เมื่อคนเราใช้ชีวิตไปถึงจุดๆ หนึ่ง คนเราก็จะต้องแต่งงาน และมีครอบครัวครับ แต่ว่าไลฟ์สไตล์ของบางคน อาจจะชอบการอาศัยอยู่ในคอนโดมากกว่าบ้าน หรืออาจจะมีกำลังทรัพย์ที่ไม่มากพอในการขยับขยาย หลายคนอาจจะคิดว่าการเลี้ยงลูกในคอนโดนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่จริงๆ แล้ว ไม่ยากอย่างที่คิดเลยครับ แล้วเราจะต้องทำอะไรบ้าง ไปค้นหาคำตอบกันเลยดีกว่าครับ
1. แบ่งห้องให้เป็นสัดส่วน
การเลี้ยงลูกในห้องคอนโด สิ่งแรกที่จะต้องทำก่อนเลยก็คือ การจัดพื้นที่ต่างๆ ภายในห้อง ให้เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยสิ่งที่จะต้องแยกออกจากกันอย่างชัดเจนก็คือ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัวครับ ซึ่งการแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจนแบบนี้ จะเป็นการเลี่ยงการรบกวนการนอนของเด็ก จากการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เราทำความสะอาดห้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
2. บุผนังกันเสียงรบกวน
การกันเสียงรบกวน ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเด็กจะต้องการการพักผ่อน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาการ ดังนั้น เราจึงควรจะต้องบุผนังกันเสียงรบกวนจากภายนอก และเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงของเด็กออกไปรบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วย
3. ติดตั้งฟิล์มกระจกนิรภัย
เด็กวัยที่เพิ่งหัดเดินได้ เป็นวัยที่มีความซุกซน และมีความอยากรู้อยากเห็นมาก ซึ่งจะมีการเดินเยอะขึ้น และวิ่งไปทั่ว และเราต้องอย่าลืม ว่าคอนดนั้นมันจะมีชั้นที่สูง และมีหน้าต่างกระจก หากมีการวิ่งชนกระจก อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น การติดตั้งฟิล์มกระจกนิรภัย จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้ครับ
4. ระมัดระวังเรื่องเฟอร์นิเจอร์
นอกจากจะต้องระวังกระจกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังก็คือ เฟอร์นิเจอร์ ที่มีความแข็ง และมีเหลี่ยมมีมุมด้วย เพราะเวลาเด็กเดิน หรือวิ่ง อาจจะมีการเกิดอุบัติเหตุชนมุม หรือขอบต่างๆ ของตัวเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ เช่น โต๊ะ หรือเก้าอี้ เป็นต้น หรือบางทีด้วยความซุกซนของเด็ก อาจมีการปีนป่ายเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะตู้ สำหรับในกรณีนี้ เราก็จะต้องมีการยึดตู้กับผนังให้ดี เพื่อไม่ให้ตู้ล้มได้ และสำหรับขอบโต๊ะ ก็ควรจัดหายาง หรือซิลิโคนมาหุ้มขอบมุมให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์เลือดตกยางออกได้ครับ
5. เก็บของมีคมภายในห้องให้มิดชิด
สิ่งที่ต้องระวังเอามากๆ เลยครับ ไม่ว่าเป็นที่ไหนก็ตาม ก็คือเรื่องของของมีคม เช่นมีด กรรไกร หรือคัตเตอร์ครับ ที่เราจะต้องเก็บให้มิดชิด เก็บให้เป็นที่เป็นทาง ในที่ที่พ้นมือเด็กครับ เพราะในวัยอยากรู้อยากลอง อะไรๆ ก็จะเล่นไปหมดครับ และการเล่นของมีคม ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ก็อันตรายหมดครับ
6. อย่าลืมอุดรูปลั๊กไฟ
สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับตัวเด็กเป็นอย่างมาก ก็คือความอยากรู้อยากลองนั่นเองครับ โดยอยากจะรู้อะไรต่างๆมากมาย แม้แต่รูปลั๊กไฟ ที่เด็กมักจะชอบแหย่นิ้วเข้าไปแล้วก็ถูกไฟช็อตได้ ดังนั้น เราจะต้องหาตัวอุดปลั๊กไฟมาใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟได้ด้วยครับ
7. อย่าลืมล็อคหน้าต่าง และระเบียงให้เรียบร้อยเสมอ
นอกจากการปีนป่ายตู้ต่างๆ ในห้องแล้ว อีกที่หนึ่งที่ต้องระวังมากๆ เลยก็คือระเบียงครับ เพราะอาจจะมีการปีนป่ายระเบียง จนอาจจะเกิดการพลัดตกจากห้องได้ครับ ดังนั้น ถ้าหากไม่ได้ใช้พื้นที่ระเบียง หรือไม่ได้เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศแล้ว ให้ปิดล็อคหน้าต่างไว้เลยจะดีกว่าครับ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ :
7 สิ่งที่จะต้องเตรียม เมื่อคิดจะเลี้ยงลูกในคอนโด
7 สิ่งที่จะต้องเตรียม เมื่อคิดจะเลี้ยงลูกในคอนโด
1. แบ่งห้องให้เป็นสัดส่วน
การเลี้ยงลูกในห้องคอนโด สิ่งแรกที่จะต้องทำก่อนเลยก็คือ การจัดพื้นที่ต่างๆ ภายในห้อง ให้เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยสิ่งที่จะต้องแยกออกจากกันอย่างชัดเจนก็คือ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัวครับ ซึ่งการแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจนแบบนี้ จะเป็นการเลี่ยงการรบกวนการนอนของเด็ก จากการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ได้เป็นอย่างดี และยังทำให้เราทำความสะอาดห้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
2. บุผนังกันเสียงรบกวน
การกันเสียงรบกวน ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเด็กจะต้องการการพักผ่อน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาการ ดังนั้น เราจึงควรจะต้องบุผนังกันเสียงรบกวนจากภายนอก และเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงของเด็กออกไปรบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วย
3. ติดตั้งฟิล์มกระจกนิรภัย
เด็กวัยที่เพิ่งหัดเดินได้ เป็นวัยที่มีความซุกซน และมีความอยากรู้อยากเห็นมาก ซึ่งจะมีการเดินเยอะขึ้น และวิ่งไปทั่ว และเราต้องอย่าลืม ว่าคอนดนั้นมันจะมีชั้นที่สูง และมีหน้าต่างกระจก หากมีการวิ่งชนกระจก อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น การติดตั้งฟิล์มกระจกนิรภัย จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้ครับ
4. ระมัดระวังเรื่องเฟอร์นิเจอร์
นอกจากจะต้องระวังกระจกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังก็คือ เฟอร์นิเจอร์ ที่มีความแข็ง และมีเหลี่ยมมีมุมด้วย เพราะเวลาเด็กเดิน หรือวิ่ง อาจจะมีการเกิดอุบัติเหตุชนมุม หรือขอบต่างๆ ของตัวเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ เช่น โต๊ะ หรือเก้าอี้ เป็นต้น หรือบางทีด้วยความซุกซนของเด็ก อาจมีการปีนป่ายเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะตู้ สำหรับในกรณีนี้ เราก็จะต้องมีการยึดตู้กับผนังให้ดี เพื่อไม่ให้ตู้ล้มได้ และสำหรับขอบโต๊ะ ก็ควรจัดหายาง หรือซิลิโคนมาหุ้มขอบมุมให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์เลือดตกยางออกได้ครับ
5. เก็บของมีคมภายในห้องให้มิดชิด
สิ่งที่ต้องระวังเอามากๆ เลยครับ ไม่ว่าเป็นที่ไหนก็ตาม ก็คือเรื่องของของมีคม เช่นมีด กรรไกร หรือคัตเตอร์ครับ ที่เราจะต้องเก็บให้มิดชิด เก็บให้เป็นที่เป็นทาง ในที่ที่พ้นมือเด็กครับ เพราะในวัยอยากรู้อยากลอง อะไรๆ ก็จะเล่นไปหมดครับ และการเล่นของมีคม ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ก็อันตรายหมดครับ
6. อย่าลืมอุดรูปลั๊กไฟ
สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับตัวเด็กเป็นอย่างมาก ก็คือความอยากรู้อยากลองนั่นเองครับ โดยอยากจะรู้อะไรต่างๆมากมาย แม้แต่รูปลั๊กไฟ ที่เด็กมักจะชอบแหย่นิ้วเข้าไปแล้วก็ถูกไฟช็อตได้ ดังนั้น เราจะต้องหาตัวอุดปลั๊กไฟมาใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟได้ด้วยครับ
7. อย่าลืมล็อคหน้าต่าง และระเบียงให้เรียบร้อยเสมอ
นอกจากการปีนป่ายตู้ต่างๆ ในห้องแล้ว อีกที่หนึ่งที่ต้องระวังมากๆ เลยก็คือระเบียงครับ เพราะอาจจะมีการปีนป่ายระเบียง จนอาจจะเกิดการพลัดตกจากห้องได้ครับ ดังนั้น ถ้าหากไม่ได้ใช้พื้นที่ระเบียง หรือไม่ได้เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศแล้ว ให้ปิดล็อคหน้าต่างไว้เลยจะดีกว่าครับ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : 7 สิ่งที่จะต้องเตรียม เมื่อคิดจะเลี้ยงลูกในคอนโด