เรื่องย่อ
ว่าด้วยเรื่องราวของจาบามิ ยูเมโกะ นักเรียนสาวผู้หลงไหลและหมกมุ่นอยู่กับการเล่นพนันแบบสุดขีดเธอจึงได้สมัครเข้ามาเรียนยังโรงเรียนเฮียคโอ โรงเรียนที่การเรียนหรือหน้าตาไม่ได้เป็นส่วนสำคัญแต่อย่างใด ที่สำคัญที่สุดคือการพนัน และเธอเข้ามาเรียนที่โรงเรียนที่แห่งนี้ก็เพราะมีจุดประสงค์คือการได้เล่นพนันกับประธานนั่นเอง
- เนื้อเรื่องย่อของฉบับมูฟวี่
เมื่อจู่ๆโรงเรียนเฮียคโอก็มีกลุ่มต่อต้านที่ชื่อว่า "วิเลจ" โผล่มาโดยกลุ่มนี้นั้นมีเป้าหมายในการโค่นล้มประธานสภานักเรียนให้ล้มเลิกการจัดชนชั้นโดยการเล่นพนัน แต่อย่างไรก็ตามทางคณะประธานสภาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแก่เรื่องนี้ จึงได้ทำการจัดแข่งขันพนันครั้งใหญ่ที่ผู้ชนะจะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนต้องการได้ จาบามิ ยูเมโกะ จะชนะพนันครั้งนี่หรือไม่? สภานักเรียนมีแผนอะไรซ่อนไว้หรือไม่? วิเลจจะทำให้โรงเรียนแห่งนี้กลับมาเป็นโรงเรียนปกติได้หรือไม่? ก็ไปติดตามได้ในภาพยนตร์กันนะครับ
ความรู้สึกหลังรับชม
"ค่อนข้างจะชอบเลยล่ะครับ บ้าใช้ได้เลย"
ที่ต้องชมเป็นอย่างแรกเลยคือความฉลาดของทีมผู้สร้าง ที่จะสร้างเนื้อเรื่องออริจินอลยังไงโดยทำให้ตนนั้นไม่โดนด่ามากที่สุด อย่างที่รู้ๆกันว่า Live-Action อนิเมะญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้น จะทำการรวบเนื้อหาทั้งหมดและสร้างหนังเลย ซึ่งเป็นไปได้ยากมากที่คุณจะสามารถรวบเนื้อหาของอนิเมะทีวีซีรีส์จำนวนเวลากว่าสี่ชั่วโมง และมังงะอีกเป็นกอง ลงในหนังเวลา 1-2 ชั่วโมงและทำให้ฐานแฟนคลับเดิมหรือคนที่เข้ามาดูใหม่ชอบได้ ส่วนใหญ่ Live-Action ญี่ปุ่นจึงออกมาแป๊กเกือบจะทั้งหมด มีน้อยมากที่ออกมาดี
สำหรับ Kakegurui Live-Action นั้นมีการเดินตามต้นฉบับในฉบับทีวีซีรีส์ก่อนและค่อยมาปลดปล่อยแบบแท้จริงในฉบับหนัง ซึ่งส่วนนี้ทำให้หนังประหยัดเวลากับอะไรหลายๆอย่างได้พอสมควร เช่น
1. เลยคือการปูเรื่อง หนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องปูเรื่องยืดยาว เนื่องจากได้เล่าในฉบับทีวีซีรีส์ไปแล้ว หนังเรื่องนี้ใช้เวลาปูเรื่องแค่ประมาณ 15-20 เอง ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับหนังยาวสองชั่วโมง
2. หนังสามารถหลุดกรอบจากตัวอนิเมะหรือมังงะได้แบบ 100% เลยก็ได้ หากผู้กำกับหรือผู้เขียนบทต้องการจะทำ เพราะทุกอย่างได้ถูกปูมาในฉบับของตนเองโดยสมบูรณ์ในฉบับทีวีซีรีส์แล้ว
