
แม้จะสร้างห่างกันยาวนานถึง 20 ปี แต่มันก็เป็นเหมือนหนังเรื่องเดียวกันที่ควรจะดูต่อเนื่องให้ครบแบบนี้ถึงจะเป็นภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เพียงแต่ว่าภาพที่เราเห็นในท้ายที่สุดมันไม่ได้เป็นภาพที่สวยสดงดงามอะไร ... เป็นเพียงภาพซีดจางของอดีตที่แสนเปราะบาง เดียวดาย และแตกสลายย่อยยับไปกับตา
.
ย้อนไปในช่วงปี 1997 อู๋เย่าตง เริ่มต้นถ่ายทำสารคดีตามติดชีวิตของ กูกั๋วถัง รุ่นพี่ที่รู้จักกันห่างๆ โดยที่ไม่ได้คาดคิดเลยว่า คาแร็คเตอร์อันซับซ้อนและชีวิตอันเต็มไปด้วยความเศร้าของกูกั๋วถัง (ทั้งการถูกข่มขืนตอนอายุ 17 การเป็นเกย์ในยุค 90 ที่สังคมยังไม่เข้าใจไม่ยอมรับ การเจ็บป่วยทางจิตจนต้องเข้าโรงพยาบาล และการติดเชื้อเอชไอวีของกูกั๋วถัง) จะทำให้เค้าต้องพบเรื่องยุ่งยากมากมาย แล้วการบีบคั้นอีกฝ่ายเพื่อให้สารคดีที่ใช้เวลาถ่ายทำยาวนานเกินหนึ่งปีเรื่องนี้จบลง ก็กลายเป็นรอยร้าวในใจของทั้งคู่
.
ผ่านมาอีก 20 กว่าปี หลังจากที่ Swimming on the Highway ประสบความสำเร็จในเทศกาลภาพยนตร์สารคดีในปี 1998 แล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้พบหน้าหรือติดต่อกันอีกเลย ด้วยแรงยุและอะไรบางอย่างในใจ อู๋เย่าตงก็ตัดสินใจหยิบกล้องออกมาบันทึกการเดินทางเพื่อไปพบหน้ากับกูกั๋วถังอีกครั้ง ทว่าเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า การพบกันครั้งนี้จะทำให้ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกันได้ หรืออะไรๆ มันจะลงเอยได้เหมือนหนังโลกสวยหรือ? ในเมื่อนี่มันคือสารคดีที่ทุกอย่างจริงไปหมดทุกอณู!
.
ชอบความเป็นกวีและภาษาแบบนวนิยายที่ผุดพรายอยู่ตลอดทั้งสองเรื่องมาก โดยเฉพาะกับ Swimming on the Highway ที่ตัวกูกั๋วถังชอบพร่ำบ่นอะไรออกมาอย่างคมคายน่าฟังเสมอ แม้ว่ามันจะน่าเจ็บปวดและแสนเศร้าแค่ไหนก็ตาม (ฉันรู้สึกเหมือนการย่ำเท้าลงบนน้ำ มันไม่มีทางเหมือนเดิม เพราะสายน้ำมันไหลไปเรื่อยๆ ไม่มีวันไหลย้อนกลับ) เช่นกัน วิธีการที่อู๋เย่าตงสื่อสารกับผู้ชมอย่างตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์กับความรู้สึกมันก็ยิ่งทำให้เราชื่นชมกับผลงาน ทั้งพาร์ตท้ายๆ ของ Swimming on the Highway ที่เค้ายอมรับว่า ขอร้องให้กูกั๋วถังแสดงแอ็คติ้งความเจ็บปวดทุกข์ทนของชีวิตออกมาหลายต่อหลายเทค หรือใน Goodnight & Goodbye ที่ในที่สุด เค้าก็ยอมรับออกมาเสียทีว่า เค้าแค่อยากจะถ่ายหนังเพราะมองเห็นโอกาส แล้วการไปนั่งเอ่ยคำขอโทษมันก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเพื่อลบความรู้สึกผิดของตัวเอง หรือแม้แต่ความรู้สึกที่เค้ามีต่อกูกั๋วถังที่เต็มไปด้วยความชิงชังแต่ก็แสนผูกพัน
.
