Finisher เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนที่ทำสำเร็จ(2)

กระทู้สนทนา
เป้าหมายคือสิ่งที่เรามองในระยะยาว ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกันในระยะเวลาสั้นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเรียกมันว่า New Year Resolutions เพราะว่าเรามีเวลาทั้งปีที่จะทำมันให้สำเร็จ
ถ้าหากเราสามารถทำตามเป้าหมายเล็กๆ ได้ในทุกๆ เดือน เราจะก็มีกำลังใจที่จะทำต่อในเดือนต่อไป ค่อยๆ ไปดีกว่าตั้งเป้าหมายไว้สูงแล้วทำไม่ได้แล้วทำให้ล้มเเลิก
และถ้าเราไม่สามารถลดเป้าหมายลงได้ การขยายระยะเวลาออกไป ก็จะทำให้เพิ่มโอกาสที่จะทำได้สำเร็จมากขึ้น
สำหรับคนอยากสมบูรณ์แบบ การลดเป้าหมายลงครึ่งนึง อาจมองว่าไม่มีค่าที่จะทำมัน แต่งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการลดเป้าหมายนั้นช่วยให้ทำงานได้สำเร็จและเพิ่มแรงกระตุ้นให้อยากทำต่อไป
ทำให้สำเร็จและหยุดความอยากสมบูรณ์แบบซะ
เลือกสิ่งที่สำคัญแล้วทิ้งที่เหลือไป
เราไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ทั้งหมด แต่เมื่อไหร่ที่เราเริ่มต้นตั้งเป้าหมาย เราก็มักจะลืมไปว่าเราต้องทิ้งบางอย่างไป เราต้องเลิกทำอย่างอื่นด้วย เราไม่สามารถเพิ่มสิ่งที่จะทำได้เรื่อยๆ
ก่อนที่จะเริ่มต้นเป้าหมายใหม่ ก็ต้องเลือกทิ้งบางอย่างด้วย
ความคิดที่จะทำให้ความสมบูรณ์แบบบอกให้เราเข้าใจว่า มันมีแค่ทางเลือกเดียว นั่นคือทำทุกอย่าง พยายามสุดกำลังแล้วล้มเหลว แต่จริงๆ แล้วเราเลือกได้ว่าจะทิ้งอะไร แล้วไปทำอย่างอื่นที่สำคัญให้สำเร็จ
แรกๆ ยังไม่ชิน มันอาจรู้สึกลำบากใจ ความพยายามที่อยากจะทำหลายๆ อย่าง มันทำให้เกิดความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มันทำให้คนอื่นชื่นชม ที่ทำงานหนักจนเหนื่อย ทำงานทั้งวันทั้งคืน
แต่การทำอะไรหลายๆ พร้อมกันทำให้เกิดโอกาสที่เราจะทำพังทั้งหมด
กิจกรรมหลายๆ อย่างในแต่ละวัน ทำให้เกิดผลกระทบแตกต่างกัน บางอย่างทำแล้วช่วยให้เราทำตามเป้าหมายได้ง่ายขึ้น บางอย่างก็ขัดขวางไม่ให้เราทำตามเป้าหมาย การออกไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนๆ อาจสนุก แต่มันอาจทำให้งานช้าลงไป
เลือกเป้าหมายที่สำคัญที่เราจะสนใจและใส่ใจทำ แล้วทิ้งที่เหลือไป และต้องไม่รู้สึกแย่ที่ต้องทิ้งมันไป เพราะเราต้องสนใจแต่สิ่งที่สำคัญมากกว่า สิ่งที่มันมีความหมายมากกว่า
ยิ่งเรามีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างที่ต้องทำ ก็ยิ่งทำให้เรามีเวลา มีพลังงาน มีทรัพยากรเพื่อทำสิ่งที่สำคัญน้อยลง เลือกเป้าหมายแล้วทุ่มเททั้งหมดไปที่เดียวจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะทำได้สำเร็จมากขึ้น ฟังดูเป็นเรื่องง่าย แต่ทำจริงยาก
การลดภาระความรับผิดชอบลง แล้วแบ่งงานให้คนอื่นๆ ช่วยทำ คนเหล่านั้นอาจทำงานได้ดีกว่าเราซะอีก
ทางเดียวที่จะทำตามเป้าหมายได้สำเร็จคือการทุ่มเทเวลา พลังงาน และทรัพยากร การจะทำบางอย่างให้ได้ดี เราอาจต้องเลือกที่จะทำเรื่องอื่นๆ ได้แย่ลง
ลองให้เวลากับตัวเองมากขึ้น ลองพักและอย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน เราอาจตกใจที่เห็นว่าสุดท้ายเราได้งานมากขึ้น
ทำให้เป้าหมายเป็นเรื่องสนุก
เรามักจะมองเป้าหมายเป็นเรื่องเครียด ต้องเอาจริงเอาจัง มักจะคิดว่าเป้าหมายมันต้องยาก คนที่ออกไปวิ่งไม่ได้คิดว่าเป้าหมายคือสิ่งที่สนุก คนเหล่านั้นมองว่าเป้าหมายคือการลดน้ำหนักลงและต้องออกไปวิ่ง
พยายามทำให้มันเป็นเรื่องสนุกเข้าไว้ ไม่ว่าทำอะไรก็ขอให้ยิ้มได้
ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมายทำสิ่งที่เราไม่อยากทำ ทำไมเราไม่สนุกไปกับมัน ทำไมเป้าหมายมันต้องน่าเบื่อ ทำไมมันต้องเจ็บปวดหรือเหนื่อย
เพราะความอยากสมบูรณ์แบบในตัวเราคอยบอกให้เราทำ มันต้องเจ็บ ยิ่งหนักยิ่งดี อยากลดน้ำหนัก ก็เลยออกไปวิ่ง ทำได้แค่อาทิตย์หรือสองอาทิตย์ ก็จะเป็นกลุ่มคน 92% ที่สุดท้ายจะหยุดทำ เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้สนุกไปกับการวิ่ง วิ่งแล้วเหนื่อย วิ่งแล้วเจ็บ
ความสนุกเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในความอยากที่จะสมบูรณ์แบบ ความสนุกไม่มีคุณค่าใดๆ ในมุมของความอยากสมบูรณ์แบบ มันเป็นเหมือนน้ำกับน้ำมันที่เข้ากันไม่ได้ คนที่อยากสมบูรณ์แบบมองว่าความสนุกเป็นเรื่องเสียเวลา
ถ้ามุมมองที่มีต่อเป้าหมายต้องเป็นเรื่องท้าทาย มันต้องยาก มันต้องไม่สนุก ตื่นแต่เช้าไม่ใช่เรื่องสนุก วิ่งบนลู่ วิ่งในสวนก็ไม่ใช่เรื่องสนุก
แต่ถ้าเปลี่ยนมุมมองใหม่ ถ้าสิ่งที่ทำนั้นมันสนุก เป้าหมายก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป ถ้าอยากทำให้สำเร็จก็ต้องทำให้มันเป็นเรื่องสนุก ความสนุกเป็นทางลัดที่จะทำให้สำเร็จ
 
