มาฟังอันนี้กันครับ
https://www.facebook.com/100013720748355/videos/892434847890532/ ( ด้วยความที่ไม่ใช่คลิป Youtube เลยแปะไม่ได้ ต้องกดไปฟังเอง ขออภัยด้วย )
บุญถาวร ปัญญามณีโชติ ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายพรรคการเมือง ( และมีงานรับเหมาก่อสร้าง ) อัดคลิปไว้วันที่ 5 พ.ค. 2563 ช่วงนั้นรัฐบาลกลางให้ขายเหล้าได้แล้ว แต่มีบางจังหวัดต่ออายุคำสั่งไม่ให้ขาย ( ตอนนี้น่าจะขายได้ทุกจังหวัดแล้ว ) บอกว่าการดื่มเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ผมตัดมาบางตอนนะครับ
“หลายคนบอกว่าแจกเงินไป 5,000 บาทก็ไปซื้อเหล้า เป็นสิทธิ์ของเขา ไปห้ามชาวบ้านไม่ได้ ชาวบ้านเขาอยู่อย่างนี้ มีวัฒนธรรมความเป็นมาอย่างนี้ยาวนาน เขาได้รับค่าแรงจากผม ผมจ่ายค่าแรง 400 บาท เขาตุนไว้เลย 60 บาทในมือ ทนายครับ จ่ายค่าแรงงานผมเอาเป็นแบงก์ 20 แบงก์ 100 ได้ไหมครับ ทำไม จะได้แบ่งเงิน ไม่ต้องไปอะไรมากมาย ทำไม ผมแบ่งส่วนหนึ่ง 340 บาทให้ภรรยาผมครับ แล้ว 60 บาทไปไหน ผมซื้อเหล้าขาวขวดน้อยนั่งทาน ทำไม ผมก็ไปซื้อที่ร้านแล้วก็ไปนั่งทานที่ไร่นาตัวเอง หลังจากเลิกงาน 5 โมงเย็นที่ผม เขาจะไปทำอะไร เก็บกวาดพื้นที่ที่จะเพาะปลูก ถามว่าเขามั่วสุมไหม ไม่ได้มั่วสุม เขามีความสุขไหม มีความสุข ใช้ชีวิตยาวนานแบบนี้หลายปีต่อๆ กัน แล้วการซื้อเหล้าขาวขวดน้อย 1 ขวด ขวดเล็กนะครับ รัฐได้ภาษี ชาวบ้านได้ความสุข ไม่ใช่ว่าผมส่งเสริมให้ประชาชนกินเหล้านะครับ เป็นสิทธิ์ของเขา เขามีสิทธิเสรีภาพ” ( นาทีที่ 09.30-10.50 )
“คนกินเหล้าถ้าเขาไม่กินเขาก็ตาย เป็นสิทธิ์ของเขา คุณใช้กฎหมายข้อไหนมาห้ามเขากินเหล้า มีกฎหมายห้ามหรือ เมื่อคุณไม่ได้ห้ามกินเหล้าเขามีสิทธิ์ของเขา เขามีสิทธิ์ดำเนินชีวิตแบบไหนก็ได้ ในรูปแบบภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คุณอย่าไปล่วงละเมิดสิทธิ์ของเขา เขาจะกินให้เขากินไป เมื่อเขาได้เงินค่าแรงมา 350 บาท ถ้าเขาไม่ให้ลูกเมียเขา มันชีวิตของเขา คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกำหนดชีวิตเขาว่าต้องเอาเงิน 350 บาทไปให้เมียทุกบาททุกสตางค์ มีสิทธิ์หรือ? ไม่มี ปล่อยเขาครับ ธรรมชาติ” (นาทีที่ 15.40-16.30)
“วัฒนธรรมเขาให้กินมาแบบนี้ มันเป็นความเป็นอยู่ของเขา ห้ามเขาไม่ได้หรอกครับ ผมไม่สามารถไปห้ามไปโน้มน้าวเขาได้ ทนายครับ อย่ามาพูดเรื่องส่วนตัวผม ผมมารับจ้างทนายฉาบปูนก่ออิฐ ผมทำตามหน้าที่ ทำสวยไหม สวย แต่อย่ามาสอนให้กินเหล้า เป็นสิทธิ์ของผม ผมเป็นช่าง เราเงียบนะครับ เขาพูดถูก จิตวิญญาณ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เขามีค่า เราไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายชีวิตเขา เดี๋ยว 8 โมงเช้ามา 10 คน มาทำงานแล้ว คนก่ออิฐก็ก่ออิฐ คนเทปูนก็เทปูน เย็นมาผมจ่ายเงิน บางคนก็กลับไปกวาดใบไม้ เขาก็แวะซื้อเหล้าที่ร้านกองทุน 60 บาทถือเหน็บใส่รถ เงิน 340 บาทเขาก็ให้เมีย อีก 60 บาทซื้อเหล้าขาวขวดน้อยหนึ่งไปที่นา จิบไปกวาดใบไม้ไป เตรียมแปลงนาไป นี่คือธรรมชาติของคน คนที่มีเงินเป็นร้อยล้าน หมื่นล้าน พันล้าน มีความสุขไหม มี แต่เขามีความสุขแบบของเขา นี่คือชีวิตชาวบ้าน ถ้าคุณมาอยู่คุณจะเข้าใจ” (นาทีที่ 18.25-19.42)
