JJNY : 4in1 จิราพรซัดรธน.-ยุทธศาสตร์ล้าหลัง/หญิงหน่อยอัดตู่ไม่ให้ความสำคัญปชช./ก้าวไกลชงแก้ข้อบังคับสภา/ชี้ศก.ถอยเกินคาด

จิราพร ซัด โควิดสะท้อน รธน.-ยุทธศาสตร์ชาติล้าหลัง ย้อนบิ๊กตู่ คงพ.ร.ก.ไว้คุมคนไม่เอารบ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2207761
 

 
เมื่อ 15.15 วันที่ 29 พฤษภาคม ที่รัฐสภา ที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระด่วน พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท
 
น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า ฝ่ายค้านไม่ได้เตะถ่วงเวลา ขัดขวางการทำงานของรัฐบาลเพื่อช่วยประชาชน แต่พวกเราจำเป็นต้องแสดงความกังวลต่อพ.ร.ก.กู้เงิน เพราะแม้ว่า จะเห็นตรงกันว่า งบประมาณเพื่อเยียวยาประชาชน 5.5 แสนล้านบาทเป็นความเร่งด่วน ไม่สามารถรอขั้นตอนตามงบประมาณปกติได้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมการเยียวยาประชาชนถึงล่าช้า ไม่เร่งด่วนสมกับเป็นพ.ร.ก.เลย เงิน 5.5 แสนล้านบาทถือว่า เยอะ แต่เงื่อนไขการเข้าถึงเงินกลับเยอะกว่า เยอะจนประชาชนต้องต่อสู้เพื่อให้เข้าถึงเงินก้อนนี้ ทำไมตอนที่รัฐบาลแจกเงินชิมช้อปใช้ ให้คนไปเที่ยว ไปช้อปปิ้งถึงง่าย แค่บัตรประชาชนบัตรเดียวก็เข้าถึงได้แล้ว วิกฤตินี้สาหัสรัฐบาลกลับตั้งเงื่อนไข ในการพิสูจน์ความจนความเดือนร้อน จนประชาชนด่ารัฐบาลได้ขนาดนี้
 
“การแจกเงินถือว่า ง่ายที่สุด แต่รัฐบาลยังทำไม่ดี แล้วจะเอาอะไรมาเชื่อมั่นว่า มาตรการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะยาว วงเงิน 4 แสนล้านบาท จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สุงสุด โดยเฉพาะการสร้างงานให้กับประชาชน การใช้เงินต้องชัดเจน แม่นยำ แต่จากการศึกษาบัญชีท้ายกลับเป็นการวางกรอบ กว้างๆ มีเอกสารไม่กี่หน้า มีแต่ชื่อโครงการ แต่ไม่มีคำอธิบายให้สภาฯ สะท้อนว่า รัฐบาลกู้มาก่อน แล้วค่อยคิดแผนงานทีหลัง ทั้งๆที่วันนี้พ.ร.ก.ประกาศใช้มากว่า 1 เดือนแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังไม่พร้อมประกาศแผนงานต่อที่สภาฯ เลย โดยเฉพาะ โครงการต่างๆเพิ่มเติมจากเงินกู้ 4 แสนล้านบาท ที่เห็นว่า สามารถจัดไว้ในระบบงบประมาณปกติได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกพ.ร.ก.ที่ไร้การตรวจสอบจากสภาฯเพิ่มเลย เพราะตามพ.ร.ก.ระบุให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินต้องรายงานต่อครม.ทุก 3 เดือน แต่ให้รายงานต่อสภาฯปีละ 1 ครั้งนั้น สรุปแล้วเงินนี้เป็นของประชาชน หรือครม.กันแน่” น.ส.จิราพร กล่าว
 
น.ส.จิราพร กล่าวว่า การกู้เงินแบบไม่มีมียุทธศาสตร์รองรับวิกฤตครั้งนี้ เป็นความล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น เป็น “งบเบี้ยหัวแตก แจกทุกกระทรวง” เพราะให้ทุกหน่วยงานเสนอ โครงการผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ที่นายกฯเป็นคนตั้ง ถือเป็นการตีเช็กเปล่า แบ่งเค้กงบประมาณเองกันหรือไม่ ตนอยากถามว่า งบก้อนนี้มีไว้เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน หรือแก้ปัญหาภายในของรัฐบาลเองหรือไม่ เงินก้อนนี้เป็นการผลักดันเงินลงสู่ชุมชน โดยไม่ใช่ชุมนุมคนกันเองไว้ใช้หาเสียงของพรรคการเมืองบางพรรคใช่หรือไม่ ที่ผ่านมาตนคิดว่า การฟื้นเศรษฐกิจจะไม่สามารถทำได้เลยถ้าไม่มีการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งนายกฯ ชี้แจงว่า มีไว้เพื่อป้องกันความอลหม่าน แต่ตนคิดว่า เป็นความอลหม่านของพล.อ.ประยุทธ์เองมากกว่า ตนไม่แน่ใจสถานการณ์ฉุกเฉินคุมโรคได้หรือไม่ แต่สามารถควบคุมนศ.ที่ออกมาเคลื่อนไหวในวันครบ 6 ปี รัฐประหารได้เรียบร้อยแล้ว เป็นพ.ร.ก.คุมวัยรุ่น ควบคุมการแพร่ระบาดการของคนที่ไม่เอารัฐบาล
 
“ถ้ารัฐบาลยังดึงดันคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ไม่ต่างอะไรกับการที่งูกัด แต่กลับเอาเชือกมารัดที่คอแทนการรัดขา คนจึงไม่ได้ตายเพราพิษงู แต่ตายเพราะเชือดรัดคอ ดังนั้น ต้องยกเลิกเพื่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ให้เงินกู้ทำงานอย่างเต็มที่” น.ส.จิราพร กล่าว และว่า วิกฤตครั้งนี้สะท้อนว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ถือว่า ล้าสมัย ไม่สอดรับต่อความเปลี่ยนแปลงของโลก ที่สำคัญ ถ้าเราไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2560 จะไม่สามารถพาประเทศพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้เลย แต่การกู้เงินก้อนนี้รัฐบาลจงใจใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน บีบรัฐสภาทางอ้อมให้ยอมรับพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งถ้าไม่ให้ผ่าน เราก็นึกถึงประชาชนที่รอใช้เงินอยู่ แต่ถ้าหากให้ผ่านไปง่ายๆ ก็นึกถึงภาระหนี้สินที่ประชาชนต้องคอยแบกรับที่ต้องใช้หนี้ไม่ต่ำกว่า 80 ปี จึงขอให้รัฐบาลพลิกวิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาสของประเทศ ไม่ใช่โอกาสของรัฐบาลที่จะสร้างความมั่งคั่ง มั่นคง ให้กับตัวเอง
 

 
'หญิงหน่อย'อัด'บิ๊กตู่'ไม่ให้ความสำคัญอำนาจปชช.
https://www.dailynews.co.th/politics/777198
 
 “หญิงหน่อย” อัด “บิ๊กตู่” ไม่ให้ความสำคัญอำนาจประชาชน ลั่น สภาผู้แทนไม่ใช่สภาตรายาง ที่จะมาอนุมัติ ตีเช็คเปล่าให้รบ. 
 
เมื่อวันที่ 29 พ.ค.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ตนได้ติดตามพิจารณา พ.ร.ก.เยียวยาผลกระทบจาก ฝโควิด-19 จำนวน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท ในสภามา 2 วันกว่า รู้สึกผิดหวังกับการนำเสนอของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้นำรัฐบาล ที่ไม่เห็นความสำคัญของอำนาจประชาชน  รวมทั้งตัวแทนประชาชนอย่างสภาผู้แทนราษฎร
 
ทั้งที่เงินกู้จำนวนมหาศาลที่นำเข้าสู่สภาเพื่อพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติในครั้งนี้  เป็นเงินกู้ที่ประชาชนชาวไทยจะต้องใช้หนี้กันไปชั่วลูกชั่วหลาน  แต่รัฐบาลกลับไม่ยอมเสนอแผนงานและรายละเอียดการใช้เงินกู้จำนวนมหาศาลนี้  ให้ตัวแทนของประชาชนได้พิจารณา สภาผู้แทนไม่ใช่ สภาตรายาง ที่จะมาอนุมัติ ตีเช็คเปล่าให้รัฐบาล โดยไม่ต้องมีรายละเอียดการใช้เงิน หรือตรวจสอบไม่ได้ อย่างที่เสนอมา
 
ที่สำคัญการชี้แจงตอบข้อซักถามของผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์ และนายอุตตม  สาวนายน รมว.คลัง ก็ตอบไม่ชัดเจน ส.ส. เพื่อไทยหลายๆ คน ที่ได้อภิปรายซักถามด้วยความห่วงใย เรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ  ในการควบคุมที่ไม่ทั่วถึง ไม่ครอบคลุม  คนที่เดือดร้อน  กลับไม่ได้รับการเยียวยา  แม้แต่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ซึ่งถือเป็นเงินออมของลูกจ้างเองแท้ ๆ ก็ไม่ได้รับเงินประกันตนคืน  หรือได้รับน้อยมาก  ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต คนกำลังจะตายไม่ได้รับการเยียวยา แต่คนตายไปแล้วกลับได้รับเงินเยียวยา
 
เมื่อถามถึงแผนงานในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้าน  ก็ไม่สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนเพียงพอที่เราจะมั่นใจได้ว่า  จะมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้จริง  โดยเฉพาะที่พรรคเพื่อไทยได้ถาม ถึงแนวทางการแก้ปัญหาในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่จะต้องมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย รัฐบาลจะสร้างกำลังซื้อให้เกิดกับประชาชนได้อย่างไร ในเมื่อประชาชนหมดกำลังซื้อมานานแล้ว  ลงทุนแล้วจะเอาไปขายใคร  พลเอกประยุทธ์กลับไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้
 
อีกปัญหาคือ  คนตกงานประมาณ 8-10 ล้านคน  รัฐบาลจะดูแลพวกนี้อย่างไร จะเอาอะไรให้พวกเขากิน ในเมื่อเงินเยียวยาจะหมดในเดือนมิ.ย.นี้แล้ว นี่คือความห่วงใยของพวกเราที่มีต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เราอยากเห็นรัฐบาลลงมือทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน อย่างจริงจัง ไม่ใช่สักแต่แก้ตัวไปวัน ๆ.
 
https://www.facebook.com/sudaratofficial/photos/a.484034281675370/2970359499709490/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่