คิดยังไงกับการเรียกร้องให้ไอดอลแสดงจุดยืนเรื่องblmกันคะ?

กระทู้คำถาม
บอกก่อนว่าเราไม่ได้รู้เรื่องนี้ลึกอะไรมาก แต่เห็นผ่านตาทั้งไทยทั้งต่างชาติออกมาพูดประมาณว่าอยากให้ไอดอลออกมาพูดหรือแสดงจุดยืนหน่อย ซึ่งวงดังๆก็จะถูกพาดพิงถึงเยอะหน่อย ทุกคนคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้คะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ไปอ่านความเห็นนึงฝั่งอินเตอร์มา เขายกกรณีการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในเกาหลี ประท้วงฮ่องกง พระจุดไฟเผาตัวเองทั้งเป็นประท้วง การเรียกร้องความเป็นของเหยื่อห้อง nth room เกาหลี หรือการประท้วงในหลายๆ ประเทศที่มีรุนแรง และมีผู้เสียหาย เสียชีวิตเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีใครเรียกร้องให้ไอดอลออกมาแสดงความคิดเห็นเลย

หรือเพราะเรื่องไม่ได้เกิดที่อเมริกา เลยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องหลัก? หรือเพราะรุนแรงไม่เท่า? ซึ่งเราว่าก็รุนแรงหมด

จริงอยู่ว่าไม่จำเป็นต้องอยู่อเมริกา หรือเป็นคนผิวดำ ถึงจะสามารถร่วมประท้วงเพื่อคนผิวดำได้ แต่ก็คิดว่าควรทำให้เป็นมาตรฐาน

การที่คนไหนจะออกมาเรียกร้องด้วยก็ถือว่าเทคแอคชั่นดี แต่ถ้าใครไม่ออกมา ก็จะไปว่าเขาไม่ได้ ใครจะรู้ว่าเขาทำอะไรเบื้องหลังบ้าง?

สำหรับเมนเรา บังทัน

คนอาจจะมองว่าทำไมบังทันเป็นแอมบาสเดอร์ยูเอ็นทำไมไม่ออกมาซักที

โดยลืมมองมุมกลับว่า ตัวเองพึ่งรู้สึกตัวเอาตอนมีการสูญเสียของจอร์จ ฟลอยด์แล้วก็มีแฮชแท็กในตอนนี้รึเปล่า (อันนี้ใส่เป็นเชิงคำถามนะ บางคนอ่านไม่แตก หาว่าเรา  Bold of you to assume that คนทั่วไปไม่สนใจเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เชื้อชาติ และสิทธิมนุษยชนก่อนวงบอยแบนด์เกาหลีจะมาเบิกเนตร > เราไม่ได้เหมา แต่พูดในเชิงคำถามถึงบางคน ถ้าใครไม่เป็นก็แสดงตัวเอาค่ะ)

ในขณะที่บังทันตระหนักถึงความเท่าเทียม เรื่องกำแพงเชื้อชาติ ภาษา รวมถึงเพศ  ความแตกต่างๆ และร่วมรณรงค์เรื่องนี้มาก่อนหน้านั้นแล้ว #SpeakYourself มีมาตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ

อาจจะไม่ได้เจาะจงไปร่วมการประท้วงที่ไหน แต่การระดมทุน  แบ่งรายได้อัลบั้มเข้ายูนิเซฟ เนื้อหาเพลงเพื่อเยาวชน สปีชต่าง ๆ นั่นคือรูปธรรมที่มาก่อนเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น

บังทันทำมาก่อนแล้ว (เจอทวีตนึง พูดถึงความเห็นเราว่า Bold of you to assume that คนทั่วไปไม่สนใจเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เชื้อชาติ และสิทธิมนุษยชนก่อนวงบอยแบนด์เกาหลีจะมาเบิกเนตร แต่ก็นะ ติ่งเกาหลี ทุกวันนี้แค่ปีนเก้าอี้ขึ้นไปหยิบกล้วยได้ก็เก่งแล้ว > เราขอแจงว่าเขาอาจจะอาจอ่านไม่แตก ก่อนในที่นี้ เราอธิบายขยายในจุดที่ก่อนการเรื่องจอร์จ และก่อนจะมีคนมาเรียกร้องให้ไอดอลแสดงจุดยืนเรื่องนี้ ส่วนใครพึ่งจะมารณรงค์ตอนนี้ ก็มีนะคะ คนจะรณรงค์มาก่อนก็มีค่ะ แต่เราพูดถึงกรณี ตอนนี้ ว่าบังทันเองก็ตระหนักเรื่องนี้ ก่อนจะเกิดเหตุการจอร์จ ฟลอยด์ ส่วนคนอื่นจะสนใจเรื่องนี้เหมือนกัน มั้ย อีกเรื่องค่ะ)