ปวดร้าวยิ่งกว่ากับการได้เห็นความรุ่งโรจน์และร่วงหล่นของชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ถึงใน Swimming on the Highway เราจะเริ่มเห็นแล้วว่าชีวิตของกูกั๋วถังนั้นเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เราก็ยังรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ช่างมีเสน่ห์ มีประกายเจิดจ้า และพลังของความหม่นเศร้าที่ฉายออกมารอบตัวก็ช่างดึงดูดให้เราอยากรู้จักเค้าให้มากขึ้น แม้ว่าเค้าจะกวนตีนและทำตัวน่าปวดหัวมากแค่ไหนก็ตาม ทว่าพอถึง Goodnight & Goodbye ชายชราร่างบอบบางที่อยู่บนจอหน้ากลับเป็นเพียงเงาร่างที่รอคอยวันสูญสลายหายไปจากโลกใบนี้ มันชวนให้คิดถึงซีนเปิดของ Swimming on the Highway ที่เราได้เห็นพลุบนท้องฟ้าไทเป และซีนท้ายๆ ที่กูกั๋วถังจ้องมองกล้องด้วยแววตาชวนสะพรึง โดยที่มีฉากหลังเป็นพลุสว่างไสว ... เพราะชีวิตของเค้าและเราทุกคนมันก็เป็นเพียงพลุที่เจิดจ้าเพียงชั่วครู่ และดับวูบไปในที่สุดไม่ต่างกัน
.
เราได้ดู Swimming on the Highway ฉายควบต่อกับ Goodnight & Goodbye ในเทศกาลหนังสารคดีไต้หวัน 2019 ซึ่งจัดขึ้นโดย
Documentary Club เมื่อปลายปี 2019 และไม่รู้เหมือนกันว่า คนอื่นๆ จะได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้อีกหรือเปล่า ก็ต้องติดตามกันต่อไป
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่
เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
[CR] [Review] Swimming on the Highway (1998) + Goodnight & Goodbye (2018)
แม้จะสร้างห่างกันยาวนานถึง 20 ปี แต่มันก็เป็นเหมือนหนังเรื่องเดียวกันที่ควรจะดูต่อเนื่องให้ครบแบบนี้ถึงจะเป็นภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เพียงแต่ว่าภาพที่เราเห็นในท้ายที่สุดมันไม่ได้เป็นภาพที่สวยสดงดงามอะไร ... เป็นเพียงภาพซีดจางของอดีตที่แสนเปราะบาง เดียวดาย และแตกสลายย่อยยับไปกับตา
.
ย้อนไปในช่วงปี 1997 อู๋เย่าตง เริ่มต้นถ่ายทำสารคดีตามติดชีวิตของ กูกั๋วถัง รุ่นพี่ที่รู้จักกันห่างๆ โดยที่ไม่ได้คาดคิดเลยว่า คาแร็คเตอร์อันซับซ้อนและชีวิตอันเต็มไปด้วยความเศร้าของกูกั๋วถัง (ทั้งการถูกข่มขืนตอนอายุ 17 การเป็นเกย์ในยุค 90 ที่สังคมยังไม่เข้าใจไม่ยอมรับ การเจ็บป่วยทางจิตจนต้องเข้าโรงพยาบาล และการติดเชื้อเอชไอวีของกูกั๋วถัง) จะทำให้เค้าต้องพบเรื่องยุ่งยากมากมาย แล้วการบีบคั้นอีกฝ่ายเพื่อให้สารคดีที่ใช้เวลาถ่ายทำยาวนานเกินหนึ่งปีเรื่องนี้จบลง ก็กลายเป็นรอยร้าวในใจของทั้งคู่
.
