สวัสดีค่ะ... เข้าเรื่องเลยละกัน เริ่มด้วย "ค่ะ" แบบนี้ แน่นอนอยู่แล้ว เราเป็นผู้หญิง คือเรา... จะเรียกว่าสับสนได้ไหม? ตอนนี้เราอยู่บ้าน กำลังหาข้อมูลเรื่องมหาลัยอยู่ วันนี้เราอายุ 17 กำลังจะขึ้น ม.6 แล้ว ก็เห็นเพื่อนเจอสิ่งที่ชอบ เริ่มหาคณะที่ใช่ ตั้งใจมากกกกที่จะได้เรียนได้ทำงานมีความสุข มีเราเนี่ยยังมานั่งตั้งกระทู้ในนี้ ด้วยความที่... เรียกว่า "ขี้เบื่อ" เลยก็ได้ รู้สึกไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ(ความรู้สึกดานไปแล้ว) คือก็ไม่ได้ไม่เคยชอบอะไรนะ ความชอบมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เอาเป็นว่าเรารวบรวมไว้ในนี้เลยละกัน
"อยากเป็นดารา" ...ค่ะ ความชอบแรกเลย ก็เด็กอะดูทีวีมันก็ต้องอยากเป็นดาราอะนะ แต่ความคิดนี้หายไปละ เพราะเราอ้วน
"อยากเป็นนักข่าว" ตอนนั้นแม่ดูข่าวหนัก อยากเป็นนักข่าว
"อยากเป็นนักร้อง" ตอนนั้นดู the star ค่ะ ร้องเพลงร้องตามแต่ตอนนั้นอายุยังไม่ถึง พออายุถึง รายการปิด(จริงๆถ้ารายการยังอยู่ก็ไม่รู้จะไปสมัครดีรึเปล่า เราก็ไม่ใช่คนร้องเพลงเพราะแบบ โอ้ววววว ขนาดนั้น พี่ๆthe starแต่ละคนคือสุดยอดมาก
"อยากเป็นเชฟ" ตอนนั้นรู้สึกอยากทำอาหาร แนวใช้หน้าตาอะ ประกอบกับศิลปะที่เราชอบ
"อยากเป็นนักจิตวิทยา" ไม่รู้ ตอนนั้นอยากเป็น
"อยากเป็นสัตวแพทย์" เรารักสัตว์นะ แต่เรายืนยัน นั่งยัน ตีลังกายันเลยว่าเราไม่ได้อยากเป็นเพราะแค่รัก เราอยากทำอะไรซักอย่างกับปัญหาหมาแมวจรจัดซักที ถึงจะมีคนบอกว่า "มีหมาแมวจรจัดทำให้เรารู้จักแบ่งปัน มีเมตตา แต่ข่าวหมาจรจัดถูกทำร้ายมันก็มีปะ ถ้าแก้ที่ใจคนไม่ได้ก็เอาหมามา
"อยากเป็น youtuber " ตอนนั้นเริ่มดู youtube ค่ะ เราเห็นเขาไปเที่ยวแล้วก็ถ่ายคลิปตัดต่อ ลง! และบวกกับงานมัธยมมีทำคลิปนำเสนองานโน้นนี่ เราเป็นคนตัดต่อ เราชอบอะ แต่เราขี้เขินอะ เคยชวนเพื่อนแล้ว แต่ก็เงียบไป... ก็เป็นความคิดเล็กๆอะ
"อยากเป็นนักเขียนการ์ตูน" + "อยากเป็นนักเขียนนิยาย" อันนี้ใกล้กันมาก จากที่ศึกษามารู้สึกว่าจำนวนคนอ่านนิยายมากกว่าคนอ่านการ์ตูน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะคนอ่านการ์ตูนก็ไม่น้อย แถม วาดการ์ตูน+youtube ก็ทำได้ ส่วนเรื่องนิยาย เราไม่เคยอ่านนิยายนะ แล้วเราก็แต่งเรื่องไม่เก่ง ไม่น่าติดตาม ไม่น่าสนใจ แต่เราก็สนใจในการเขียนนิยายเพราะเรา
"อยากเป็นคนเขียนบทละคร" ใช่ เราเห็นว่าซีรี่ย์ gmm หลายเรื่องมาจากนิยาย คือเรารู้แหละ บทละคร บทนิยาย บทการ์ตูน มันต่างกัน แต่เราเองไม่เคยเห็นหน้าตาบทละคร เราไม่รู้ว่าต้องใส่อะไรลงไปบ้าง มันจะมีแค่บทพูดจริงๆเหรอ?