---------------------------------------------------
ถ้าถามโดยส่วนตัวผม ผมเห็นด้วยกับทนายแกนะ ถ้าไม่ดื่มแล้วไปขับรถ เมาแล้วมีเรื่องตีกับคนอื่น หรือยังไม่ถึงขั้น Alcoholism ( คือดื่มแค่ในระดับสังสรรค์ ) การดื่มมันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล และจะรำคาญทุกครั้งเวลาเห็นใครบอกว่าเสียดายเงินโดยเฉพาะในกลุ่มรากหญ้าหาเช้ากินค่ำ ทำไมไม่ออม-ไม่ลงทุน ซึ่งก็ต้องบอกว่าคนเรามันก็ต้องพักผ่อน มันมีข้อค้นพบว่าเหล้าคือการระบายความเครียดที่ราคาถูกที่สุด ความเครียดจากชีวิตจริงที่ถูกกดทับจากสารพันปัญหา คนชั้นล่างและกลางค่อนล่าง ไม่ได้มีเงินไปเดินห้าง ดูหนัง ยิ่งการลางานยาวๆ ไปเที่ยวนี่แทบเป็นไปไม่ได้ ถ้าเทียบกับคนชั้นกลางบนหรือคนชั้นสูง เขาก็เลือกปลดปล่อยผ่อนคลายด้วยการดื่ม มันก็เท่านั้น
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
ปล.เรื่องความเห็นของรากหญ้าต่อการดื่มเพื่อปลดปล่อย มันมีคนไปทำวิจัยจริงๆ นะ ผมแปะไว้ในกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/38312604
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัญหาสังคมหรือเป็นสิทธิส่วนบุคคล?
https://www.facebook.com/100013720748355/videos/892434847890532/ ( ด้วยความที่ไม่ใช่คลิป Youtube เลยแปะไม่ได้ ต้องกดไปฟังเอง ขออภัยด้วย )
บุญถาวร ปัญญามณีโชติ ทนายความและที่ปรึกษากฎหมายพรรคการเมือง ( และมีงานรับเหมาก่อสร้าง ) อัดคลิปไว้วันที่ 5 พ.ค. 2563 ช่วงนั้นรัฐบาลกลางให้ขายเหล้าได้แล้ว แต่มีบางจังหวัดต่ออายุคำสั่งไม่ให้ขาย ( ตอนนี้น่าจะขายได้ทุกจังหวัดแล้ว ) บอกว่าการดื่มเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ผมตัดมาบางตอนนะครับ
“หลายคนบอกว่าแจกเงินไป 5,000 บาทก็ไปซื้อเหล้า เป็นสิทธิ์ของเขา ไปห้ามชาวบ้านไม่ได้ ชาวบ้านเขาอยู่อย่างนี้ มีวัฒนธรรมความเป็นมาอย่างนี้ยาวนาน เขาได้รับค่าแรงจากผม ผมจ่ายค่าแรง 400 บาท เขาตุนไว้เลย 60 บาทในมือ ทนายครับ จ่ายค่าแรงงานผมเอาเป็นแบงก์ 20 แบงก์ 100 ได้ไหมครับ ทำไม จะได้แบ่งเงิน ไม่ต้องไปอะไรมากมาย ทำไม ผมแบ่งส่วนหนึ่ง 340 บาทให้ภรรยาผมครับ แล้ว 60 บาทไปไหน ผมซื้อเหล้าขาวขวดน้อยนั่งทาน ทำไม ผมก็ไปซื้อที่ร้านแล้วก็ไปนั่งทานที่ไร่นาตัวเอง หลังจากเลิกงาน 5 โมงเย็นที่ผม เขาจะไปทำอะไร เก็บกวาดพื้นที่ที่จะเพาะปลูก ถามว่าเขามั่วสุมไหม ไม่ได้มั่วสุม เขามีความสุขไหม มีความสุข ใช้ชีวิตยาวนานแบบนี้หลายปีต่อๆ กัน แล้วการซื้อเหล้าขาวขวดน้อย 1 ขวด ขวดเล็กนะครับ รัฐได้ภาษี ชาวบ้านได้ความสุข ไม่ใช่ว่าผมส่งเสริมให้ประชาชนกินเหล้านะครับ เป็นสิทธิ์ของเขา เขามีสิทธิเสรีภาพ” ( นาทีที่ 09.30-10.50 )
