คืองี้ครับ
ผมเริ่มรู้สึกไม่สายตั้งแต่วันอังคารที่ 2 มิถุนายน ตอนเที่ยงๆร้อนๆหนาว แต่ไม่มีน้ำมูก ไอ เลย ปวดหัวร่างกายเพลียๆไม่มีแรง ก็เลยลองนอนพักดูสักคืน
ตื่นเช้ามาเช้าวันพุธ แฟนผมวัดไข้ผมจากปรอท สูงถึง 39.5 C
8.00 ตอนเช้าวันที่ 3 มิถุนายนก็เลยตัดสินใจไปหาหมอเพื่อตรวจ 9.00 พยาบาลวัดไข้สูงถึง 40.9 C คือผมเกือบจะเป็นลมเลย
เวลาต่อมาในตรวจ หมอสันนิษฐานว่าเป็นโรคหัด เพราะมีผื่นแดงขึ้นตามตัว จากนั้นเลยได้นอน โรงพยาบาลวันที่ 3 มิถุนายน ประมาณเวลา 12.00 น. จนถึงวันนี้ 5 มิถุนายน
*ไทม์ไลน์ตอนอยู่ในโรงบาล

#วันแรก ไข้สูงทั้งคืน ไม่ยอมลดเลย ปดหัวอย่างหนัก อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่อยากอาหาร แต่... ไม่มีอาการไอ อาเจียน น้ำมูกเลย
#วันที่สอง เช้ามาไข้ลดไม่มีไข้เลยแต่ยังเพลีย แต่พอหลังจาก 10.00 น.ตอนเช้า  ไปไข้ก็ขึ้นเป็น 38.5 C หมอเข้ามาดูอาการวันนี้วันแรก หมอบอกเป็นอีสุกอีใส ( วันแรกบอกหัด ) แต่ผมไม่มีผื่นแดง ไม่มีตุ่มใสเลย ไม่คันตรงไหนเลยด้วย เลยโตแย้งหมอแต่หมอก็ยังยืนยันว่าอีสุกอีใส จนถึงเวลา ตี สอง ของคืนวันที่ 4 ไข้ผมไม่มีแล้ว เหลือแต่เพลียนิดหน่อย
#วันสุดท้าย ไข้ผมไม่มีเลยเหลือแต่อาการเพลียนิดๆ ไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆใดๆ จนถึงตอนเที่ยง จนหมอให้ยากลับมาทานที่บ้านต่อ

#เข้าประเด็นเลย
พอถึงบ้านผมกินเข้าอาบน้ำหลับไปประมาณ 2 ชม ไข้กลับมาสูงจนถึง 39.5 C
ทีนี้ผมอยากจะรู้ว่าสรุปผมเป็นโรคอะไรกันแน่ครับ