และยัง ‘ทำอยู่’

จริงอยู่ว่าเสียงของคนดังมีความหมาย แต่ก็ไม่อยากให้ไปกดดันว่าใครต้องออกมา เพราะสุดท้ายแล้ว มันก็คือการแบ่งแยกแบบไม่เท่าเทียมซ้ำซ้อนไปอีก ว่าเสียงของคนดัง มีน้ำหนักกว่าเสียงคนเท่าไป ถ้าใครต้องการเรียกร้องตรงนี้ รณรงค์ในส่วนของตนเองก็พอ โดยไม่ต้องไปกดดันใครจะดีกว่า เราคิดเห็นประมาณนี้

ปล. เราตอบความเห็นคนมาทวีตแย้งในนี้นะคะ เพราะเราแสดงความคิดเห็นในนี้
ความคิดเห็นที่ 13
พอมีโซเชียล ทุกคนก็ดูอินกับทุกเรื่องบนโลกไปหมด ต้องมีจุดยืนกับทุกอย่าง โดยไม่คิดว่า บางทีบางคนอาจไม่สะดวกที่จะศึกษา/อินทุกเรื่อง

ทุกการประท้วงมันไม่ได้มีแค่สารที่อยากสื่อรึเปล่า? มันมีรายละเอียดการแสดงออกอื่นๆ ด้วย

จุดยืนเรื่องความเท่าเทียมทางสีผิวมันดีนะ เรื่องความโกรธแค้นของการเรียกร้องความเป็นธรรมต่อการจับกุมคนดำซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่ควรถูกมองข้าม

แต่การจะแสดงออกว่าสนับสนุนหรือค้านอะไร มันต้องมีความเข้าใจมากกว่าอ่านจากโซเชียลรึเปล่า? ก่อนจะแสดงจุดยืนอะไร เราต้องรับสารทั้งสองฝั่ง เข้าใจภูมิหลังของเรื่องจนตกผลึกได้ว่า ควรมีความคิดเห็นอย่างไร

ขนาดการเมืองในประเทศ บางเรื่องเรายังรู้ไม่จริง รู้ที่ผิดๆ มาเลย อันนี้คือข้ามไปนอกประเทศเลยนะ

นี่ยังไม่นับรวมว่า อ้าว ถ้ามีจุดยืนเรื่องblm เพราะเอาวัฒนธรรมฮิปฮอปมาใช้ ไปทำตลาดบ้านเค้า แล้วอย่างฮ่องกงล่ะ ทำไมไม่แสดงจุดยืนอะไร ไปเล่นคอนบ้านเค้ามานิ งี้
ความคิดเห็นที่ 2
เห็นบางคนพูดกดดันจนถึงขั้นด่าทอ เราว่ามันคือการเรียกร้องสิทธิที่อยู่บนการละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของศิลปินเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 10
ควรออกมาพูดค่ะ หลายคน/หลายวงก็ได้ benefit + หากินกับ black culture นะ แค่ออกมาโพสรูป เรียกร้องให้ติดแท็กก็เป็นอะไรที่คาดหวังน้อยสุดแล้วเนี่ย

บางคนบอกละเมิดสิทธิคนอื่น ไม่อะ ไม่ละเมิด เพราะตอนนี้การเงียบ หรือบอกว่าเราเป็นกลางนะ ไม่ช่วยอะไร และถ้าคุณมีพาวเวอร์ มีแพลต์ฟอร์ม ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องออกมาพูด

และสำหรับเอเชียบ้านเรา บางคนอาจจะบอกว่าเฮ้ย นั่นอเมริกา ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบ้านเมืองคนอื่น มันไกลตัวไป แหม่ คุณพี่คะ เหลือบมองประท้วงฮ่องกง หนักกว่าอีกมั้ย
ถ้าไม่แสดงจุดยืนตอนนี้ ต่อไปก็ประเทศเรานี่ละค่ะที่จะโดนเป็นรายต่อไป (บ้านพี่เมืองน้องอะเนอะ 55555)

การแสดงจุดยืน blm ไม่ใช่กระแสชั่วครั้งชั่วคราว แต่มันมีอะไรมากไปกว่านั้น มันส่งผลกระทบต่อจุดยืนเรื่องนี้ไปทั่วโลกนะ ประชาชน vs อำนาจรัฐ ถ้าเรื่องนี้ยังเงียบ ต่อไปไม่ต้องห่วงถึงศิลปิน พวกเราแฟนคลับปชชธรรมดานี่แหละจะถูกปิดปากเงียบเป็นรายต่อไป

There comes a time when silence is betrayal
—Martin Luther King Jr.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่