Working hard for something we don’t care about is called stress. Working hard for something we love is called passion.—Simon Sinek
บทส่งท้าย
เมื่อไหร่ที่เราตั้งเป้าหมาย เมื่อไหร่ที่สัญญากับตัวเองว่าจะลดน้ำหนักลง จะเริ่มต้นเขียนหนังสือ เริ่มต้นจัดระเบียบห้อง และถ้าเราทำตามนั้นไม่ได้ เราก็เสียความเชื่อมั่นในตัวเอง
ถ้าเราไม่รักษาสัญญาบ่อยๆ เราเองก็จะเริ่มสงสัยในตัวเอง ความเชื่อใจก็จะลดลง จะไม่เชื่อใจตัวเองอีกต่อไป นึกถึงตอนที่เรานัดใครไว้แล้วเราไม่ไปตามนัด คนนั้นก็จะไม่เชื่อใจเรา
เมื่อไหร่ที่เราล้มเลิกบ่อยๆ ในใจลึกๆ เราจะปล่อยวางไม่ได้ เราจะจำได้ว่านี่คือสัญญาที่เราไม่ได้ทำตาม มันจะทำให้เรารู้สึกแย่ รู้สึกเหมือนมีบางอย่างค้างคาใจ
ตรงกันข้ามหากเราทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ ทำสิ่งที่เราใส่ใจ ความรู้สึกดีๆ ก็จะเกิดขึ้น การเริ่มต้นอาจทำให้เรารู้สึกสุขใจ แต่เหนือกว่านั้นคือการได้ทำมันจนสำเร็จ ไม่ต้องสนใจว่าเราใช้เวลาไปเท่าไหร่ สนใจแค่ว่าเราได้ก้าวข้ามเส้นชัยแล้ว
เวลาที่เราตั้งเป้าหมาย เรามักจะมุ่งไปที่การทำให้มันดีขึ้น เราอยากดูดีขึ้น อยากรู้สึกดีขึ้น เราอยากทำให้ดีมากกว่าเดิม เราต่างก็ทำผิดพลาด เราไม่ได้สมบูรณ์แบบ ยิ่งเรายอมรับมันได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะทำให้เราก้าวต่อไปได้ดีขึ้น
 
The harder you try to be perfect, the less likely you’ll accomplish your goals.—Jon cuff
https://thaifamilylink.org/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สุขภาพจิต
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่