“คนกินเหล้าถ้าเขาไม่กินเขาก็ตาย เป็นสิทธิ์ของเขา คุณใช้กฎหมายข้อไหนมาห้ามเขากินเหล้า มีกฎหมายห้ามหรือ เมื่อคุณไม่ได้ห้ามกินเหล้าเขามีสิทธิ์ของเขา เขามีสิทธิ์ดำเนินชีวิตแบบไหนก็ได้ ในรูปแบบภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คุณอย่าไปล่วงละเมิดสิทธิ์ของเขา เขาจะกินให้เขากินไป เมื่อเขาได้เงินค่าแรงมา 350 บาท ถ้าเขาไม่ให้ลูกเมียเขา มันชีวิตของเขา คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกำหนดชีวิตเขาว่าต้องเอาเงิน 350 บาทไปให้เมียทุกบาททุกสตางค์ มีสิทธิ์หรือ? ไม่มี ปล่อยเขาครับ ธรรมชาติ” (นาทีที่ 15.40-16.30)
“วัฒนธรรมเขาให้กินมาแบบนี้ มันเป็นความเป็นอยู่ของเขา ห้ามเขาไม่ได้หรอกครับ ผมไม่สามารถไปห้ามไปโน้มน้าวเขาได้ ทนายครับ อย่ามาพูดเรื่องส่วนตัวผม ผมมารับจ้างทนายฉาบปูนก่ออิฐ ผมทำตามหน้าที่ ทำสวยไหม สวย แต่อย่ามาสอนให้กินเหล้า เป็นสิทธิ์ของผม ผมเป็นช่าง เราเงียบนะครับ เขาพูดถูก จิตวิญญาณ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เขามีค่า เราไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายชีวิตเขา เดี๋ยว 8 โมงเช้ามา 10 คน มาทำงานแล้ว คนก่ออิฐก็ก่ออิฐ คนเทปูนก็เทปูน เย็นมาผมจ่ายเงิน บางคนก็กลับไปกวาดใบไม้ เขาก็แวะซื้อเหล้าที่ร้านกองทุน 60 บาทถือเหน็บใส่รถ เงิน 340 บาทเขาก็ให้เมีย อีก 60 บาทซื้อเหล้าขาวขวดน้อยหนึ่งไปที่นา จิบไปกวาดใบไม้ไป เตรียมแปลงนาไป นี่คือธรรมชาติของคน คนที่มีเงินเป็นร้อยล้าน หมื่นล้าน พันล้าน มีความสุขไหม มี แต่เขามีความสุขแบบของเขา นี่คือชีวิตชาวบ้าน ถ้าคุณมาอยู่คุณจะเข้าใจ” (นาทีที่ 18.25-19.42)
---------------------------------------------------
ถ้าถามโดยส่วนตัวผม ผมเห็นด้วยกับทนายแกนะ ถ้าไม่ดื่มแล้วไปขับรถ เมาแล้วมีเรื่องตีกับคนอื่น หรือยังไม่ถึงขั้น Alcoholism ( คือดื่มแค่ในระดับสังสรรค์ ) การดื่มมันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล และจะรำคาญทุกครั้งเวลาเห็นใครบอกว่าเสียดายเงินโดยเฉพาะในกลุ่มรากหญ้าหาเช้ากินค่ำ ทำไมไม่ออม-ไม่ลงทุน ซึ่งก็ต้องบอกว่าคนเรามันก็ต้องพักผ่อน มันมีข้อค้นพบว่าเหล้าคือการระบายความเครียดที่ราคาถูกที่สุด ความเครียดจากชีวิตจริงที่ถูกกดทับจากสารพันปัญหา คนชั้นล่างและกลางค่อนล่าง ไม่ได้มีเงินไปเดินห้าง ดูหนัง ยิ่งการลางานยาวๆ ไปเที่ยวนี่แทบเป็นไปไม่ได้ ถ้าเทียบกับคนชั้นกลางบนหรือคนชั้นสูง เขาก็เลือกปลดปล่อยผ่อนคลายด้วยการดื่ม มันก็เท่านั้น
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
ปล.เรื่องความเห็นของรากหญ้าต่อการดื่มเพื่อปลดปล่อย มันมีคนไปทำวิจัยจริงๆ นะ ผมแปะไว้ในกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/38312604
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )