WHEN THE DREAM COME TRUE!!!
-----Switzerland & Germany-----
คือแบบว่าเริ่มมีความฝันที่อยากจะไปเที่ยวสวิสมาตั้งแต่เริ่มมีงานทำงาน
ซื้อหนังสือท่องเที่ยวมานั่งอ่านเก็บข้อมูลอยู่ก็หลายเล่ม
หมกหมุ่นหาข้อมูลใน pantip อยู่ก็หลายปี
จนกระทั่งมีวันที่ฝันนั้นเป็นจริง ^^
ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะไปกันตั้งแต่ปี 2018 แต่แผนก็มีการเปลี่ยนแปลง
จนมาลงตัวกันที่เดือนเมษา 2019
เพราะว่ามันมีวันหยุดยาว ไม่ต้องลาเยอะ
อันเนื่องมาจากงานประจำที่ลานานมากไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนไล่ออก
นี่คือเหตุผลหลักของการเดินทางในช่วงเมษา
ขอเล่าเก็บไว้เป็นเรื่องราวความประทับใจ ย้ำเตือนความทรงจำ
ว่าครั้งหนึ่งฉันก็เคยไปมาแล้วนะ สวิสเซอร์แลนด์!!!
-แผนเที่ยว
ระยะเวลา
นั่งคิดคนเดียวว่าไปสัก 8 วันแล้วกัน แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่า
ไหนๆ จะทั้งที่ก็ไปมันนานๆ หน่อย ค่าตั๋วเครื่องบินออกจะแพง เดี๋ยวไม่คุ้ม
นางบอกมาว่างั้น และเสนอเป็น 15 วันและเพิ่มเยอรมันเข้าไปในแผนอีกหนึ่งประเทศ
กลายเป็น 15 วัน 2 ประเทศ สวิสและเยอรมัน
เอาแล้วไหมล่ะ! 15 วัน แล้วฉันจะต้องลากับหัวหน้ายังงัยดี
เขียนแผนกันคร่าวๆ แล้วคลานเข่าเข้าไปหา (เว่อร์ละ! อ้าวเหรอ ?)
พร้อมยื่นใบลาทำตาปริบๆ ใส่ เพื่อให้หัวหน้าอนุมัติวันลา
แล้วมันก็ผ่านมาได้ด้วยดี ไม่ต้องมีดราม่าดึงน้ำตาแต่อย่างใด
ตั๋วเครื่องบินจ๋า พี่มาแว้ววววววว....
-ตั๋วเครื่องบิน
แรกๆ ก็นั่งเล็งบินตรงของการบินไทยและสวิสแอร์
แต่แม่เจ้า...ราคาเปิดตัวที่ 33,000 กว่าบาท
เราสองคนก็หยิ่งคะ ไม่รีบซื้อ นั่งคิดว่าราคามันน่าจะลงกว่านี้อีกหน่อย
นั่งรอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ ตั้งเมษายันสิงหา
คุณเธอก็ไม่ยอมลดลงมาแต่อย่างใด
มีแต่เพิ่มขึ้นๆ จนไปแตะที่ 44,000 กว่าบาท
คุณพระก็คงช่วยไม่ได้ถ้าจะแพงขนาดนี้ เราสองคงสู้ไม่ไหว
ต้องหาทางเลือกใหม่...คือการต่อเครื่อง
นั้งอ่านรีวิวสายการบินอยู่อีกเกือบเดือน ก็ตกลงปลงใจกับ Singapore airline
ถามว่าราคาเท่าไหร่นะเหรอ?
