คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้า จขกท เป็นลูกเรา จะบอกว่าเบรคก่อน อย่าเพิ่งเดินหน้าไปถึงเรื่องแต่งงาน เพราะที่คุณว่ามาทั้งหมดนั่นคือ เขาหวังให้ฝั่งคุณล้างหนี้ให้ มันมากไปหน่อย แถมในระยะยาว อาจมีทั้งพ่อตาแม่ยาย น้องเมีย ฯลฯ มาพึ่งพาแบบถาวรอีกด้วย
ในแง่กฏหมาย ทำธุรกรรมไว้เป็นชื่อใครก็คนนั้นรับไป ที่เป็นชื่อแฟน ก็ให้เขาล้มไปก่อน เจ้าหนี้ยึดทรัพย์ได้เท่าที่มี คือ ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของบ้าน ไม่มีเงิน หรือหลักทรัพย์อื่น ก็จบแค่นั้น แต่ถ้าแต่งงาน... คุณถูกมัดมือชกทันที ถึงกฏหมายจะให้โอกาสพิสูจน์ว่าทรัพย์สินเป็นของใคร แต่กระบวนการนี้ไม่ใช่เรื่องสนุก แถมยืดเยื้อเป็นปี ๆ ระหว่างนี้คุณกับพี่น้อง พ่อแม่ ได้ทะเลาะกันบ้านแตกแน่
หลานชายเรา เจอปัญหาเดียวกับคุณ สรุปด้วยการเอาฝ่ายหญิงมาอยู่ด้วย โดยไม่มีพิธีแต่ง ไม่จดทะเบียน ปกติเราจะสนับสนุนให้จดทะเบียน ไม่มีพิธีไม่เป็นไร แต่ยกเว้นกรณีนี้
ในแง่กฏหมาย ทำธุรกรรมไว้เป็นชื่อใครก็คนนั้นรับไป ที่เป็นชื่อแฟน ก็ให้เขาล้มไปก่อน เจ้าหนี้ยึดทรัพย์ได้เท่าที่มี คือ ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของบ้าน ไม่มีเงิน หรือหลักทรัพย์อื่น ก็จบแค่นั้น แต่ถ้าแต่งงาน... คุณถูกมัดมือชกทันที ถึงกฏหมายจะให้โอกาสพิสูจน์ว่าทรัพย์สินเป็นของใคร แต่กระบวนการนี้ไม่ใช่เรื่องสนุก แถมยืดเยื้อเป็นปี ๆ ระหว่างนี้คุณกับพี่น้อง พ่อแม่ ได้ทะเลาะกันบ้านแตกแน่
หลานชายเรา เจอปัญหาเดียวกับคุณ สรุปด้วยการเอาฝ่ายหญิงมาอยู่ด้วย โดยไม่มีพิธีแต่ง ไม่จดทะเบียน ปกติเราจะสนับสนุนให้จดทะเบียน ไม่มีพิธีไม่เป็นไร แต่ยกเว้นกรณีนี้
แสดงความคิดเห็น
ชีวิตหลังแต่งงานจะต้องรับผิดชอบหนี้สินของครอบครัวแฟน หรือไม่ครับ ?
