ว่าด้วยเรื่องสินเชื่อโควิด19 ของ ธนาคารสีชมพู

สวัสดีครับ วันนี้แค่อยากแชร์มุมมองกับสิ่งที่ได้เจอกับ เจ้านโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับโควิด19 ที่ดำเนินการโดย ธ.สีชมพู
เนื่องด้วย จขกท.ทำงานในธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม แน่นอนผลกระทบมันมีทั้งลดวันทำงาน ลดเงินเดือน ค่าบริการก็ไม่มีเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว
แทบไม่มีคนใช้บริการเลย จะขอชดเชยจาก ประกันสังคมก็ไม่เข้าเกณฑ์ใดๆ ลงทะเบียน 5,000 บาทก็ทำไม่ได้ 
พอดีเห็นว่ารัฐบาลมีนโยบายผ่าน ธ.สีชมพู ให้ผู้ได้รับกระทบกู้ฉุกเฉิน (ที่ไม่ฉุกเฉิน) จำนวนเงิน 10,000 บาท สำหรับผู้ทำอาชีพอิสระ
และจำนวน 50,000 บาท สำหรับผู้มีรายได้ประจำ

ให้ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ก็ลงไป ตั้งแต่ 15/4 จนกระทั่ง 1/5 ถึงได้มี sms ให้ไปติดต่อธนาคารพร้อมเอกสารตามลิงค์ที่แนบมา
เราก็ไปติดต่อ จนท.ที่เขาเรียกกันว่า ผู้การ ก็ทำเรื่องถามนู่นนั่นนี่ ให้เราเปิดบัญชี ให้ทำบัตรatm เพราะบอกว่าถ้าดูจากอื่นๆที่มาน่าจะผ่านแหล่ะ
แล้วก็ซักว่าทำงานที่ไหนอย่างไร ขอเอกสารนู่นนั่นนี่เพิ่มเติม ให้เราสมัครบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต บอกเผื่อเอาไว้ เสียเวลา อยู่2 ชั่วโมงกว่าๆ

แล้วเขาก็บอกว่าจะใช้เวลา พิจารณา 7-14 วัน ไม่นับวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดใดๆ ประมาณ 10 วันมี จนท.โทรจากบัตรเครดิตออมสินสอบถามแล้ว
ก็บอกให้รอไม่เกิน 7 วันพิจารณา ก็เงียบโทรหาคอลเซ็นเตอร์ก็ตอบอะไรไม่ได้สักอย่าง ได้แต่บอกว่า รอ รอ และ รอค่ะ คือจะบอกว่าต่างจากธนาคาร
อื่นอย่างเห็นได้ชัด

กระทั่งวันนี้โทรหาอีกรอบ จึงได้ให้เบอร์มือถือของสาขามา เราจึงถามเขาก็เลยบอกว่าไม่ผ่านเพราะภาระหนี้เกิน และไม่มีใคร แล้วไม่มีใครโทรแจ้งหรอ

เดี๋ยวนะ คือ เข้าใจหรือเปล่าว่า นี่คือคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด เหตุผล ข้อมูล เอกสารเงินเดือนกับสิ่งที่สลิปเงินเดือนมันชี้แจงก็บอกชัดเจน

ภาระนี่คือ บ้าน 1 หลัง ส่วนรถไม่มี และบัตรเครดิตก็ใช้ปกติไม่เคยผิดนัดชำระ ไม่เคยจ่ายล่าช้าหรือขั่นต่ำ ใช้เท่าที่จ่ายไหว คือค่อนข้างมั่นใจเรื่องบูโร พอสมควร ถ้าดูกันขนาดนี้กับเงิน 50,000 บาท ปล่อยกู้บ้านหลังที่ 2 เลยมั้ยครับ แหม

แต่ก็นั่นแหล่ะคือ ถ้าเขาบอกว่าไม่ให้ก็ไม่ว่ากัน แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกชัดๆ คือ นี่คือ มาตรการหาเงินฝาก หายอดเปิดบัญชี หายอดบัตรเดบิต  จากประชาชนที่เดือดร้อนถูกต้องมั้ยเพราะไปตามอ่านก็มีคนไม่ผ่านเกณฑ์เยอะมากแต่โดนกรณีเปิดบัญชีกับบัตรเอทีเอ็มเพียบ 

แต่ก็พอจะได้บทเรียนแล้วล่ะว่า อย่าเอาตัวเองไปเสียเวลาอะไรกับมาตรการใดๆของรัฐ ที่ผ่านหน่วยงานของรัฐ โดยเด็ดขาดเพราะ ไม่มีความจริงใจ ที่จะช่วยเหลือจริงๆ 

ส่วน ประกันสังคม  ผมว่าเราควรมาทบทวนกันได้แล้วครับว่ามันควรมีอยู่หรือต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร แล้วเราสามารถเลือกที่จะไม่จ่ายได้หรือไม่ เพราะถึงเวลามันก็ไม่ได้ช่วยเราเลยจริงๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่