห์ในแถบนี้ ได้ชื่อว่า "ดินแดนหินสีแดง" แต่ที่จริงพบสีแทบทุกสีได้ในดินแดนกึ่งทะเลทรายที่แทบไม่มีพืชขึ้นบดบังแห่งนี้ หินบางรูปทรงมี  "น้ำมันเคลือบเงาทะเลทราย" เคลือบอยู่ น้ำมันนี้เคลือบหินให้เป็นเงาด้วยแร่ธาตุที่เหลืออยู่หลังจากที่น้ำระเหยไปหมด เมื่อชาวสเปนซึ่งเป็นผู้นำม้าเข้ามาสู่อเมริกาเข้ามาถึงบริเวณนี้ในศตวรรษที่ 17 ชนเผ่ายูตีได้สลักลายเส้นเป็นรูปคนขี่ม้าลงบนน้ำมันเคลือบนี้
ข้อมูล http://ecurriculum.mv.ac.th/
Cr.https://travel.thaiza.com/foreign/165285/



Berry Head 
  
"เบอรี่ เฮด อาร์ค" (Berry Head Arch) สะพานหินธรรมชาติหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ (Newfoundland and Labrador) และเป็นรัฐในประเทศแคนาดา (Canada) โดยสะพานหินแห่งนี้ตั้งอยู่บนบนชายฝั่งทางตอนใต้ของเมืองเซนต์จอห์นเมือง ที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ

ซุ้มหินโค้งนี้อยู่บนเส้นทางปีนเขาของ Spurwink Island มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร อยู่ทางตอนเหนือของ Port Kirwan ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเส้นทางที่ยากเส้นทางหนึ่งสำหรับนักปีนเขา
เส้นทางปีนเขาเลียบชายฝั่งตะวันออก เป็นประสบการณ์การเดินป่าชายฝั่งที่นำพาไปยังจุดสูงสุดของอเมริกาเหนือ เส้นทางเดินนี้ ได้มอบการผสมผสานอันพิเศษแห่งการผจญภัยในป่ารกร้าง ไปพร้อมๆกับความงามตามธรรมชาติอันโดดเด่น อีกทั้งยังสามารถพบเจอสัตว์ป่านานาชนิด ประวัติศาสตร์ และการแลกเปลี่ยนกันทางวัฒนธรรม
ที่มา maps.roadtrippers.com
Cr.https://travel.thaiza.com/foreign/448940/




 Rainbow Bridge
อนุสาวรีย์สถานแห่งชาติสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge National Monument) ตั้งอยู่ในรัฐยูทาห์ และอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติสะพานหินโค้ง 300 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับหุบเขานาวาโฮ

ถูกตั้งให้เป็นอนุสาวรีย์ระดับชาติในปี ค.ศ. 1910 เป็นสะพานหินโค้งธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ทอดตัวข้ามหุบผาชันกว้าง 85 เมตร ตัวสะพานยาว 94 เมตร เทียบเท่าความยาวของสนามเทนนิสสี่สนามติดต่อกัน ตัวสะพานสูงจากฐานจรดยอด 88 เมตร หน้า 13 เมตร และกว้าง 10 เมตร พอที่จะให้รถวิ่งสวนกันได้สองเลน

สะพานสายรุ้งทอดตัวจากหน้าผาซึ่งเดิมเป็นโขดหินตามลาดเขา ข้ามธารน้ำไหลเอื่อยๆ ซึ่งในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ฐานของโขดหินนี้ถูกกัดกร่อนด้วยกระแสน้ำ และตะกอนจากธารน้ำ ทำให้เกิดสะพานรูปโค้งเหนือธารขึ้นไป จากนั้นลมก็เสียดสีขัดถูให้เกิดสะพานสายรุ้งให้กลมกลึงเกลี้ยงเกลาจนมีความสวยงามในปัจจุบัน
Cr.https://th.wikipedia.org/wiki/อนุสาวรีย์สถานแห่งชาติสะพานสายรุ้ง



Stevens Arch
สะพานหินสตีเวนส์ (Stevens Arch) อยู่ในเขตEscalante แคนยอน อยู่เหนือแม่น้ำ Escalante ในเขตรัฐยูทาห์ ในสหรัฐอเมริกา (United States of America) สะพานหินสามารถวัดระยะความยาวได้ประมาณ 220 ฟุต (67 เมตร)
Cr.https://iblogger36.blogspot.com/2012/07/10.html


Sipapu Natural Bridge
สะพานหินธรรมชาติสิปาปู (Sipapu Natural Bridge)อยู่ในอนุสรณ์สถานแห่งชาติสะพานหินธรรมชาติ (Natural Bridges National Monument) ในเขตรัฐยูทาห์ ในสหรัฐอเมริกา (United States of America) สะพานหินสามารถดูได้จากมุมมองริมถนนหรือการเดินเท้าเข้าไปชม สะพานหินสามารถวัดระยะความยาวได้ประมาณ 225 ฟุต (69 เมตร)