...แต่เดี๋ยววววว ตรงนี้มี story จำได้ไหมเราเคยอยากเป็นสัตวแพทย์ ตรงนี้เป็นรอยต่อ เราอยากเป็นสัตวแพทย์ตลอดทั้ง ม.ต้น จนได้เข้าสายวิทย์ตอน ม.4 แต่เราไปจำคำพูดของอาจารย์คนนึง เคยพูดไว้ก่อนเราขึ้น ม.ปลาย เพื่อเลือกสายการเรียน "ถ้าเราเจอสิ่งที่ชอบ เราจะสามารถอยู่กับมันได้ทุกวัน ทั้งวันโดยไม่กิน ไม่นอนได้" เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเราแล้ว แต่เกิดขึ้นกับการวาดรูป ไม่ใช่การเรียน ตอนนั้นเราสับสนมาก หัวปั่นคิดเรื่องนี้ตลอดเวลา (เราเองก็แอบเป็นคนคิดมากเหมือนกันนะเนี่ย แต่มันคือทั้งชีวิตของเรา เราเลยคิด) เราไปปรึกษาพ่อแล้วนะ พ่อเองก็ให้คำแนะนำว่า "ถ้าเราจะเป็นสัตวแพทย์เพื่อเป้าหมายนี้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นสัตวแพทย์" อื้มมม...เราว่าจริง เราเคยปรึกษาครูมา เขาเองก็บอกว่าปกติมาก ความชอบเราเป็นไปเรื่อยอยู่แล้ว ถึงเวลานั้นเดี๋ยวเราก็รู้เอง เราก็..เชื่อ โอเคร เรากลายเป็นคนไม่มีเป้าหมายไปเลยตอนนั้น5555 คือสมองเราโล่งแบไม่เหลืออะไรเลยอะ คิดว่าถึงเวลา..เดี๋ยวก็รู้เอง ให้ดวงตัดสิน สอบติดอะไรเข้าอันนั้นแหละ แล้วเหมือนตอนนี้มันถูก reset ใหม่อีกครั้ง "อยากเป็นดารา " "อยากเป็นนักร้อง" (เรื่องอยากเป็นนักร้องได้ข่าวว่า the star idol เองก็กลับมา แต่เพิ่มเรื่องเต้นมา เรายังเต้นเป็นเด็กค่ายลูกเสืออยู่เลยอะไม่รู้จะผิดกฎรึเปล่า) "อยากเป็นเชฟ" "อยากเป็นนักจิตวิทยา" "อยากเป็นสัตวแพทย์" "อยากเป็น youtuber " "อยากเป็นนักเขียนการ์ตูน" "อยากเป็นคนเขียนบทละคร" กลับมาทั้งหมด บวกด้วยเรา "อยากเป็นพิธีกร!!!! (เอาเข้าไป)" เอิ่มมมมมม
เราเคยคิดนะ เราเองก็อยากเปิดคาเฟ่เน้นแนว art เป็นของตัวเอง มันก็ค่อยข้างเสี่ยงอยู่แหละ แต่ถ้าเราทำให้มันมีจุดเด่นขึ้นมา ยังไงก็อยู่ได้ แต่ธุรกิจแบบนี้ยังไงก็ต้องมีทุน เราก็ต้องทำงานเองก่อน เราไม่อยากรบกวนพ่อแม่แล้ว ก็คิดว่างานที่จะทำก่อนทำเป้าหมายนี้ก็จะเป็นประมาณอยากโน้นอยากเป็นนี่อะไรของเรานี่แหละ แต่ดูสิตอนนี้ยังมานั่งตั้งกระทู้อยู่เลย
- - - ได้อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง อยากบอกอะไรเจ้าของกระทู้รึเปล่า หรืออยากด่า..... ติเตือนอะไรเจ้าของกระทู้กันบ้าง
อยากแนะนำอะไรเจ้าของกระทู้ไหม "แต่ถ้าจะแนะนำว่า เลิกตั้งกระทู้แล้วไปหาอะไรทำซะ!!!! " ไม่ต้องห่วง เขียนเสร็จก็จะไปหาอะไรทำแล้วล่ะ
หรืออยากเขกกะโหลกเจ้าของซักกี่ทีกัน
เรามีความสุขนะที่ได้เขียนกระทู้นี้
- - - - สุดท้ายนี้ขอบคุณทู๊กกกกกกคนที่อ่านจบจนถึงคำนี้ ขอบคุณที่ให้รบกวนนะคะ
เราต้องเลือกแล้วรึเปล่า?