3. หนังสามารถขยายแฟรนไชส์ได้ หากผู้กำกับต้องการเช่นกัน เพราะตอนนี้เนื้อเรื่องทั้งหมดได้เป็นออริจินอลของทีมนี้แบบสมบูรณ์ หากต้องการจะทำภาคต่อในแบบของตนเอง ก็สามารถทำได้แบบไหนก็ได้เลย โดยที่ไม่ต้องย่ำตามฉบับอนิเมะหรือมังงะซักนิดเดียวก็เป็นได้
ผลพลอยได้จากข้อที่แล้ว การเดินเรื่องที่ฉับไวและไม่เอื่อยแม้แต่วินาทีเดียว หนังดูสนุกมากๆ เลยทีเดียว
หนังยังรักษาความเป็น Kakegurui ได้อย่างดีแม้ตนจะสามารถแหกเนื้อเรื่องหรือไอคอนนิคของเนื้อเรื่องทิ้งเลยก็ได้ แต่หนังก็ยังให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่องแบบต้นฉบับคือ ความบ้า ความโรคจิต การเล่นจิตวิทยาของตัวเอก และที่สำคัญที่สุดคือเนื้อเรื่องที่คาดเดาอะไรไม่ได้พลิกแพลงไปตลอดเวลา
นักแสดง อย่างที่รู้ๆกันว่าทุกคนในเรื่องนี้แทบจะเป็นนักแสดงที่มีความสามารถแทบจะทั้งหมด เช่น มินามิ ฮามาเบะ ที่แสดงเป็นจาบามิ ยูเมโกะ ก็เป็นนักแสดงอีกคนที่ผ่านผลงานมามากมาย ใครตามผลงานนางก็จะรู้ว่าฝีมือนางไม่ธรรมดาแน่นอนคนอื่นก็เช่นกันโปรไฟล์ไม่แพ้ มินามิ ฮามาเบะ
แต่มาเรื่องนี้ทุกคนเล่นใหญ่หมด ผมจะไม่พูดว่าพวกเขาเล่นไม่ดี ที่ทุกคนเล่นใหญ่ ทุกอย่างนั้นเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้กำกับทั้งหมด ที่อยากให้หนังตนนั้นเหมือนละครเวทีคนบ้า จะสังเกตได้เลยว่าการเล่าเรื่องของ Live Action เรื่องนี้นั้นแตกต่างจากหนังที่เคยเห็นๆมาแน่นอน ทั้ง Break The Fourth wall ตัวละครหันมาคุยกับคนดู การเล่นใหญ่แบบเกินหน้าเกินตา การพรรณนาพึมพัมๆออกมาให้คนดูฟัง ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกตาสำหรับผมมากๆ ไม่เคยเห็นหนังเรื่องไหนทำอะไรแบบนี้เช่นกัน ซึ่งนักแสดงทุกคนสามารถทำตามเจตนารมณ์ของผู้กำกับออกมาได้ดีทุกคน ดังนั้นถือว่าเล่นดีครับ
สิ่งที่ไม่ชอบ
เมื่อหนังพยายามจะเล่นในแง่มุมดราม่า หนังทำออกมาได้ง่อยมาก เป็นผลมาจากมูดโทนของหนังที่เป็น Comedy Thriller แบบหนักๆเลยและบวกกับความเป็นละครเวทีที่เล่นใหญ่อีก ดราม่ามันเลยง่อยไปแบบปริยาย ดูแล้วไม่มีความเศร้า ไม่มีความซึ้ง ซึ่งส่วนนี้มันเป็นปัญหามาตั้งแต่ฉบับทีวีซีรีส์แล้วก็ว่าได้
ความเวอร์ของบท บทเวอร์มากๆ หลายๆจุด เรามองตัวละครบางตัวว่าดูเหมือนเขาไม่เป็นคน คือเขามีสมองและประสาทสัมผัสในการแยกไพ่ในมือของศัตรูออกทั้งที่มันคว่ำอยู่ด้วยหรอ?