The Paiute ชาวโบราณในยุคแรกๆเรียกสะพานนี้ว่า mah-vah-talk-tump แปลว่า "ใต้ท้องม้า"  ซึ่งในช่วง 100 ปีที่ผ่านมามีชื่อเรียกอีกหลายชื่อจนปัจจุบันคือ สิปาปู
President   ชื่อนี้ถูกนำมาใช้โดย Cass Hite ในปี 1883 Hite ดำเนินการขุดทองวางบนแม่น้ำโคโลราโดและสำรวจ White Canyon จากที่นั่น

Augusta     ฮอเรซลองผู้สำรวจดินแดนในปี 2447 เปลี่ยนเป็นชื่อสะพานนี้หลังจากภรรยาของเขาเสียชีวิต

Sipapu       เป็นภาษา Hopi  ได้รับโดย William Douglas ผู้นำคณะสำรวจรัฐบาลไปยังสะพานในปี 1908 ทำแผนที่ขอบเขตที่แน่นอนของ                                        อนุสาวรีย์แห่งชาติใหม่ ดักลาสคิดว่าซากปรักหักพังและศิลปะหินที่พบในพื้นที่นั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับชาวโฮปิทางตอนเหนือของรัฐ                                แอริโซนา
Cr.https://www.nps.gov/thingstodo/sipapu-bridge-trail.htm
Cr.https://travel.thaiza.com/amaze/246077/



Morning Glory Natural Bridge

 
สะพานหินธรรมชาติมอร์นิ่ง กลอรี่ (Morning Glory Natural Bridge) ตั้งอยู่ในนิโกรบิลด์แคนยอน (Negro Bill Canyon) ที่อยู่ใกล้ๆเมืองโมอับ (Moab) ในเขตรัฐยูทาห์ (Utah) ในสหรัฐอเมริกา (United States of America) แต่ไม่ค่อยเป็นที่น่าสนใจในหมู่นักท่องเที่ยวนัก เนื่องจากสะพานอยู่ห่างจากผนังหน้าผาเพียง 15 ฟุต สามารถวัดระยะความยาวได้ประมาณ 243 ฟุต (74 เมตร)
Cr.ภาพ https://commons.wikimedia.org/
Cr.https://travel.thaiza.com/amaze/246077/

 


Aloba Arch
สะพานหินอโลบา (Aloba Arch) ในประเทศชาด (Chad) เป็นหนึ่งในซุ้มธรรมชาติที่งดงามที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในกลางเทือกเขา Ennedi ในเขตทะเลทรายซาฮารา สิ่งที่โดดเด่นของซุ้มประตูคือเสาหินที่เชื่อมต่อกับสะพานหินที่มีความสูงประมาณ 394 ฟุต (120 เมตร) ในขณะที่สามารถวัดระยะความยาวได้ประมาณ 287 ฟุต (87เมตร)

ที่ราบสูงเอนเนดิ (Ennedi) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศชาด ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกากลาง ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลและมีความยากจนมากจึงเป็นประเทศที่เดินทางเข้าถึงได้ยากที่สุดในตอนกลางของทะเลทรายซาฮารา

บริเวณนี้เต็มไปด้วยกลุ่มแท่นหินซุ้มประตูโค้งธรรมชาติหลายร้อยแบบ และมีซุ้มประตูหิน Aloba เป็นซุ้มประตูหินที่มีชื่อเสียงที่สุด มีลักษณะเป็นแผ่นหินโค้งขนาดใหญ่และมีช่องว่าตรงกลาง เป็นหนึ่งในซุ้มประตูหินตามธรรมชาติที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจากธรรมชาติที่ก่อตัวขึ้นมานับหลายล้านปี

บริเวณที่ราบสูงเอนเนดิ ยังมีภาพเขียนฝาผนังของมนุษย์โบราณมากมายหลายพื้นที่ มีการวาดสัตว์หลายชนิดเป็นสัตว์ที่สามารถอาศัยอยู่ในทะเลทรายได้ในยุคแรกๆ โดยบริเวณพื้นที่ภาคใต้ของเอนเนดิยังมีทะเลสาบซ่อนอยู่ในพื้นที่อันแห้งแล้ง ตั้งอยู่ในหลืบหินทราย เป็นแหล่งน้ำสำคัญในภูมิภาคนี้และเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเหล่าสัตว์ป่า เช่น ฝูงอูฐ จระเข้ ที่ยังคงใช้แหล่งน้ำในการดื่มกินและอยู่อาศัยมาช้านาน
ที่มา amusingplanet.com
Cr.https://travel.thaiza.com/foreign/385301/

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่