"อยากเป็นดารา" ...ค่ะ ความชอบแรกเลย ก็เด็กอะดูทีวีมันก็ต้องอยากเป็นดาราอะนะ แต่ความคิดนี้หายไปละ เพราะเราอ้วน
"อยากเป็นนักข่าว" ตอนนั้นแม่ดูข่าวหนัก อยากเป็นนักข่าว
"อยากเป็นนักร้อง" ตอนนั้นดู the star ค่ะ ร้องเพลงร้องตามแต่ตอนนั้นอายุยังไม่ถึง พออายุถึง รายการปิด(จริงๆถ้ารายการยังอยู่ก็ไม่รู้จะไปสมัครดีรึเปล่า เราก็ไม่ใช่คนร้องเพลงเพราะแบบ โอ้ววววว ขนาดนั้น พี่ๆthe starแต่ละคนคือสุดยอดมาก
"อยากเป็นเชฟ" ตอนนั้นรู้สึกอยากทำอาหาร แนวใช้หน้าตาอะ ประกอบกับศิลปะที่เราชอบ
"อยากเป็นนักจิตวิทยา" ไม่รู้ ตอนนั้นอยากเป็น
"อยากเป็นสัตวแพทย์" เรารักสัตว์นะ แต่เรายืนยัน นั่งยัน ตีลังกายันเลยว่าเราไม่ได้อยากเป็นเพราะแค่รัก เราอยากทำอะไรซักอย่างกับปัญหาหมาแมวจรจัดซักที ถึงจะมีคนบอกว่า "มีหมาแมวจรจัดทำให้เรารู้จักแบ่งปัน มีเมตตา แต่ข่าวหมาจรจัดถูกทำร้ายมันก็มีปะ ถ้าแก้ที่ใจคนไม่ได้ก็เอาหมามา
"อยากเป็น youtuber " ตอนนั้นเริ่มดู youtube ค่ะ เราเห็นเขาไปเที่ยวแล้วก็ถ่ายคลิปตัดต่อ ลง! และบวกกับงานมัธยมมีทำคลิปนำเสนองานโน้นนี่ เราเป็นคนตัดต่อ เราชอบอะ แต่เราขี้เขินอะ เคยชวนเพื่อนแล้ว แต่ก็เงียบไป... ก็เป็นความคิดเล็กๆอะ
"อยากเป็นนักเขียนการ์ตูน" + "อยากเป็นนักเขียนนิยาย" อันนี้ใกล้กันมาก จากที่ศึกษามารู้สึกว่าจำนวนคนอ่านนิยายมากกว่าคนอ่านการ์ตูน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะคนอ่านการ์ตูนก็ไม่น้อย แถม วาดการ์ตูน+youtube ก็ทำได้ ส่วนเรื่องนิยาย เราไม่เคยอ่านนิยายนะ แล้วเราก็แต่งเรื่องไม่เก่ง ไม่น่าติดตาม ไม่น่าสนใจ แต่เราก็สนใจในการเขียนนิยายเพราะเรา
"อยากเป็นคนเขียนบทละคร" ใช่ เราเห็นว่าซีรี่ย์ gmm หลายเรื่องมาจากนิยาย คือเรารู้แหละ บทละคร บทนิยาย บทการ์ตูน มันต่างกัน แต่เราเองไม่เคยเห็นหน้าตาบทละคร เราไม่รู้ว่าต้องใส่อะไรลงไปบ้าง มันจะมีแค่บทพูดจริงๆเหรอ?