สรุป
Kakegurui : The Movie เป็นหนังญี่ปุ่นที่ดูง่ายและสนุกอีกเรื่องหนึ่ง หนังเต็มไปด้วย ความบ้า เอนเนอร์จี้ของนักแสดงที่สุดโต่งและเนื้อเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามหนังก็ยังมีข้อเสียอีกมากมายในแง่มุมของเนื้อเรื่อง
ให้ 7/10 ครับ หนังดูสนุกใช้ได้เลยแหละ
ถ้าอยากดูแล้วอินขึ้นแนะนำดูฉบับทีวีซีรีส์ก่แนครับ สามารถดูได้ทาง Netflix นะครับ แต่สำหรับฉบับหนังส่วนตัวก็...ดูเถื่อนแหละฮะ ยอมรับเพราะไม่สามารถหาดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้จริงๆ
สามารถดูเรียงได้ตามนี้ครับ
Kakegurui ฉบับคนแสดง SS1 --> Kakegurui ฉบับคนแสดง SS2 --> และก็มายังมูฟวี่ตัวนี้ได้เลยครับ
[CR] Kakegurui Live-Action : The Movie | ความบ้าและเล่นใหญ่ที่หนักกว่าเดิม
ว่าด้วยเรื่องราวของจาบามิ ยูเมโกะ นักเรียนสาวผู้หลงไหลและหมกมุ่นอยู่กับการเล่นพนันแบบสุดขีดเธอจึงได้สมัครเข้ามาเรียนยังโรงเรียนเฮียคโอ โรงเรียนที่การเรียนหรือหน้าตาไม่ได้เป็นส่วนสำคัญแต่อย่างใด ที่สำคัญที่สุดคือการพนัน และเธอเข้ามาเรียนที่โรงเรียนที่แห่งนี้ก็เพราะมีจุดประสงค์คือการได้เล่นพนันกับประธานนั่นเอง
- เนื้อเรื่องย่อของฉบับมูฟวี่
เมื่อจู่ๆโรงเรียนเฮียคโอก็มีกลุ่มต่อต้านที่ชื่อว่า "วิเลจ" โผล่มาโดยกลุ่มนี้นั้นมีเป้าหมายในการโค่นล้มประธานสภานักเรียนให้ล้มเลิกการจัดชนชั้นโดยการเล่นพนัน แต่อย่างไรก็ตามทางคณะประธานสภาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแก่เรื่องนี้ จึงได้ทำการจัดแข่งขันพนันครั้งใหญ่ที่ผู้ชนะจะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนต้องการได้ จาบามิ ยูเมโกะ จะชนะพนันครั้งนี่หรือไม่? สภานักเรียนมีแผนอะไรซ่อนไว้หรือไม่? วิเลจจะทำให้โรงเรียนแห่งนี้กลับมาเป็นโรงเรียนปกติได้หรือไม่? ก็ไปติดตามได้ในภาพยนตร์กันนะครับ
"ค่อนข้างจะชอบเลยล่ะครับ บ้าใช้ได้เลย"
ที่ต้องชมเป็นอย่างแรกเลยคือความฉลาดของทีมผู้สร้าง ที่จะสร้างเนื้อเรื่องออริจินอลยังไงโดยทำให้ตนนั้นไม่โดนด่ามากที่สุด อย่างที่รู้ๆกันว่า Live-Action อนิเมะญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้น จะทำการรวบเนื้อหาทั้งหมดและสร้างหนังเลย ซึ่งเป็นไปได้ยากมากที่คุณจะสามารถรวบเนื้อหาของอนิเมะทีวีซีรีส์จำนวนเวลากว่าสี่ชั่วโมง และมังงะอีกเป็นกอง ลงในหนังเวลา 1-2 ชั่วโมงและทำให้ฐานแฟนคลับเดิมหรือคนที่เข้ามาดูใหม่ชอบได้ ส่วนใหญ่ Live-Action ญี่ปุ่นจึงออกมาแป๊กเกือบจะทั้งหมด มีน้อยมากที่ออกมาดี