ผ่านมาอีก 20 กว่าปี หลังจากที่ Swimming on the Highway ประสบความสำเร็จในเทศกาลภาพยนตร์สารคดีในปี 1998 แล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้พบหน้าหรือติดต่อกันอีกเลย ด้วยแรงยุและอะไรบางอย่างในใจ อู๋เย่าตงก็ตัดสินใจหยิบกล้องออกมาบันทึกการเดินทางเพื่อไปพบหน้ากับกูกั๋วถังอีกครั้ง ทว่าเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า การพบกันครั้งนี้จะทำให้ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกันได้ หรืออะไรๆ มันจะลงเอยได้เหมือนหนังโลกสวยหรือ? ในเมื่อนี่มันคือสารคดีที่ทุกอย่างจริงไปหมดทุกอณู!
.
ชอบความเป็นกวีและภาษาแบบนวนิยายที่ผุดพรายอยู่ตลอดทั้งสองเรื่องมาก โดยเฉพาะกับ Swimming on the Highway ที่ตัวกูกั๋วถังชอบพร่ำบ่นอะไรออกมาอย่างคมคายน่าฟังเสมอ แม้ว่ามันจะน่าเจ็บปวดและแสนเศร้าแค่ไหนก็ตาม (ฉันรู้สึกเหมือนการย่ำเท้าลงบนน้ำ มันไม่มีทางเหมือนเดิม เพราะสายน้ำมันไหลไปเรื่อยๆ ไม่มีวันไหลย้อนกลับ) เช่นกัน วิธีการที่อู๋เย่าตงสื่อสารกับผู้ชมอย่างตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์กับความรู้สึกมันก็ยิ่งทำให้เราชื่นชมกับผลงาน ทั้งพาร์ตท้ายๆ ของ Swimming on the Highway ที่เค้ายอมรับว่า ขอร้องให้กูกั๋วถังแสดงแอ็คติ้งความเจ็บปวดทุกข์ทนของชีวิตออกมาหลายต่อหลายเทค หรือใน Goodnight & Goodbye ที่ในที่สุด เค้าก็ยอมรับออกมาเสียทีว่า เค้าแค่อยากจะถ่ายหนังเพราะมองเห็นโอกาส แล้วการไปนั่งเอ่ยคำขอโทษมันก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเพื่อลบความรู้สึกผิดของตัวเอง หรือแม้แต่ความรู้สึกที่เค้ามีต่อกูกั๋วถังที่เต็มไปด้วยความชิงชังแต่ก็แสนผูกพัน
.
ปวดร้าวยิ่งกว่ากับการได้เห็นความรุ่งโรจน์และร่วงหล่นของชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ถึงใน Swimming on the Highway เราจะเริ่มเห็นแล้วว่าชีวิตของกูกั๋วถังนั้นเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เราก็ยังรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ช่างมีเสน่ห์ มีประกายเจิดจ้า และพลังของความหม่นเศร้าที่ฉายออกมารอบตัวก็ช่างดึงดูดให้เราอยากรู้จักเค้าให้มากขึ้น แม้ว่าเค้าจะกวนตีนและทำตัวน่าปวดหัวมากแค่ไหนก็ตาม ทว่าพอถึง Goodnight & Goodbye ชายชราร่างบอบบางที่อยู่บนจอหน้ากลับเป็นเพียงเงาร่างที่รอคอยวันสูญสลายหายไปจากโลกใบนี้ มันชวนให้คิดถึงซีนเปิดของ Swimming on the Highway ที่เราได้เห็นพลุบนท้องฟ้าไทเป และซีนท้ายๆ ที่กูกั๋วถังจ้องมองกล้องด้วยแววตาชวนสะพรึง โดยที่มีฉากหลังเป็นพลุสว่างไสว ... เพราะชีวิตของเค้าและเราทุกคนมันก็เป็นเพียงพลุที่เจิดจ้าเพียงชั่วครู่ และดับวูบไปในที่สุดไม่ต่างกัน
.
เราได้ดู Swimming on the Highway ฉายควบต่อกับ Goodnight & Goodbye ในเทศกาลหนังสารคดีไต้หวัน 2019 ซึ่งจัดขึ้นโดย Documentary Club เมื่อปลายปี 2019 และไม่รู้เหมือนกันว่า คนอื่นๆ จะได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้อีกหรือเปล่า ก็ต้องติดตามกันต่อไป
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้