สวยๆ เลยจร้า 26785 บาทขาดตัวไปเลย
Multicity BKK-SIN-ZRH >> MUC-SIN-BKK
ไป-กลับรวมแล้วสี่เที่ยวกัน นั่งกันให้เบื่อไปข้างเลยจร้า
-โรงแรมที่พัก
“สวิส 8 คืน เยอรมัน 5 คืน ต้องได้นอนที่ Zermatt ด้วยอย่างน้อย 1 คืน
และต้องได้นั่งรถไฟสาย glacier express”
นี่คือเงื่อนไขสำหรับการหาที่พักในครั้งนี้
คืนแรก ต้องเลือกระหว่าง Chur และ St. Moritz เพราะเช้าวันถัดไป
เราจะนั่งรถไฟสาย glacier express ไปหา Matterhorn
แต่ราคาที่พักที่ St. Moritz นั้นก็แพงจนเกินจะทำใจนอนได้
เลยตัดสินใจพักกันที่ Chur ที่ซึ่งราคาน่าคบหากว่ากันเยอะ
Hotel drei könige คือที่ที่เราจะพักเป็นคืนแรกของทริปนี้
คืนที่สอง แน่นอนสิคะ Zermatt คือจุดหมายปลายทางของเรา
ราคาเป็นมิตรและสภาพห้องโดยรวมเป็นที่น่าพอใจ เราสองคนเลยเลือกที่นี่คะ
Hotel Helvetia โรงแรมนี้มีอาหารเช้าให้ด้วยคะ สบายไปอีกหนึ่งมื้อ
คืนที่สาม-ห้า เรานอนกันที่ Hotel Ibis Fribourg
ถามว่ามานอนกันไกลจัง แถมยังไม่ใช่เมืองศูนย์กลางการเดินทางแต่อย่างใด
เพราะมันถูกคะ เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายภายในห้องที่ได้รับ
และการเดินทางก็ไม่ได้ลำบากแต่อย่างใด มีรถเมล์วิ่งผ่านหน้าโรงแรมด้วย
และมีอาหารเช้าให้ครบทุกมื้อ
ไม่มีเหตุผลที่คนงบน้อยอย่างเราจะไม่เลือก กดจองสิคะ รออะไร?
คืนที่หก-แปด ย้ายถิ่นฐานกลับเข้าไปสู่ศูนย์กลางของสวิส นั้นคือเมือง Lucerne.
เราพักกันที่ Hotel Ibis style Luzern (สงสัยติดใจในโรงแรมในเครือ Ibis)
ราคาที่จองนั้นรวมอาหารเช้าแล้วคะ
คืนที่เก้า-สิบ ย้ายข้ามประเทศมานอนกันที่เยอรมัน เมือง Frankfurt คะ
Novotel Frankfurt City โรงแรมนี้ดีคะ มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่น้ำอุ่นๆ ด้วย
สภาพห้องดีมาก เป็นสัดส่วนและดูใหม่ แถมราคายังถูกกว่าสวิสหลายเท่าตัว
คืนที่สิบเอ็ด-สิบสาม นั่งรถไปข้ามเมืองไปนอนที่ Munich กันคะ
Mercure Hotel München Neuperlach Süd
นอนห่างไกลความเจริญอีกแล้ว แต่เราไม่กังวลเพราะการเดินทางสะดวกสบาย
รถไฟ รถเมล์เช้าถึง ฮ่าๆๆๆ
-งบประมาณ
ตั้งกันไว้ที่คนละหนึ่งแสนบาท
พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อคุมทุกสิ่งอย่างให้อยู่ในงบนี้
ถ้าเกิน ก็ต้องหาเพิ่ม กลับตัวก็ไม่ทันแล้ว
เพราะเราจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมก่อนที่จะขอวีซ่า
เธอออออ...มั่นหน้ากันสุดๆ ว่าวีซ่าจะผ่าน!!!
ไม่ผ่านก็ขอกันอยู่นั่นแหล่ะเนอะ
-ตั๋วเดินทาง ตั๋วรถไฟ
เราสองคนตัดสินใจซื้อ swiss pass 8 วันต่อเนื่อง และ german pass 5 วันต่อเนื่องแบบเดินทางคู่กัน
เผื่อหลงขึ้นรถไฟผิดสาย ผิดฝั่ง ผิดขบวน และเผื่อความผิดพลาดในการเดินทางอีกหลายๆ อย่าง
-อินเตอร์เนต
เราใช้ Sim to fly ของ AIS คะ 899 บาท 15 วัน
-วีซ่า
สิ่งนี้สำคัญขาดไม่ได้ เดี๋ยว ตม. จะไม่ไห้ผ่านเข้าประเทศ
เรายื่นขอผ่านตัวแทน VSF Global ที่ตึกจามจุรีแสควร์ในเดือนกุมภา
เตรียมเอกสารและกรอกแบบฟอร์มตามรายการที่เค้าแจ้งมาให้ครบ
ย้ำนะคะ ว่าให้ครบ ไม่แน่ใจหรือสงสัยโทรถามเจ้าหน้าที่เลยคะ
แล้วนัดวัน เวลา ที่จะเข้าไปยื่นเอกสารแสดงตัวตนกับทาง VSF
และแล้วมันก็ผ่านไปด้วยดี ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด
เราสองคนได้รับวีซ่าและพาสปอร์ตคืนภายในหนึ่งอาทิตย์
วีซ่าผ่านแล้ววววว...เก็บเป๋ารอได้เลยฮะ
Let's go!!!!!