กระทู้คำถามของผมมีอยู่ว่า หลังจากสมรสกับแฟนจะต้องรับผิดชอบหนี้สินของครอบครัวแฟนหรือไม่ครับ
ผมมีปัญหาหนักใจมากครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งปัจจุบันผมเพิ่งจะเรียนจบมหาวิทยาลัย(กำลังรอรับปริญญาบัตร) และแฟนของผมซึ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว2ปี(ผมซิ่วประมาณ2ปีครับ) ผมมีธุรกิจครอบครัว(กงสี) ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดีแต่ก็มีภาระหนี้สินอยู่บ้างซึ่งจะเป็นหนี้สินเงินหมุนเวียนในธุรกิจ ถ้ามองเป็นภาพรวม หนี้สินมีน้อยกว่าสินค้าในสต็อก แต่จำเป็นต้องมีหนี้สินเพื่อสภาพคล่องทางการเงิน พ่อแม่ของผมควบคุมธุรกิจเบ็ดเสร็จ ผมมีพี่3 ทุกคนมีครอบครัวของตนเอง พี่ของผมเข้ามาช่วยในธุรกิจ2 คน (ซึ่งอยู่คนละสาขากัน)และอีกคนทำธุรกิจส่วนตัว ผมซึ่งเป็นน้องเล็กสุด ด้วยอายุพ่อแม่ที่อยู่ในวัยเกษียณแล้ว จึงมีความหวังว่าจะให้ผมเข้ามาสืบทอดหน้าที่(เนื่องจากเป็นกงสี) และแบ่งหน้าที่กันกับพี่ๆ ซึ่งตอนนี้ผมกำลังพยายามเรียนรู้งานครับ
ประเด็นของผมคือเรื่องมีอยู่ว่า แฟนของผมได้ถามถึงเรื่องอนาคต(แต่งงาน) ซึ่งบอกตรงๆเลยว่าผมยังไม่พร้อมเลยครับ เพราะว่าผมยังไม่มีความมั่นคงในชีวิตยังขอเงินพ่อกับแม่อยู่เลยครับ บ้านผมกับแฟนห่างกันไกล แฟนผมอยู่ในเมือง ผมอยู่ต่างอำเภอ ครอบครัวของแฟนผมมีธุรกิจส่วนตัวเช่นกัน เป็นธุรกิจประเภทรับเหมาทำตามงานที่ประมูลได้ และก็มีหนี้สินในการใช้หมุนเวียนธุรกิจเช่นกัน(แต่ว่าพ่อแม่ของแฟนใช้ชื่อแฟนในการขอสินเชื่อและทรัพย์สินส่วนนึงประมาณ60%เป็นชื่อแฟนโดยเกือบ40%ใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อ) ซึ่งทางครอบครัวแฟน แฟนผมโตสุดครับ และมีน้องอีก2 คน ทางครอบครัวแฟนกำลังประสบปัญหาเนื่องจากไม่มีงานในช่วงนี้และส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน ผมอยากทราบว่าในความเป็นจริง หนี้สินก้อนนี้ใครจะต้องเป็นคนรับผิดชอบครับ?? (ธุรกิจของครอบครัวแฟนใช้ชื่อแฟนทั้งหมด แต่พ่อแม่บริหาร แฟนผมไม่มีความรู้ด้านนี้และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวใดๆกับบริษัท) ทางพ่อแม่ของแฟนก็อยากให้แฟนแต่งงานและอาจจะขอสินสอดเพื่อใช้เข้ามาช่วยเกี่ยวกับภาระดังกล่าว ผมอยากทราบว่าการกระทำแบบนี้ เป็นเรื่องที่ถูกต้องปกติ หรือแปลกครับ? ผมกำลังสับสนมากครับ แฟนผมบอกตลอดว่า อยากให้มีคนมาช่วยเรื่องนี้ ซึ่งผมก็คิดมาก มากเลยครับ เพราะครอบครัวผมก็มีภาระ และผมก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่ พักจากการทำงานได้แล้วได้ใช้ชีวิตสบายๆจากเงินที่ท่านหามา แต่ท่านบอกกับลูกๆว่า ท่านขอสะสางทุกอย่างให้เคลียร์และจะวางมือให้บริหารทุกอย่าง100% ครับ(ที่ทำแบบนี้เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสร้างภาระให้กับลูกๆครับ) ผมอยากทราบว่าความจริงแล้ว ถ้าเป็นสถานการณ์แบบนี้ ผมต้องรับผิดชอบครอบครัวแฟนหรือไม่ครับ แล้วสิ่งที่ผมทำเพื่อความมั่นคงก่อนที่จะแต่งงานเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ครับ??