ผิดไหมที่เป็นคนประหยัดมัธยัสกับทุกเรื่อง ครอบครัวกำลังจะพัง

ผมเป็นหัวหน้าครอบครัว อายุ 32 ปี ภรรยาอายุเท่ากัน แต่งงานมา 8 ปี มีลูก1.6ขวบ 1 คน 
 ในส่วนของธุรกิจผมหาเงินได้เดือนนึงประมาณ 150000 ซึ่งผมรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัว และดูแลแม่ของตัวเองอีกเดือนละ 12000 ในส่วนของภรรยา ผมให้เธอเลี้ยงลูกอยู่บ้าน แต่มีรายได้จากส่วนหนึ่งในกิจการ ประมาณเดือนละ 25000 และผมให้ต่างหากอีกเดือนละ 6000 เธอเก็บเงินส่วนนี้เกือบ 90% อาจมีใช้บ้างเล็กน้อย ส่วนตัวผมค่อนข้างจะเป็นคนใช้เงินอย่างระวัง จะไม่ซื้อของที่ฟุ่มเฟือยอย่างเด็ดขาด บางครั้งอยากได้อะไรจริงๆอย่าง มือถือก็พยายามหามือสองมาใช้ ซึ่งภรรยาก็เห็นด้วยและเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือยเหมือนกัน ช่วงโควิดรายได้เรากลายเป็น 0 แต่เราก็ยังอยู่ได้เพราะผมมีเงินสำรอง บ้าน - รถ ผมไม่ต้องไปพักชำระสักที่ อาจเครียดบ้างแต่ก็คิดว่าผ่านไปได้สบายๆ
 แต่อยู่มาวันหนึ่งบ้านที่ผมลงทุนซื้อไว้เมื่อ 8 ปีก่อน มีคนตกลงซื้อ ผมได้กำไรมาประมาณ 500000 ซึ่งผมตกลงกับภรรยาไว้ว่าถ้าขายได้จะซื้อทองให้ 3 บาท ผมขอให้ราคามันลงมาอีกสักหน่อยจะไปซื้อให้ เธอก็โอเค จากนั้นเราตกลงจะไปเดินห้างซื้อของ เธอถามว่าจะขอซื้อเครื่องสำอาง ขอซื้อเสื้อผ้าของได้ไหม ผมซึ่งเพิ่งจะได้เงินมาก็ยังไม่อยากใช้เพราะกลัวความไม่แน่นอน กลัวได้มาง่ายจะใช้ไปง่าย ก็เลยบอกเธอให้เธอออกเองได้ไหมเพราะรายได้เธอก็มี เธอโกรธผมมาก เราตัดสินใจกลับบ้าน และทะเลาะกันรุนแรง เธอว่าผมว่ามันเป็นของจำเป็นทำไมให้เธอไม่ได้ เธอพาลไปหมดหาว่าผมไม่ใส่ใจ ตั้งแต่คลอดลูก ทำแต่งาน ผมเสียใจและน้อยใจมาก ผมซื้อสัตย์กับเธอ งานบ้านงานเรือนผมทำเองเกือบทั้งหมด เธอแค่เลี้ยงลูกอย่างเดียว อาจมีมาช่วยที่ร้านบ้างบางครั้ง ผมมองภาพกว้างๆ อยากได้ความมั่นคงในชีวิตครอบครัว อยากได้บ้านใหม่ที่กว้างกว่านี้ แต่เธอกลับมองแค่ว่าผมไม่ตามใจเธอ

update
หลังจากที่ระเบิดอารมณ์กันอีกครั้ง รุนแรงกว่าเดิมถึงขั้นจะเลิกกัน เธอร้องไห้ออกมา เธอบอกเหมือนกับที่หลายๆคนบอก เธอไม่ได้ซื้อเองไม่ได้ แต่เธอแค่อยากให้ผมซื้อให้ เธอแค่ต้องการความใส่ใจ เธออดทนมานาน อยู่แต่บ้านเลี้ยงลูก ผมดูเครียดทุกวัน มีแต่งานกับงาน และสนใจดูแต่มือถือ พูดคุยอะไรก็ดูหงุดหงิด วันที่ผมขายบ้านได้ผมผ่อนคลายขึ้น เธอจึงเอยปากอยากไปซื้อของ อยากผ่อนคลายบ้าง คิดว่าน่าจะได้ แต่หากไม่ได้เธอก็จะซื้อเอง แต่ที่เธอโกรธ เพราะผมดันว่าเธอว่าทำไมมีเงินไม่ซื้อเอง เธอรู้สึกว่าผมหมดใจไปแล้ว จากพฤติการณ์ ผมมองเธอแต่แง่ลบ ผมคิดแต่ว่าผมทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว
ผมตั้งสติและทบทวนความคิดของตัวเอง ว่าพลาดที่ตรงไหน ผมกลับไปกอดเธอ ขอโอกาสอีกครั้งที่จะปรับปรุงตัวใหม่และให้เธอ 3 ข้อ
1.จะใส่ใจเธอมากขึ้น
2.เมื่อเข้าบ้านจะวางงานทั้งหมด พยายามไม่จับมือถือ และให้เวลากับเธอและลูก
3.รายเดือนของเธอเพิ่มให้อีก 2000 แต่ขอไม่ให้ขอยิบย่อยอื่นๆ
- เรื่องเครื่องสำอางตกลงผมยอมพาเธอไปซื้อ แต่เธอขอซื้อแค่เล็กน้อย และเธอขอออกเอง แต่ผมขอไถ่โทษออกให้ทั้งหมด
- เรื่องทอง ผมโอนเงินให้เธอ 80000 หลังจากนี้ให้เธอตัดสินใจเองว่าจะซื้อตอนไหน
ผมเอ่ยปากขอโทษเธอที่เคยว่าเธอว่า "แค่เลี้ยงลูกอยู่บ้าน" ผมบอกว่าเธอเสียสละมากๆที่ต้องมาดูแลลูก ทิ้งงานที่เคยทำ ทิ้งตัวตนของตัวเอง มาเป็นแม่ fulltime ผมขอบคุณที่เธอเลี้ยงลูกได้ดีมากไม่มีขาดตกบกพร่อง แววตาเธอสดใสขึ้นมากหลังจากผมขอโทษเธอไป
หลังจากเคลียร์ทุกอย่าง เธอบอกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เหมือนผมคนเดิมที่ตอนคบกันแรกๆกลับมา ได้ความใส่ใจที่หายไปหลายปีกลับมา
   ผมลองคิดดูที่ธุรกิจ ผมดีขึ้นมาได้ ไม่ใช่แค่ตัวผมแต่เกิดจากแนวความคิด การช่วยตัดสินใจ และช่วยแก้ปัญหาหลายๆครั้งที่เกิดจากเธอ ถ้าไม่มีเธออาจไม่ดีขึ้นแบบวันนี้
สุดท้ายกราบขอบคุณทุกๆความคิดเห็น โดยเฉพาะแง่คิดมุมมองจากผู้หญิงหลายๆคน ผมไล่อ่านทุกๆข้อความและขอบคุณมากจริงๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่