มัธยมก็มา! "นร.เตรียมอุดม" ออกแถลงการณ์ ประณามอุ้มหาย "วันเฉลิม"
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4265563
มัธยมก็มา! "นร.เตรียมอุดม" เคลื่อนไหว ออกแถลงการณ์ ประณามการอุ้มหาย "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" ผู้ลี้ภัยชาวไทย ที่กัมพูชา
จากกรณี นาย
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ
ต้าร์ ผู้ลี้ภัยชาวไทย หลังเคยถูก คสช.เรียกรายงานตัวและดำเนินคดีพรบ.คอมพ์ เนื่องจากเป็นแอดมินเพจ
"กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" ซึ่งเป็นเพจเปิดโปงข้อเท็จจริงการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปี 53 หายตัวไปอย่างลึกลับ ด้วยวิธีการถูกลักพาตัวขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อเย็นวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ต่อมา การหายตัวอย่างลึกลับของนายวันเฉลิม กลายเป็นกระแสสังคม ผู้คนจำนวนมากเรียกร้องด้วยความไม่พอใจ และต้องการตามหาความจริง
ล่าสุดวันนี้ (6 มิ.ย.) นอกจากมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มนักศึกษา และประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีการเคลื่อนไหวจาก "นักเรียน" ในระดับมัธยมอีกด้วย ในนามกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่ใช้ชื่อว่า เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] โดยได้ออกแถลงการณ์ ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
แถลงการณ์กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง]
กรณีการบังคับสูญหายผู้ลี้ภัยทางการเมืองของ “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์”
เนื่องด้วยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ที่ “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยถูกอุ้มหายไปจากหน้าที่พัก ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา การอุ้มหายครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “ราคา” ที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยจำต้องจ่าย
ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา มีคนไทยที่คาดว่าถูกบังคับให้สูญหายไปแล้วอย่างน้อย 86 คน ส่วนมากเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง กลุ่มชาติพันธุ์ และประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้รัฐบาล [เผล่ะจัง] นี้มีผู้ถูกบังคับให้สูญหายมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
การบังคับสูญหายมิใช่เรื่องที่พ้นขอบเขตความรับผิดชอบของรัฐบาล หากแต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรงที่จะต้องจัดการและต่อต้านอาชญากรรมที่ร้ายแรงนี้ เพื่อรับรองเสรีภาพในการแสดงออก และปกป้องสิทธิในชีวิตและร่างกายของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] ขอยืนหยัดในจุดยืนในการต่อต้าน [เผล่ะจัง] และอำนาจนิยม อันนอกจากจะเป็นต้นเหตุของความรุนแรงเช่นนี้แล้ว ยังเป็นสิ่งที่ขัดขวางการตรวจสอบโดยภาคประชาสังคมอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] จึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้
1. รัฐบาลต้องผลักดันพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับสูญหาย โดยต้องรับฟังความคิดเห็นและรับรองการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
2. รัฐบาลต้องสอบสวนคดีบังคับสูญหาย ทั้งคดีใหม่และคดีเก่าซึ่งไม่มีอายุความ โดยไม่ละเลยที่จะขอความร่วมมือจากรัฐบาลต่างประเทศ รวมถึงเยียวยาครอบครัวของเหยื่อต่อไป ทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] ขอประณามการบังคับสูญหายและการเพิกเฉยของรัฐบาลที่มีต่ออาชญากรรมอันอุกฉกรรจ์ดังกล่าว ต้นกล้าแห่งประชาธิปไตยต้นนี้จะไม่ยอมให้ใครมาพรากสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเราไป ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมาในรูปแบบใดหรือมีใครอยู่เบื้องหลังก็ตาม
กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง]
6 มิถุนายน 2563
คนดังก็มา! ฮิวโก้ ขึ้นภาพดำสนิท แคปชั่นสลด หลัง 'วันเฉลิม' ถูกอุ้มหาย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4265990
คนดังก็มา! "ฮิวโก้ จุลจักร" ขึ้นภาพดำสนิท พร้อมแคปชั่นสลด หลัง 'วันเฉลิม' ถูกอุ้ม แฟนคลับแห่งชื่นชม ขอบคุณที่เป็นกระบอกเสียง
กรณี นาย
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ
ต้าร์ ผู้ลี้ภัยชาวไทย หลังเคยถูก คสช.เรียกรายงานตัวและดำเนินคดีพรบ.คอมพ์ เนื่องจากเป็นแอดมินเพจ
"กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" ซึ่งเป็นเพจเปิดโปงข้อเท็จจริงการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปี 53 หายตัวไปอย่างลึกลับ ด้วยวิธีการถูกลักพาตัวขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อเย็นวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ต่อมา การหายตัวอย่างลึกลับของนายวันเฉลิม กลายเป็นกระแสสังคม ผู้คนจำนวนมากเรียกร้องด้วยความไม่พอใจ ลุกลามไปไกลถึงขนาดนิสิต-นักศึกษา และนักเรียน จากหลายสถาบันการศึกษา แม้กระทั่งเหล่าคนดัง ก็ต่างพากันออกแถลงการณ์ประณามเหตุดังกล่าว
ล่าสุด
"เล็ก ฮิวโก้" หรือ
"จุลจักร จักรพงษ์" นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง อดีตวงสิบล้อ ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง ที่ใช้ชื่อว่า hugolek ซึ่งเป็นภาพ
"ดำสนิท" แสดงออกซึ่งความเศร้าสลด ต่อกรณีการหายตัวไปของ
"ต้าร์ วันเฉลิม" พร้อมแคปชั่นภาษาอังกฤษที่ระบุ
ว่า
Meanwhile in Southeast Asia....#whereiswanchalerm?
ทั้งนี้ มีแฟนคลับจำนวนมากเข้ามาคอนเมนต์ชื่นชม และ ขอบคุณที่ร่วมออกมาแสดงออกต่อกรณีดังกล่าว
‘ปิยบุตร’ ชี้ รธน. 60 คือระเบิดเวลารอวัน ซัด ‘ส.ว.’ ยิ่งกว่าสภาผัวเมีย อวยรัฐบาลออกนอกหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_2217767
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2563 ที่อาคารไทยซัมมิท นาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ของสภาผู้แทนราษฎร จนถึงตอนนี้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ว่า อย่างที่เราทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกออกแบบมาให้แก้ไขได้ยากมาก ในทางปฏิบัติอาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่หากเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้วไม่ทำอะไรเลย ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก ดังนั้นการตั้ง กมธ. วิสามัญ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ผ่านอาจจะติดปัญหาจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้การทำงานล่าช้าออกไป แต่ตนคิดว่าหลังจากได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรให้ขยายเวลาการทำงานออกไปอีก 90 วัน ก็คงจะทำงานกันมากขึ้น
ในส่วนของตน และสมาชิกกมธ. สมัยที่เป็นสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ 6 คน ก็ตั้งใจที่จะเขียนข้อเสนอทั้งหมดที่เคยพูดในที่ประชุม ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย โดยจะรวบรวมเขียนออกมาเป็นเอกสารชุดหนึ่งที่แจกแจงว่าเราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นใดบ้าง ในท้ายที่สุดจะแก้ไขสำเร็จหรือไม่ ตนเชื่อว่า จะสำเร็จได้ต้องอาศัยพลังทางสังคมจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายร่วมกันดนดัน โดยเฉพาะการเข้าไปกดดันที่ส.ว.
เมื่อถามว่า จะประเมินการทำงานตลอด 1 ปี ของ ส.ว. อย่างไรบ้าง นาย
ปิยบุตร กล่าวว่า ตนคิดว่าเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ถือเป็นประจักษ์พยานที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะพี่น้องประชาชนได้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่า ส.ว. 250 คน ถูกสร้างมาเพื่ออะไร และหลังจากนั้นอีก 1 ปีก็ยิ่งเห็นชัด ว่า ส.ว. ทำงานอย่างไร ได้เข้าร่วมลงมติกี่ครั้ง หรือขาดประชุมกี่ครั้ง ซึ่งการลงมติแต่ละครั้งก็ไม่เคยมีเสียงแตก คือชนะกันศูนย์หมด
“ผมคิดว่าส.ว. ตามบทเฉพาะกาลทำให้ข้ออ้าง และเหตุผลทั้งหมดของการมี ส.ว. ในประเทศไทยหายไปหมดเลย สมัยก่อนเรามักจะถกเถียงกันว่า ส.ว. มีไว้ทำไม ควรจะมาจากการแต่งตั้งหรือเลือกตั้ง และก็มักจะกล่าวอ้างกันว่า หากส.ว. มาจากการเลือกตั้ง ก็จะได้สภาผัวสภาเมีย สภาพี่สภาน้อง แต่วันนี้ส.ว. 250 คน ก็ทำให้เห็นชัดแล้วว่า เป็นยิ่งกว่าสภาผัวสภาเมีย มันคือสภาเครือข่ายอำนาจของคณะรัฐประหาร เพราะตลอด 1 ปีที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลเลย หนำซ้ำบางคนก็อวยรัฐบาลจนออกนอกหน้า” นาย
ปิยบุตร กล่าว
JJNY : เตรียมอุดมออกแถลงการณ์ประณามอุ้มหาย/ฮิวโก้ขึ้นภาพดำสนิท/ปิยบุตรชี้รธน.60คือระเบิดเวลา/แหม่มโพธิ์ดำพักบุญ ซัดเอ๋
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4265563
จากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยชาวไทย หลังเคยถูก คสช.เรียกรายงานตัวและดำเนินคดีพรบ.คอมพ์ เนื่องจากเป็นแอดมินเพจ "กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" ซึ่งเป็นเพจเปิดโปงข้อเท็จจริงการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปี 53 หายตัวไปอย่างลึกลับ ด้วยวิธีการถูกลักพาตัวขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อเย็นวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ต่อมา การหายตัวอย่างลึกลับของนายวันเฉลิม กลายเป็นกระแสสังคม ผู้คนจำนวนมากเรียกร้องด้วยความไม่พอใจ และต้องการตามหาความจริง
ล่าสุดวันนี้ (6 มิ.ย.) นอกจากมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มนักศึกษา และประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีการเคลื่อนไหวจาก "นักเรียน" ในระดับมัธยมอีกด้วย ในนามกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่ใช้ชื่อว่า เกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] โดยได้ออกแถลงการณ์ ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
