สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการโอนบ้านให้ทุกท่านฟัง เผื่อมีบางคนผ่านมาและกำลังจะซื้อบ้านจะได้ใช้ไปเป็นแนวทาง
เริ่มต้นจากผมได้ไปดูบ้านและเกิดถูกใจขึ้นมาเป็นโครงการทั่วไปราคาประมาณ 2.5 ล้านบาทและได้ทำการจองต่อมาได้ทำการยื่นกู้ไประหว่างนั้นผมก็ได้จ้างวิศวกรมาตรวจรับบ้านไปพร้อมกัน ผลปรากฏว่ามีรายการแก้ไข 220 รายการ ฟังไม่ผิดครับ 220 รายการแต่เป็นรายการยิบย่อย กระเบื้อง น้ำซึมกำแพง ทำความสะอาด บลาๆๆ
หลังจากนั้นก็ไปส่งให้โครงการแก้ไขไป แต่ระหว่างนั้นเองทางธนาคารโทรมาแจ้งผลว่าผ่านแล้ว ได้ 90% ติดเกณฑ์ LTV บ้านหลังที่ 2 ธนาคารไม่ได้เร่งโอน แต่สอบถามว่าพร้อมโอนวันไหนสักพักเชลล์โทรมาถามว่าโอนบ้านเลยไหม ผมก็บอกว่ายังไม่โอนจนกว่าจะแก้ไขบ้านเสร็จ นางก็โอเคและวางสายไป
หลังจากวางสายไปนางก็โทรมาบอกอีกว่าถ้าโอนภายในเดือนนี้จะได้โปรโมชั่นคือ ส่วนลดคืนเป็นเงินสด 50K แอร์ไดกิ้น 1 ตัว 9000BTU พร้อมติดตั้ง ฟรีค่าดำเนินการทุกรายการ ซึ่งวันนี้ก็วันที่ 28/05/2020 แล้วครับนางบอกต้องตอบภายในบ่ายโมง พอได้ยินโปรโมชั่นผมก็หูผึ่งทันทีแต่ยังพอมีสติ บอกว่าขอคิดก่อนและวางสายไปตั้งสติ และสิ่งที่ผมทำคือ
1. สอบถามทุกคนว่าควรทำอย่างไร ส่วนมากบอกอย่าโอนเพราะจะมีผลเสียต่อการตามงานแก้ไข
2. ผมได้มาวิเคราะห์เอง และคิดว่างานซ่อมส่วนนั้นไม่ได้ร้ายแรงจึงตัดสินใจโทรถามวิศวกรตรวจบ้าน ว่าควรโอนดีไหม เขาตอบว่าโอนได้เพราะบ้าน stock จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เท่าที่ตรวจดูบ้านไม่ได้มีปัญหาอะไรหนัก (ข้อนี้ผมสบายใจมาก)
3. ผมคิดว่าจะทำอย่างไรดีให้เราไม่เสียเปรียบ ณ จุดนี้ คือ เราต้องทำเอกสารชัดเจน และ ตกลงกับเชลล์ ผมจึงตัดสินใจโทรไปหาเชลล์ว่า
3.1 ผมขอส่วนลดเป็น 60K และแกล้งพูดแหย่ว่าทำไมรีบให้โอน บ้านมีปัญหารึเปล่า มีอะไรผิดปกติรึเปล่า
3.2 ระบุในสัญญาว่างานซ่อมแซมส่วนที่เหลือในรายการวิศวกรตรวจบ้าน จะต้องผ่านทางคุณเชลล์ จะไม่ผ่านคอลเซนเตอร์เด็ดขาด นอกเหนือจากรายการนี้ลูกค้ายินยอมจะติดต่อคอลเซ็นเตอร์ตาม process ปกติหลังจากโอน
3.3 จะไม่เซ้นรับบ้านจนกว่าจะแก้ไขรายการในเอกสารหมด ถ้าไม่เป็นไปตามตกลงจะไม่เซ้นรับบ้านเด็ดขาด (ซึ่งโอนกับธนาคารแล้ว ในทางปฏิบัติเราสามารถปฏิเสธการรับบ้านได้ และฟ้องร้องว่าไม่ซื้อบ้านถึงแม้จะโอนไปได้ก็ตามหากร้ายแรง เพราะการโอนคือธนาคารโอนเงินให้กับทางโครงการแล้วซึ่งเคสผมบ้านโอเคแล้วมีแค่ Defect เล็กๆน้อยๆ ผมแค่จะใช้ลูกเล่นเอามาใช้ต่อรองกับเชลล์)