...แต่เดี๋ยววววว ตรงนี้มี story จำได้ไหมเราเคยอยากเป็นสัตวแพทย์ ตรงนี้เป็นรอยต่อ เราอยากเป็นสัตวแพทย์ตลอดทั้ง ม.ต้น จนได้เข้าสายวิทย์ตอน ม.4 แต่เราไปจำคำพูดของอาจารย์คนนึง เคยพูดไว้ก่อนเราขึ้น ม.ปลาย เพื่อเลือกสายการเรียน "ถ้าเราเจอสิ่งที่ชอบ เราจะสามารถอยู่กับมันได้ทุกวัน ทั้งวันโดยไม่กิน ไม่นอนได้" เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเราแล้ว แต่เกิดขึ้นกับการวาดรูป ไม่ใช่การเรียน ตอนนั้นเราสับสนมาก หัวปั่นคิดเรื่องนี้ตลอดเวลา (เราเองก็แอบเป็นคนคิดมากเหมือนกันนะเนี่ย แต่มันคือทั้งชีวิตของเรา เราเลยคิด) เราไปปรึกษาพ่อแล้วนะ พ่อเองก็ให้คำแนะนำว่า "ถ้าเราจะเป็นสัตวแพทย์เพื่อเป้าหมายนี้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นสัตวแพทย์" อื้มมม...เราว่าจริง เราเคยปรึกษาครูมา เขาเองก็บอกว่าปกติมาก ความชอบเราเป็นไปเรื่อยอยู่แล้ว ถึงเวลานั้นเดี๋ยวเราก็รู้เอง เราก็..เชื่อ โอเคร เรากลายเป็นคนไม่มีเป้าหมายไปเลยตอนนั้น5555 คือสมองเราโล่งแบไม่เหลืออะไรเลยอะ คิดว่าถึงเวลา..เดี๋ยวก็รู้เอง ให้ดวงตัดสิน สอบติดอะไรเข้าอันนั้นแหละ แล้วเหมือนตอนนี้มันถูก reset ใหม่อีกครั้ง "อยากเป็นดารา " "อยากเป็นนักร้อง" (เรื่องอยากเป็นนักร้องได้ข่าวว่า the star idol เองก็กลับมา แต่เพิ่มเรื่องเต้นมา เรายังเต้นเป็นเด็กค่ายลูกเสืออยู่เลยอะไม่รู้จะผิดกฎรึเปล่า) "อยากเป็นเชฟ" "อยากเป็นนักจิตวิทยา" "อยากเป็นสัตวแพทย์" "อยากเป็น youtuber " "อยากเป็นนักเขียนการ์ตูน" "อยากเป็นคนเขียนบทละคร" กลับมาทั้งหมด บวกด้วยเรา "อยากเป็นพิธีกร!!!! (เอาเข้าไป)" เอิ่มมมมมม
เราเคยคิดนะ เราเองก็อยากเปิดคาเฟ่เน้นแนว art เป็นของตัวเอง มันก็ค่อยข้างเสี่ยงอยู่แหละ แต่ถ้าเราทำให้มันมีจุดเด่นขึ้นมา ยังไงก็อยู่ได้ แต่ธุรกิจแบบนี้ยังไงก็ต้องมีทุน เราก็ต้องทำงานเองก่อน เราไม่อยากรบกวนพ่อแม่แล้ว ก็คิดว่างานที่จะทำก่อนทำเป้าหมายนี้ก็จะเป็นประมาณอยากโน้นอยากเป็นนี่อะไรของเรานี่แหละ แต่ดูสิตอนนี้ยังมานั่งตั้งกระทู้อยู่เลย
- - - ได้อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง อยากบอกอะไรเจ้าของกระทู้รึเปล่า หรืออยากด่า..... ติเตือนอะไรเจ้าของกระทู้กันบ้าง
อยากแนะนำอะไรเจ้าของกระทู้ไหม "แต่ถ้าจะแนะนำว่า เลิกตั้งกระทู้แล้วไปหาอะไรทำซะ!!!! " ไม่ต้องห่วง เขียนเสร็จก็จะไปหาอะไรทำแล้วล่ะ
หรืออยากเขกกะโหลกเจ้าของซักกี่ทีกัน
เรามีความสุขนะที่ได้เขียนกระทู้นี้
- - - - สุดท้ายนี้ขอบคุณทู๊กกกกกกคนที่อ่านจบจนถึงคำนี้ ขอบคุณที่ให้รบกวนนะคะ