สำหรับ Kakegurui Live-Action นั้นมีการเดินตามต้นฉบับในฉบับทีวีซีรีส์ก่อนและค่อยมาปลดปล่อยแบบแท้จริงในฉบับหนัง ซึ่งส่วนนี้ทำให้หนังประหยัดเวลากับอะไรหลายๆอย่างได้พอสมควร เช่น
1. เลยคือการปูเรื่อง หนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องปูเรื่องยืดยาว เนื่องจากได้เล่าในฉบับทีวีซีรีส์ไปแล้ว หนังเรื่องนี้ใช้เวลาปูเรื่องแค่ประมาณ 15-20 เอง ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับหนังยาวสองชั่วโมง
2. หนังสามารถหลุดกรอบจากตัวอนิเมะหรือมังงะได้แบบ 100% เลยก็ได้ หากผู้กำกับหรือผู้เขียนบทต้องการจะทำ เพราะทุกอย่างได้ถูกปูมาในฉบับของตนเองโดยสมบูรณ์ในฉบับทีวีซีรีส์แล้ว
3. หนังสามารถขยายแฟรนไชส์ได้ หากผู้กำกับต้องการเช่นกัน เพราะตอนนี้เนื้อเรื่องทั้งหมดได้เป็นออริจินอลของทีมนี้แบบสมบูรณ์ หากต้องการจะทำภาคต่อในแบบของตนเอง ก็สามารถทำได้แบบไหนก็ได้เลย โดยที่ไม่ต้องย่ำตามฉบับอนิเมะหรือมังงะซักนิดเดียวก็เป็นได้
ผลพลอยได้จากข้อที่แล้ว การเดินเรื่องที่ฉับไวและไม่เอื่อยแม้แต่วินาทีเดียว หนังดูสนุกมากๆ เลยทีเดียว
หนังยังรักษาความเป็น Kakegurui ได้อย่างดีแม้ตนจะสามารถแหกเนื้อเรื่องหรือไอคอนนิคของเนื้อเรื่องทิ้งเลยก็ได้ แต่หนังก็ยังให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่องแบบต้นฉบับคือ ความบ้า ความโรคจิต การเล่นจิตวิทยาของตัวเอก และที่สำคัญที่สุดคือเนื้อเรื่องที่คาดเดาอะไรไม่ได้พลิกแพลงไปตลอดเวลา
นักแสดง อย่างที่รู้ๆกันว่าทุกคนในเรื่องนี้แทบจะเป็นนักแสดงที่มีความสามารถแทบจะทั้งหมด เช่น มินามิ ฮามาเบะ ที่แสดงเป็นจาบามิ ยูเมโกะ ก็เป็นนักแสดงอีกคนที่ผ่านผลงานมามากมาย ใครตามผลงานนางก็จะรู้ว่าฝีมือนางไม่ธรรมดาแน่นอนคนอื่นก็เช่นกันโปรไฟล์ไม่แพ้ มินามิ ฮามาเบะ
แต่มาเรื่องนี้ทุกคนเล่นใหญ่หมด ผมจะไม่พูดว่าพวกเขาเล่นไม่ดี ที่ทุกคนเล่นใหญ่ ทุกอย่างนั้นเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้กำกับทั้งหมด ที่อยากให้หนังตนนั้นเหมือนละครเวทีคนบ้า จะสังเกตได้เลยว่าการเล่าเรื่องของ Live Action เรื่องนี้นั้นแตกต่างจากหนังที่เคยเห็นๆมาแน่นอน ทั้ง Break The Fourth wall ตัวละครหันมาคุยกับคนดู การเล่นใหญ่แบบเกินหน้าเกินตา การพรรณนาพึมพัมๆออกมาให้คนดูฟัง ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกตาสำหรับผมมากๆ ไม่เคยเห็นหนังเรื่องไหนทำอะไรแบบนี้เช่นกัน ซึ่งนักแสดงทุกคนสามารถทำตามเจตนารมณ์ของผู้กำกับออกมาได้ดีทุกคน ดังนั้นถือว่าเล่นดีครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้