หากตกลงตามนี้บ่ายโมงเจอกัน...นางก็บอกขอคุยกับหัวหน้าก่อน สักพักโทรมาตอบว่าได้และตกลง
หลังจากผมโอนเสร็จ 2 วันและวิศวกรมาตรวจสอบบ้านรอบสองบอกว่า โครงการแก้ไขดี เรื่องน้ำซึมกำแพงหลังบ้านไม่มีแล้ว เพราะพิสูจน์จากฝนตกหนัก เหลือแค่ทำความสะอาดเก็บ defect ธรรมดาประมาณ 77 รายการและผมได้เข้าไปดูบ้านเองก็โอเครทุกอย่าง ผมจึงส่งให้คุณเชลล์ต่อ คุณเชลล์ยินดีให้บริการและผมตกลงว่าจะยังไม่เซ็นรับบ้านจนกว่าจะแก้ไขหมด คุณเธอก็ตอบตกลง
สุดท้ายนี้ที่มาตั้งกระทู้เล่า เจตนาคือ ไม่ได้อยากให้มองว่าการรับโอนบ้านก่อนแก้ไขเลยเป็นข้อเสีย แต่เราต้องฉลาดเล่นเกมส์กับเชลล์ด้วย เช่นถ้า defect ไม่ได้ยิ่งใหญ่และข้อเสนอการเร่งโอนมันดีอันนี้ผมแนะนำให้โอนได้เลยโดยอาจจะถามวิศวกรที่เราจ้างตรวจอีกรอบว่าผมอยากโอนเลยจะดีไหม
แต่ถ้ามันรุนแรงข้อเสนอต้องรุนแรงพอกันที่จะเอาเงินส่วนนั้นมาแก้ไขบ้านเองได้ หากเขาทำงานแก้ไขล่าช้าหลังโอน อันนี้ต้องพิจารณาให้ดี หรืออย่าพึ่งโอนเลยจะดีที่สุด ถ้าบ้านมี defect รุนแรงนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านมาอ่าน ร่วมแชร์ประสบกาณ์กันได้นะครับ
โอนรับบ้านก่อนตรวจรับบ้านเสร็จ มาแชร์ประสบการณ์กันครับ
เริ่มต้นจากผมได้ไปดูบ้านและเกิดถูกใจขึ้นมาเป็นโครงการทั่วไปราคาประมาณ 2.5 ล้านบาทและได้ทำการจองต่อมาได้ทำการยื่นกู้ไประหว่างนั้นผมก็ได้จ้างวิศวกรมาตรวจรับบ้านไปพร้อมกัน ผลปรากฏว่ามีรายการแก้ไข 220 รายการ ฟังไม่ผิดครับ 220 รายการแต่เป็นรายการยิบย่อย กระเบื้อง น้ำซึมกำแพง ทำความสะอาด บลาๆๆ
หลังจากนั้นก็ไปส่งให้โครงการแก้ไขไป แต่ระหว่างนั้นเองทางธนาคารโทรมาแจ้งผลว่าผ่านแล้ว ได้ 90% ติดเกณฑ์ LTV บ้านหลังที่ 2 ธนาคารไม่ได้เร่งโอน แต่สอบถามว่าพร้อมโอนวันไหนสักพักเชลล์โทรมาถามว่าโอนบ้านเลยไหม ผมก็บอกว่ายังไม่โอนจนกว่าจะแก้ไขบ้านเสร็จ นางก็โอเคและวางสายไป
หลังจากวางสายไปนางก็โทรมาบอกอีกว่าถ้าโอนภายในเดือนนี้จะได้โปรโมชั่นคือ ส่วนลดคืนเป็นเงินสด 50K แอร์ไดกิ้น 1 ตัว 9000BTU พร้อมติดตั้ง ฟรีค่าดำเนินการทุกรายการ ซึ่งวันนี้ก็วันที่ 28/05/2020 แล้วครับนางบอกต้องตอบภายในบ่ายโมง พอได้ยินโปรโมชั่นผมก็หูผึ่งทันทีแต่ยังพอมีสติ บอกว่าขอคิดก่อนและวางสายไปตั้งสติ และสิ่งที่ผมทำคือ
