ตอนดึก ๆ เบอร์จากหลานชายโทรมาหลายสาย รับสายมีคำถามคือ "น้าครับผมมีคะแนนพอจะเลือก มหาลัยได้หลายที่และหลายสาขาเลยครับ น้าคิดว่าผมควรเลือกเรียนอะไรดี เพื่อให้ตอบโจทย์กับทำงานในประเทศเราในยุคนี้และในอนาคต " คำตอบจากเรา ตอบเลยอย่างมันใจ "ไม่รู้เหมื่อนกัน" และก็ตามไปด้วยบทความอธิบายให้หลานฟังยาวเลย ว่าในอนาคตเพียงแค่การศึกษา วิชาความรู้ทีหลานจะได้มาจาก โรงเรียน มหาลัยทีจะได้เรียนในอนาคตรับรอง ได้เลยไม่เพียงพอแน่นอนเพราะสถานการณ์ต่างๆความเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี การสื่อสาร อะไรต่อมิอะไร มันเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและ เร็วมาก ๆ
แล้วก็ยกตัวอย่าง บทความกฎของมัวร์ให้หลานฟัง ที่ลุงกอร์ดอน มัวร์ แก่บอกว่าทีผ่านมาความเปลี่ยนแปลงของโลกจะเป็นอีกเท่าตัวของประมาณทุก ๆ สองปี เพราะ ปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม จะมีความสามารถเป็นอีกเท่าตัวของประมาณทุก ๆ สองปีและจะอาจจะมากกว่าสองเท่าตัวในอนาคต
แล้วก็บอกหลานชายไปว่าดังนั้น สำคัญสุดตอนนี้ และอนาคตก็คงเป็นเรื่องของ "ทักษะการใช้ชวิตินะหลานและ ทักษะการทำงาน ทักษะการเอาตัวรอด ดังนั้นหลานอย่ามั่วแต่ เรียนต้องมั่นฝึกทำงาน ทำโปรเจ็คต่าง ๆ ทีน้าก็ไม่รู้เหมื่อนกันว่าหลานถนัดอะไร ก็ลองๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิด ทักษะ เช่น ช่วงว่างเรียนก็ ลองไปขับรถส่งอาหาร หรือไปทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว หรือทำโปรเจ็คเอง ก็ลองกันไปเพื่อให้เกิดสิ่งทีเรียกว่าทักษะ
สรุปก็บอกหลานไปว่า อย่างไปเครียดกับเรื่องทีว่าจะเรียนอะไรดี ก็เรียนหลายๆ อย่างคู่กันไปแล้วกัน เพื่อได้ฝึกทักษะหลายๆ ด้านเพื่อรองรับอนาคต ทีไม่รู้ใครจะคาดการณ์ได้ และก็บอกหลานว่าหลายคนที มีความสำเร็จในหน้าทีการงานดี ๆ ก็ไม่ได้ใช้วิชาความรู้จาก มหาลัยเลย และบางคนก็สำเร็จในหน้าที่การงานก็ไม่ตรงกับสาขาที เรียนมาด้วย โอเคนะ นอนหลับพักผอนเยอะๆ ละรู้ว่าเครียเยอะช่วงสำคัญในชิวิตลูกผู้ชาย คือจะเรียนไหนดี จะต้องลุ่นเลือกทหาร จะหางานทำไหนดี จะต้องบวชแทนคุณพ่อแม่ จะหาเมียให้ถูกใจแม่
เลือกเรียนด้านไหนกันดีเพื่อจะตอบโจทย์กับโลกยุคนี้และอนาคต พวกคุณคิดว่าอย่างไร
แล้วก็ยกตัวอย่าง บทความกฎของมัวร์ให้หลานฟัง ที่ลุงกอร์ดอน มัวร์ แก่บอกว่าทีผ่านมาความเปลี่ยนแปลงของโลกจะเป็นอีกเท่าตัวของประมาณทุก ๆ สองปี เพราะ ปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวม จะมีความสามารถเป็นอีกเท่าตัวของประมาณทุก ๆ สองปีและจะอาจจะมากกว่าสองเท่าตัวในอนาคต
แล้วก็บอกหลานชายไปว่าดังนั้น สำคัญสุดตอนนี้ และอนาคตก็คงเป็นเรื่องของ "ทักษะการใช้ชวิตินะหลานและ ทักษะการทำงาน ทักษะการเอาตัวรอด ดังนั้นหลานอย่ามั่วแต่ เรียนต้องมั่นฝึกทำงาน ทำโปรเจ็คต่าง ๆ ทีน้าก็ไม่รู้เหมื่อนกันว่าหลานถนัดอะไร ก็ลองๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิด ทักษะ เช่น ช่วงว่างเรียนก็ ลองไปขับรถส่งอาหาร หรือไปทำงานเป็นพนักงานชั่วคราว หรือทำโปรเจ็คเอง ก็ลองกันไปเพื่อให้เกิดสิ่งทีเรียกว่าทักษะ
สรุปก็บอกหลานไปว่า อย่างไปเครียดกับเรื่องทีว่าจะเรียนอะไรดี ก็เรียนหลายๆ อย่างคู่กันไปแล้วกัน เพื่อได้ฝึกทักษะหลายๆ ด้านเพื่อรองรับอนาคต ทีไม่รู้ใครจะคาดการณ์ได้ และก็บอกหลานว่าหลายคนที มีความสำเร็จในหน้าทีการงานดี ๆ ก็ไม่ได้ใช้วิชาความรู้จาก มหาลัยเลย และบางคนก็สำเร็จในหน้าที่การงานก็ไม่ตรงกับสาขาที เรียนมาด้วย โอเคนะ นอนหลับพักผอนเยอะๆ ละรู้ว่าเครียเยอะช่วงสำคัญในชิวิตลูกผู้ชาย คือจะเรียนไหนดี จะต้องลุ่นเลือกทหาร จะหางานทำไหนดี จะต้องบวชแทนคุณพ่อแม่ จะหาเมียให้ถูกใจแม่