[SR] : WHEN THE DREAM COME TRUE >> Switzerland & Germany
-----Switzerland & Germany-----
คือแบบว่าเริ่มมีความฝันที่อยากจะไปเที่ยวสวิสมาตั้งแต่เริ่มมีงานทำงาน
ซื้อหนังสือท่องเที่ยวมานั่งอ่านเก็บข้อมูลอยู่ก็หลายเล่ม
หมกหมุ่นหาข้อมูลใน pantip อยู่ก็หลายปี
จนกระทั่งมีวันที่ฝันนั้นเป็นจริง ^^
ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะไปกันตั้งแต่ปี 2018 แต่แผนก็มีการเปลี่ยนแปลง
จนมาลงตัวกันที่เดือนเมษา 2019
เพราะว่ามันมีวันหยุดยาว ไม่ต้องลาเยอะ
อันเนื่องมาจากงานประจำที่ลานานมากไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนไล่ออก
นี่คือเหตุผลหลักของการเดินทางในช่วงเมษา
ขอเล่าเก็บไว้เป็นเรื่องราวความประทับใจ ย้ำเตือนความทรงจำ
ว่าครั้งหนึ่งฉันก็เคยไปมาแล้วนะ สวิสเซอร์แลนด์!!!
-แผนเที่ยว
ระยะเวลา
นั่งคิดคนเดียวว่าไปสัก 8 วันแล้วกัน แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่า
ไหนๆ จะทั้งที่ก็ไปมันนานๆ หน่อย ค่าตั๋วเครื่องบินออกจะแพง เดี๋ยวไม่คุ้ม
นางบอกมาว่างั้น และเสนอเป็น 15 วันและเพิ่มเยอรมันเข้าไปในแผนอีกหนึ่งประเทศ
กลายเป็น 15 วัน 2 ประเทศ สวิสและเยอรมัน
เอาแล้วไหมล่ะ! 15 วัน แล้วฉันจะต้องลากับหัวหน้ายังงัยดี
เขียนแผนกันคร่าวๆ แล้วคลานเข่าเข้าไปหา (เว่อร์ละ! อ้าวเหรอ ?)
พร้อมยื่นใบลาทำตาปริบๆ ใส่ เพื่อให้หัวหน้าอนุมัติวันลา
แล้วมันก็ผ่านมาได้ด้วยดี ไม่ต้องมีดราม่าดึงน้ำตาแต่อย่างใด
ตั๋วเครื่องบินจ๋า พี่มาแว้ววววววว....
-ตั๋วเครื่องบิน
แรกๆ ก็นั่งเล็งบินตรงของการบินไทยและสวิสแอร์
แต่แม่เจ้า...ราคาเปิดตัวที่ 33,000 กว่าบาท
เราสองคนก็หยิ่งคะ ไม่รีบซื้อ นั่งคิดว่าราคามันน่าจะลงกว่านี้อีกหน่อย
นั่งรอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ ตั้งเมษายันสิงหา
คุณเธอก็ไม่ยอมลดลงมาแต่อย่างใด
มีแต่เพิ่มขึ้นๆ จนไปแตะที่ 44,000 กว่าบาท
คุณพระก็คงช่วยไม่ได้ถ้าจะแพงขนาดนี้ เราสองคงสู้ไม่ไหว
ต้องหาทางเลือกใหม่...คือการต่อเครื่อง
นั้งอ่านรีวิวสายการบินอยู่อีกเกือบเดือน ก็ตกลงปลงใจกับ Singapore airline
ถามว่าราคาเท่าไหร่นะเหรอ?