1. สอบถามทุกคนว่าควรทำอย่างไร ส่วนมากบอกอย่าโอนเพราะจะมีผลเสียต่อการตามงานแก้ไข
2. ผมได้มาวิเคราะห์เอง และคิดว่างานซ่อมส่วนนั้นไม่ได้ร้ายแรงจึงตัดสินใจโทรถามวิศวกรตรวจบ้าน ว่าควรโอนดีไหม เขาตอบว่าโอนได้เพราะบ้าน stock จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เท่าที่ตรวจดูบ้านไม่ได้มีปัญหาอะไรหนัก (ข้อนี้ผมสบายใจมาก)
3. ผมคิดว่าจะทำอย่างไรดีให้เราไม่เสียเปรียบ ณ จุดนี้ คือ เราต้องทำเอกสารชัดเจน และ ตกลงกับเชลล์ ผมจึงตัดสินใจโทรไปหาเชลล์ว่า
3.1 ผมขอส่วนลดเป็น 60K และแกล้งพูดแหย่ว่าทำไมรีบให้โอน บ้านมีปัญหารึเปล่า มีอะไรผิดปกติรึเปล่า
3.2 ระบุในสัญญาว่างานซ่อมแซมส่วนที่เหลือในรายการวิศวกรตรวจบ้าน จะต้องผ่านทางคุณเชลล์ จะไม่ผ่านคอลเซนเตอร์เด็ดขาด นอกเหนือจากรายการนี้ลูกค้ายินยอมจะติดต่อคอลเซ็นเตอร์ตาม process ปกติหลังจากโอน
3.3 จะไม่เซ้นรับบ้านจนกว่าจะแก้ไขรายการในเอกสารหมด ถ้าไม่เป็นไปตามตกลงจะไม่เซ้นรับบ้านเด็ดขาด (ซึ่งโอนกับธนาคารแล้ว ในทางปฏิบัติเราสามารถปฏิเสธการรับบ้านได้ และฟ้องร้องว่าไม่ซื้อบ้านถึงแม้จะโอนไปได้ก็ตามหากร้ายแรง เพราะการโอนคือธนาคารโอนเงินให้กับทางโครงการแล้วซึ่งเคสผมบ้านโอเคแล้วมีแค่ Defect เล็กๆน้อยๆ ผมแค่จะใช้ลูกเล่นเอามาใช้ต่อรองกับเชลล์)
หากตกลงตามนี้บ่ายโมงเจอกัน...นางก็บอกขอคุยกับหัวหน้าก่อน สักพักโทรมาตอบว่าได้และตกลง
หลังจากผมโอนเสร็จ 2 วันและวิศวกรมาตรวจสอบบ้านรอบสองบอกว่า โครงการแก้ไขดี เรื่องน้ำซึมกำแพงหลังบ้านไม่มีแล้ว เพราะพิสูจน์จากฝนตกหนัก เหลือแค่ทำความสะอาดเก็บ defect ธรรมดาประมาณ 77 รายการและผมได้เข้าไปดูบ้านเองก็โอเครทุกอย่าง ผมจึงส่งให้คุณเชลล์ต่อ คุณเชลล์ยินดีให้บริการและผมตกลงว่าจะยังไม่เซ็นรับบ้านจนกว่าจะแก้ไขหมด คุณเธอก็ตอบตกลง
สุดท้ายนี้ที่มาตั้งกระทู้เล่า เจตนาคือ ไม่ได้อยากให้มองว่าการรับโอนบ้านก่อนแก้ไขเลยเป็นข้อเสีย แต่เราต้องฉลาดเล่นเกมส์กับเชลล์ด้วย เช่นถ้า defect ไม่ได้ยิ่งใหญ่และข้อเสนอการเร่งโอนมันดีอันนี้ผมแนะนำให้โอนได้เลยโดยอาจจะถามวิศวกรที่เราจ้างตรวจอีกรอบว่าผมอยากโอนเลยจะดีไหม
แต่ถ้ามันรุนแรงข้อเสนอต้องรุนแรงพอกันที่จะเอาเงินส่วนนั้นมาแก้ไขบ้านเองได้ หากเขาทำงานแก้ไขล่าช้าหลังโอน อันนี้ต้องพิจารณาให้ดี หรืออย่าพึ่งโอนเลยจะดีที่สุด ถ้าบ้านมี defect รุนแรงนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านมาอ่าน ร่วมแชร์ประสบกาณ์กันได้นะครับ