สวัสดีค่ะ
เนื่องจากเราเป็นคนที่สายตาสั้นมากๆ สั้นมานาน ตั้งแต่จำความได้ โลกนี้ก็ไม่ชัดแล้ว 5555
ล่าสุดสั้นประมาณ 1400-1600 ค่ะ เยอะมากเลย แต่ไม่เอียง ก็คือถ้าไม่ใส่แว่นเดินถนนก็คงโดนรถชนแน่ๆ 55555
เท่าที่เราหาอ่านรีวิวมาก็ยังไม่มีใครสั้นมากขนาดนี้เลย ---
ทำให้เราไม่สะดวกจะใส่แว่นตาหนาๆหนักๆตลอดเวลา ต้องใส่คอนแทคเลนส์ (เราใส่คอนแทค -12.50 เพราะตอนนั้นหาได้สูงสุดเท่านี้ค่ะ 5555)
ซึ่งใส่นานๆไปก็จะเคืองตา ต้องใส่ๆถอดๆ ทุกวัน พอถอดปุ๊บก็คือควานหาแว่นตาแทบไม่ทัน
หลังจากศึกษามาหลายปี หลายกระทู้เหลือเกิน เราก็คิดว่าคงทำเลสิกไม่ไหวหรอก สายตาสั้นมากมายขนาดนี้ ต้องพึ่ง ICL หรือการใส่เลนส์เสริมเท่านั้นแหละ
ก็เลยรอทำงานเก็บเงินเพื่อทำ ICL ซึ่งราคาต่ำๆก็ข้างละเกือบแสนแล้ว
เมื่อเก็บเงินพร้อมแล้ว เตรียมใจพร้อมแล้ว วันลาพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาไปหาคุณหมอ
เราเตรียมเงินไปหาคุณหมอ แต่ผลตรวจก็คือ...
มีทั้งข่าวร้ายและข่าวดี
ข่าวร้ายคือ ช่องว่างระหว่างเลนส์ตาเรากว้างไม่พอ ไม่สามารถทำ ICL ได้...
แต่ก็ยังมีข่าวดี ที่กระจกตาเราค่อนข้างหนา คุณหมอบอกว่าสามารถทำได้ แต่สายตาคงไม่หมด น่าจะได้เท่าที่เราใส่คอนแทคเลนส์ เราโอเคมั้ย
ถ้าทำแล้วก็น่าจะดีกว่าไม่ทำ เพราะสายตาเราสั้นมากก
ทำได้แค่ Femto second lasik ตัวที่แพงสุดเท่านั้น เพราะช่วยประหยัดเนื้อกระจกตาได้มากกว่า แต่ก็ราคาต่ำกว่า ICL นะ
พอกลับมาคิดๆก็รู้สึกว่าอยากให้สายตากลับเป็นศูนย์แหละ แต่ก็เข้าใจว่าสายตาเรามันเยอะเกินเบอร์ไปมาก 55555 ถ้าตามที่คุณหมอบอกก็น่าจะเหลือสั้น 200-400 แว่นก็คงจะไม่หนามากเท่าตอนนี้ เราก็เลยตกลงทำ
ระหว่างการทำเลสิกรวดเร็วมากค่ะ และตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยกลัวตาบอดขนาดนี้เลย 55555
คุณหมอจะบอกให้เราจ้องจุดสีแดงไว้ ทำตาให้นิ่งๆ (แต่เราสายตาล่อกแล่ก บังคับไม่ได้ตลอด ทั้งๆที่ตั้งสติมากๆแล้ว TT)
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชม ในการมองแสงวูบวาบๆ คล้ายกำลังดูหนังไซไฟ
ตอนที่ครอบตาเสร็จ จากที่เราเคยอ่านรีวิวเค้าบอกว่ามองชัดเจนเลยทันที
ส่วนเราเบลอมาก ชัดขึ้นนะ แต่เบลอมากในทุกระยะการมองเห็น 55555555
วันรุ่งขึ้น นัดไปถอดที่ครอบตา ก็ยังไม่ชัดค่ะ เราพักตาประมาณสามวันก็ไปทำงาน แต่ก็ทำงานแบบเบาๆ ไม่ได้เพ่งจอคอมมากนัก
แต่เวลาแค่มองกระดาษมองคอม มันก็ไม่ชัดแล้วอะ มองใกล้ก็ไม่ชัด มองไกลก็ยิ่งเบลอ ตอนนั้นก็ใจเสียนะ ว่าผ่านมาสามสี่วันแล้ว
แต่ยังใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้เลย เราก็หมั่นหยอดน้ำตาเทียม ครอบตาก่อนนอนทุกวัน ป้องกันการขยี้ตาของเราช่วงอาทิตย์แรก