แถลงการณ์กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง]
กรณีการบังคับสูญหายผู้ลี้ภัยทางการเมืองของ “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์”
เนื่องด้วยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ที่ “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยถูกอุ้มหายไปจากหน้าที่พัก ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา การอุ้มหายครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “ราคา” ที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยจำต้องจ่าย
ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา มีคนไทยที่คาดว่าถูกบังคับให้สูญหายไปแล้วอย่างน้อย 86 คน ส่วนมากเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง กลุ่มชาติพันธุ์ และประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้รัฐบาล [เผล่ะจัง] นี้มีผู้ถูกบังคับให้สูญหายมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
การบังคับสูญหายมิใช่เรื่องที่พ้นขอบเขตความรับผิดชอบของรัฐบาล หากแต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรงที่จะต้องจัดการและต่อต้านอาชญากรรมที่ร้ายแรงนี้ เพื่อรับรองเสรีภาพในการแสดงออก และปกป้องสิทธิในชีวิตและร่างกายของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] ขอยืนหยัดในจุดยืนในการต่อต้าน [เผล่ะจัง] และอำนาจนิยม อันนอกจากจะเป็นต้นเหตุของความรุนแรงเช่นนี้แล้ว ยังเป็นสิ่งที่ขัดขวางการตรวจสอบโดยภาคประชาสังคมอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] จึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้
1. รัฐบาลต้องผลักดันพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับสูญหาย โดยต้องรับฟังความคิดเห็นและรับรองการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
2. รัฐบาลต้องสอบสวนคดีบังคับสูญหาย ทั้งคดีใหม่และคดีเก่าซึ่งไม่มีอายุความ โดยไม่ละเลยที่จะขอความร่วมมือจากรัฐบาลต่างประเทศ รวมถึงเยียวยาครอบครัวของเหยื่อต่อไป ทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง] ขอประณามการบังคับสูญหายและการเพิกเฉยของรัฐบาลที่มีต่ออาชญากรรมอันอุกฉกรรจ์ดังกล่าว ต้นกล้าแห่งประชาธิปไตยต้นนี้จะไม่ยอมให้ใครมาพรากสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเราไป ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมาในรูปแบบใดหรือมีใครอยู่เบื้องหลังก็ตาม
กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้ [เผล่ะจัง]
6 มิถุนายน 2563
คนดังก็มา! ฮิวโก้ ขึ้นภาพดำสนิท แคปชั่นสลด หลัง 'วันเฉลิม' ถูกอุ้มหาย
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4265990
คนดังก็มา! "ฮิวโก้ จุลจักร" ขึ้นภาพดำสนิท พร้อมแคปชั่นสลด หลัง 'วันเฉลิม' ถูกอุ้ม แฟนคลับแห่งชื่นชม ขอบคุณที่เป็นกระบอกเสียง
กรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยชาวไทย หลังเคยถูก คสช.เรียกรายงานตัวและดำเนินคดีพรบ.คอมพ์ เนื่องจากเป็นแอดมินเพจ "กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" ซึ่งเป็นเพจเปิดโปงข้อเท็จจริงการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปี 53 หายตัวไปอย่างลึกลับ ด้วยวิธีการถูกลักพาตัวขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อเย็นวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ต่อมา การหายตัวอย่างลึกลับของนายวันเฉลิม กลายเป็นกระแสสังคม ผู้คนจำนวนมากเรียกร้องด้วยความไม่พอใจ ลุกลามไปไกลถึงขนาดนิสิต-นักศึกษา และนักเรียน จากหลายสถาบันการศึกษา แม้กระทั่งเหล่าคนดัง ก็ต่างพากันออกแถลงการณ์ประณามเหตุดังกล่าว
ล่าสุด "เล็ก ฮิวโก้" หรือ "จุลจักร จักรพงษ์" นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง อดีตวงสิบล้อ ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง ที่ใช้ชื่อว่า hugolek ซึ่งเป็นภาพ "ดำสนิท" แสดงออกซึ่งความเศร้าสลด ต่อกรณีการหายตัวไปของ "ต้าร์ วันเฉลิม" พร้อมแคปชั่นภาษาอังกฤษที่ระบุ
ว่า
Meanwhile in Southeast Asia....#whereiswanchalerm?