สวยๆ เลยจร้า 26785 บาทขาดตัวไปเลย
Multicity BKK-SIN-ZRH >> MUC-SIN-BKK
ไป-กลับรวมแล้วสี่เที่ยวกัน นั่งกันให้เบื่อไปข้างเลยจร้า
-โรงแรมที่พัก
“สวิส 8 คืน เยอรมัน 5 คืน ต้องได้นอนที่ Zermatt ด้วยอย่างน้อย 1 คืน
และต้องได้นั่งรถไฟสาย glacier express”
นี่คือเงื่อนไขสำหรับการหาที่พักในครั้งนี้
คืนแรก ต้องเลือกระหว่าง Chur และ St. Moritz เพราะเช้าวันถัดไป
เราจะนั่งรถไฟสาย glacier express ไปหา Matterhorn
แต่ราคาที่พักที่ St. Moritz นั้นก็แพงจนเกินจะทำใจนอนได้
เลยตัดสินใจพักกันที่ Chur ที่ซึ่งราคาน่าคบหากว่ากันเยอะ
Hotel drei könige คือที่ที่เราจะพักเป็นคืนแรกของทริปนี้
คืนที่สอง แน่นอนสิคะ Zermatt คือจุดหมายปลายทางของเรา
ราคาเป็นมิตรและสภาพห้องโดยรวมเป็นที่น่าพอใจ เราสองคนเลยเลือกที่นี่คะ
Hotel Helvetia โรงแรมนี้มีอาหารเช้าให้ด้วยคะ สบายไปอีกหนึ่งมื้อ
คืนที่สาม-ห้า เรานอนกันที่ Hotel Ibis Fribourg
ถามว่ามานอนกันไกลจัง แถมยังไม่ใช่เมืองศูนย์กลางการเดินทางแต่อย่างใด
เพราะมันถูกคะ เมื่อเทียบกับความสะดวกสบายภายในห้องที่ได้รับ
และการเดินทางก็ไม่ได้ลำบากแต่อย่างใด มีรถเมล์วิ่งผ่านหน้าโรงแรมด้วย
และมีอาหารเช้าให้ครบทุกมื้อ
ไม่มีเหตุผลที่คนงบน้อยอย่างเราจะไม่เลือก กดจองสิคะ รออะไร?
คืนที่หก-แปด ย้ายถิ่นฐานกลับเข้าไปสู่ศูนย์กลางของสวิส นั้นคือเมือง Lucerne.
เราพักกันที่ Hotel Ibis style Luzern (สงสัยติดใจในโรงแรมในเครือ Ibis)
ราคาที่จองนั้นรวมอาหารเช้าแล้วคะ
คืนที่เก้า-สิบ ย้ายข้ามประเทศมานอนกันที่เยอรมัน เมือง Frankfurt คะ
Novotel Frankfurt City โรงแรมนี้ดีคะ มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่น้ำอุ่นๆ ด้วย
สภาพห้องดีมาก เป็นสัดส่วนและดูใหม่ แถมราคายังถูกกว่าสวิสหลายเท่าตัว
คืนที่สิบเอ็ด-สิบสาม นั่งรถไปข้ามเมืองไปนอนที่ Munich กันคะ
Mercure Hotel München Neuperlach Süd
นอนห่างไกลความเจริญอีกแล้ว แต่เราไม่กังวลเพราะการเดินทางสะดวกสบาย
รถไฟ รถเมล์เช้าถึง ฮ่าๆๆๆ
-งบประมาณ
ตั้งกันไว้ที่คนละหนึ่งแสนบาท
พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อคุมทุกสิ่งอย่างให้อยู่ในงบนี้
ถ้าเกิน ก็ต้องหาเพิ่ม กลับตัวก็ไม่ทันแล้ว
เพราะเราจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมก่อนที่จะขอวีซ่า
เธอออออ...มั่นหน้ากันสุดๆ ว่าวีซ่าจะผ่าน!!!
ไม่ผ่านก็ขอกันอยู่นั่นแหล่ะเนอะ
-ตั๋วเดินทาง ตั๋วรถไฟ
เราสองคนตัดสินใจซื้อ swiss pass 8 วันต่อเนื่อง และ german pass 5 วันต่อเนื่องแบบเดินทางคู่กัน
เผื่อหลงขึ้นรถไฟผิดสาย ผิดฝั่ง ผิดขบวน และเผื่อความผิดพลาดในการเดินทางอีกหลายๆ อย่าง
-อินเตอร์เนต
เราใช้ Sim to fly ของ AIS คะ 899 บาท 15 วัน
-วีซ่า
สิ่งนี้สำคัญขาดไม่ได้ เดี๋ยว ตม. จะไม่ไห้ผ่านเข้าประเทศ
เรายื่นขอผ่านตัวแทน VSF Global ที่ตึกจามจุรีแสควร์ในเดือนกุมภา
เตรียมเอกสารและกรอกแบบฟอร์มตามรายการที่เค้าแจ้งมาให้ครบ
ย้ำนะคะ ว่าให้ครบ ไม่แน่ใจหรือสงสัยโทรถามเจ้าหน้าที่เลยคะ
แล้วนัดวัน เวลา ที่จะเข้าไปยื่นเอกสารแสดงตัวตนกับทาง VSF
และแล้วมันก็ผ่านไปด้วยดี ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด
เราสองคนได้รับวีซ่าและพาสปอร์ตคืนภายในหนึ่งอาทิตย์
วีซ่าผ่านแล้ววววว...เก็บเป๋ารอได้เลยฮะ
Let's go!!!!!
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้