พอนัดตรวจตาตอนครบ1 สัปดาห์ เราก็ยังมองไม่ชัดอยู่ดี คุณหมอก็บอกว่าแผลเราสวยดีแล้ว แต่ตาเราแห้ง ให้หมั่นหยอดน้ำตาเทียม
ถ้าวัดสายตาตอนนี้ก็ยังไม่นิ่ง ยังไม่สามารถบอกได้ว่าต้องใส่แว่นหรือไม่
เราก็ใช้ชีวิตต่อไปแบบเบลอๆ พอหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็เริ่มใช้สายตาได้ดีขึ้น สามารถทำงานได้ตามปกติ ใช้ชีวิตตามปกติได้
พอคุณหมอนัดครั้งต่อไป เราก็ยังถามคำถามเดิมว่าเราต้องใส่แว่นไหม 5555
คุณหมอบอกว่าก็ไม่เหลือแล้วนะ ไม่ต้องใส่หรอก แค่ออกแดดแล้วใส่แว่นกันแดด และหมั่นหยอดน้ำตาเทียม
ทุกวันนี้ทำเลสิกได้ประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ เราคิดว่าดีขึ้นมากนะกว่าตอนแรก และหลังทำสัปดาห์แรกที่โลกเบลอเหลือเกิน
เราเคยไปตรวจวัดสายตาที่รพ ค่ะ ค่าที่วัดด้วยเครื่อง ข้างซ้ายเราจากที่ไม่เอียง กลายเป็นเอียง 125 ข้างขวาสั้นประมาณ 50
(ค่าที่วัดจากเครื่องไม่ได้แม่นเท่าการวัดที่ให้มองจากชาร์ตปกติ) ซึ่งเราก็ไม่ได้ซีเรียส
เพราะตอนนี้เราสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ววว
แต่จากนี้ไปก็ต้องระมัดระวังการใช้สายตา เพราะก็เสี่ยงที่จะกลับมาสั้นเหมือนเดิม เพราะอายุยังน้อย
และจากเดิมการที่สายตาสั้นมากควรตรวจจอประสาทตาทุกปี แม้จะทำเลสิกแล้ว แต่ก็ยังถือว่ามีความเสี่ยง ต้องไปตรวจจอประสาทตาสม่ำเสมออยู่ดีค่ะ
ทิ้งท้าย... ใครที่สงสัยว่าตัวเองทำได้ไหม ให้ไปลองตรวจจะดีที่สุดค่ะ ให้คุณหมอแนะนำจะดีที่สุด เพราะข้อจำกัดของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ
[CR] รีวิวทำ Femto Second Lasik สำหรับสายตาสั้นมากกกก
เนื่องจากเราเป็นคนที่สายตาสั้นมากๆ สั้นมานาน ตั้งแต่จำความได้ โลกนี้ก็ไม่ชัดแล้ว 5555
ล่าสุดสั้นประมาณ 1400-1600 ค่ะ เยอะมากเลย แต่ไม่เอียง ก็คือถ้าไม่ใส่แว่นเดินถนนก็คงโดนรถชนแน่ๆ 55555
เท่าที่เราหาอ่านรีวิวมาก็ยังไม่มีใครสั้นมากขนาดนี้เลย ---
ทำให้เราไม่สะดวกจะใส่แว่นตาหนาๆหนักๆตลอดเวลา ต้องใส่คอนแทคเลนส์ (เราใส่คอนแทค -12.50 เพราะตอนนั้นหาได้สูงสุดเท่านี้ค่ะ 5555)
ซึ่งใส่นานๆไปก็จะเคืองตา ต้องใส่ๆถอดๆ ทุกวัน พอถอดปุ๊บก็คือควานหาแว่นตาแทบไม่ทัน
หลังจากศึกษามาหลายปี หลายกระทู้เหลือเกิน เราก็คิดว่าคงทำเลสิกไม่ไหวหรอก สายตาสั้นมากมายขนาดนี้ ต้องพึ่ง ICL หรือการใส่เลนส์เสริมเท่านั้นแหละ
ก็เลยรอทำงานเก็บเงินเพื่อทำ ICL ซึ่งราคาต่ำๆก็ข้างละเกือบแสนแล้ว
เมื่อเก็บเงินพร้อมแล้ว เตรียมใจพร้อมแล้ว วันลาพร้อมแล้ว ก็ได้เวลาไปหาคุณหมอ
เราเตรียมเงินไปหาคุณหมอ แต่ผลตรวจก็คือ...
มีทั้งข่าวร้ายและข่าวดี
ข่าวร้ายคือ ช่องว่างระหว่างเลนส์ตาเรากว้างไม่พอ ไม่สามารถทำ ICL ได้...