ทั้งนี้ มีแฟนคลับจำนวนมากเข้ามาคอนเมนต์ชื่นชม และ ขอบคุณที่ร่วมออกมาแสดงออกต่อกรณีดังกล่าว
‘ปิยบุตร’ ชี้ รธน. 60 คือระเบิดเวลารอวัน ซัด ‘ส.ว.’ ยิ่งกว่าสภาผัวเมีย อวยรัฐบาลออกนอกหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_2217767
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2563 ที่อาคารไทยซัมมิท นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ของสภาผู้แทนราษฎร จนถึงตอนนี้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ว่า อย่างที่เราทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกออกแบบมาให้แก้ไขได้ยากมาก ในทางปฏิบัติอาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่หากเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้วไม่ทำอะไรเลย ก็คงจะไม่ถูกต้องนัก ดังนั้นการตั้ง กมธ. วิสามัญ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ผ่านอาจจะติดปัญหาจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้การทำงานล่าช้าออกไป แต่ตนคิดว่าหลังจากได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรให้ขยายเวลาการทำงานออกไปอีก 90 วัน ก็คงจะทำงานกันมากขึ้น
ในส่วนของตน และสมาชิกกมธ. สมัยที่เป็นสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ 6 คน ก็ตั้งใจที่จะเขียนข้อเสนอทั้งหมดที่เคยพูดในที่ประชุม ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย โดยจะรวบรวมเขียนออกมาเป็นเอกสารชุดหนึ่งที่แจกแจงว่าเราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นใดบ้าง ในท้ายที่สุดจะแก้ไขสำเร็จหรือไม่ ตนเชื่อว่า จะสำเร็จได้ต้องอาศัยพลังทางสังคมจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายร่วมกันดนดัน โดยเฉพาะการเข้าไปกดดันที่ส.ว.
เมื่อถามว่า จะประเมินการทำงานตลอด 1 ปี ของ ส.ว. อย่างไรบ้าง นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนคิดว่าเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ถือเป็นประจักษ์พยานที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะพี่น้องประชาชนได้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่า ส.ว. 250 คน ถูกสร้างมาเพื่ออะไร และหลังจากนั้นอีก 1 ปีก็ยิ่งเห็นชัด ว่า ส.ว. ทำงานอย่างไร ได้เข้าร่วมลงมติกี่ครั้ง หรือขาดประชุมกี่ครั้ง ซึ่งการลงมติแต่ละครั้งก็ไม่เคยมีเสียงแตก คือชนะกันศูนย์หมด
“ผมคิดว่าส.ว. ตามบทเฉพาะกาลทำให้ข้ออ้าง และเหตุผลทั้งหมดของการมี ส.ว. ในประเทศไทยหายไปหมดเลย สมัยก่อนเรามักจะถกเถียงกันว่า ส.ว. มีไว้ทำไม ควรจะมาจากการแต่งตั้งหรือเลือกตั้ง และก็มักจะกล่าวอ้างกันว่า หากส.ว. มาจากการเลือกตั้ง ก็จะได้สภาผัวสภาเมีย สภาพี่สภาน้อง แต่วันนี้ส.ว. 250 คน ก็ทำให้เห็นชัดแล้วว่า เป็นยิ่งกว่าสภาผัวสภาเมีย มันคือสภาเครือข่ายอำนาจของคณะรัฐประหาร เพราะตลอด 1 ปีที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลเลย หนำซ้ำบางคนก็อวยรัฐบาลจนออกนอกหน้า” นายปิยบุตร กล่าว