แต่ก็ยังมีข่าวดี ที่กระจกตาเราค่อนข้างหนา คุณหมอบอกว่าสามารถทำได้ แต่สายตาคงไม่หมด น่าจะได้เท่าที่เราใส่คอนแทคเลนส์ เราโอเคมั้ย
ถ้าทำแล้วก็น่าจะดีกว่าไม่ทำ เพราะสายตาเราสั้นมากก
ทำได้แค่ Femto second lasik ตัวที่แพงสุดเท่านั้น เพราะช่วยประหยัดเนื้อกระจกตาได้มากกว่า แต่ก็ราคาต่ำกว่า ICL นะ
พอกลับมาคิดๆก็รู้สึกว่าอยากให้สายตากลับเป็นศูนย์แหละ แต่ก็เข้าใจว่าสายตาเรามันเยอะเกินเบอร์ไปมาก 55555 ถ้าตามที่คุณหมอบอกก็น่าจะเหลือสั้น 200-400 แว่นก็คงจะไม่หนามากเท่าตอนนี้ เราก็เลยตกลงทำ
ระหว่างการทำเลสิกรวดเร็วมากค่ะ และตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยกลัวตาบอดขนาดนี้เลย 55555
คุณหมอจะบอกให้เราจ้องจุดสีแดงไว้ ทำตาให้นิ่งๆ (แต่เราสายตาล่อกแล่ก บังคับไม่ได้ตลอด ทั้งๆที่ตั้งสติมากๆแล้ว TT)
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชม ในการมองแสงวูบวาบๆ คล้ายกำลังดูหนังไซไฟ
ตอนที่ครอบตาเสร็จ จากที่เราเคยอ่านรีวิวเค้าบอกว่ามองชัดเจนเลยทันที
ส่วนเราเบลอมาก ชัดขึ้นนะ แต่เบลอมากในทุกระยะการมองเห็น 55555555
วันรุ่งขึ้น นัดไปถอดที่ครอบตา ก็ยังไม่ชัดค่ะ เราพักตาประมาณสามวันก็ไปทำงาน แต่ก็ทำงานแบบเบาๆ ไม่ได้เพ่งจอคอมมากนัก
แต่เวลาแค่มองกระดาษมองคอม มันก็ไม่ชัดแล้วอะ มองใกล้ก็ไม่ชัด มองไกลก็ยิ่งเบลอ ตอนนั้นก็ใจเสียนะ ว่าผ่านมาสามสี่วันแล้ว
แต่ยังใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้เลย เราก็หมั่นหยอดน้ำตาเทียม ครอบตาก่อนนอนทุกวัน ป้องกันการขยี้ตาของเราช่วงอาทิตย์แรก
พอนัดตรวจตาตอนครบ1 สัปดาห์ เราก็ยังมองไม่ชัดอยู่ดี คุณหมอก็บอกว่าแผลเราสวยดีแล้ว แต่ตาเราแห้ง ให้หมั่นหยอดน้ำตาเทียม
ถ้าวัดสายตาตอนนี้ก็ยังไม่นิ่ง ยังไม่สามารถบอกได้ว่าต้องใส่แว่นหรือไม่
เราก็ใช้ชีวิตต่อไปแบบเบลอๆ พอหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็เริ่มใช้สายตาได้ดีขึ้น สามารถทำงานได้ตามปกติ ใช้ชีวิตตามปกติได้
พอคุณหมอนัดครั้งต่อไป เราก็ยังถามคำถามเดิมว่าเราต้องใส่แว่นไหม 5555
คุณหมอบอกว่าก็ไม่เหลือแล้วนะ ไม่ต้องใส่หรอก แค่ออกแดดแล้วใส่แว่นกันแดด และหมั่นหยอดน้ำตาเทียม
ทุกวันนี้ทำเลสิกได้ประมาณ 2 เดือนแล้วค่ะ เราคิดว่าดีขึ้นมากนะกว่าตอนแรก และหลังทำสัปดาห์แรกที่โลกเบลอเหลือเกิน
เราเคยไปตรวจวัดสายตาที่รพ ค่ะ ค่าที่วัดด้วยเครื่อง ข้างซ้ายเราจากที่ไม่เอียง กลายเป็นเอียง 125 ข้างขวาสั้นประมาณ 50
(ค่าที่วัดจากเครื่องไม่ได้แม่นเท่าการวัดที่ให้มองจากชาร์ตปกติ) ซึ่งเราก็ไม่ได้ซีเรียส
เพราะตอนนี้เราสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ววว
แต่จากนี้ไปก็ต้องระมัดระวังการใช้สายตา เพราะก็เสี่ยงที่จะกลับมาสั้นเหมือนเดิม เพราะอายุยังน้อย
และจากเดิมการที่สายตาสั้นมากควรตรวจจอประสาทตาทุกปี แม้จะทำเลสิกแล้ว แต่ก็ยังถือว่ามีความเสี่ยง ต้องไปตรวจจอประสาทตาสม่ำเสมออยู่ดีค่ะ
ทิ้งท้าย... ใครที่สงสัยว่าตัวเองทำได้ไหม ให้ไปลองตรวจจะดีที่สุดค่ะ ให้คุณหมอแนะนำจะดีที่สุด เพราะข้อจำกัดของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้