เป็นวิศวกรครับ ผมล้มเหลวกับหน้าที่การงานเเละชีวิตมาก ผมขอเล่าสมัยตอนที่ผมเรียนหนังสืออยู่ตอนที่ผมเรียนอยู่มหาลัยโดนเพื่อนๆกลั่นเเกล้งจากตนเองที่เคยขยันเรียนมาก่อนกลับต้องมาเรียนด้วยเกรดที่เเต่จนสุดท้ายผมจบออกมาด้วยเกรดเฉลี่ยเป็นที่บ็วยสุดของเมเจอร์ที่เรียน ผมเรียนวิศวะคอมนะครับ หลังจากเรียนจบมาผมคิดว่าชีวิตผมจะดีขึ้นผมเริ่มทำงานที่เเรกเป็น dev ผมทำได้2เดือนก็โดนไรออกจากงานเพราะเข้าคนในองศ์กรไม่ได้ ไม่มีใครมาให้งานผททำ ไม่สอนอะไรให้ทั้งนั้นด้วย เพราะผมคนขี้อายและก็เงียบๆ เพื่อนๆก็ขี้อิจฉา ชอบแต่จะแข่งขีน จนเราไม่สามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆได้เลย จึงทำให้ผมต้องเลิกอาชีพนี้ไป หลังจากนั้นก็หางาน โดยไม่ได้บอกใครที่บ้านให้รู้เเค่เเกล้งบอกว่าออกไปทำงานเเต่จริงไปสัมพาดหางานใหม่ บางวันไม่มีเรียกก็ไปสิงที่ห้างบ้าง ร้านกาเเฟ โรงเเรมบ้างเพื่อไม่ให้คนที่บ้านรู้ กลัวโดนที่บ้านดูถูก เเละเเล้วผ่านไป 2 อาทิตย์ ผมก็ได้งานใหม่ เป็นงานซ่อมคอม คนขนของ เป็นสัญญาจ้างด้วย สถาพสังคมก็แบบเดิมเลย มีแต่คนขี้อิจฉา นินทา และดูถูกเราทุกเรื่อง ทำมาได้ปีกว่าๆ ก็คิดว่ารู้ตัวว่าจะไปทางไหนได้อยากก้าวหน้ามากขึ้น จึงออกหางานใหม่ เเต่กว่าจะได้งานก็หายากมาจนบ้างทีเป็นลมกลางทางไปเลยระหว่างไปสัมพาด เราอยากกลับไปเป็นวิศวะกร หลายที่ไม่รับเราเพราะว่าเราประสบการณ์ไม่ดี บ้างวันสัมพาดอยู่ตอบคำถามเข้าไม่ได้ จนเดินออกจากห้องสัมพาดเองเลย แต่แล้วจนกระทั้งได้ผมได้งานเป็นวิศะระบบของบริษัทเเห่งหนึ่ง ผมคงคิดว่านี่อาจจะประสบความสำเร็จเเล้ว เเต่ไม่ใช้เลยครับกลับเป็นว่าเจอนรกเเบบโหดกว่าเดิม ผมกลับมาอยู่ใน loop เดิมผมปรับตัวเข้าเพื่อนไม่ได้ คนในที่ทำงานชอบการเเข่งขัน ขี้อิจฉา ชอบที่จะเอาชนะเราทุกเรื่อง บางวันต้องออกไปร้องไห้ข้างนอกเพื่อกลับเข้ามา ชีวิตการทำงานมันยากเสียจริง จนกระทั้งวันหนึ่งหัวหน้าเขาให้ผมสอบวัดเเข่งกับเพื่อนกัน ผมดันสอบตก หัวหน้าเลยไล่ผมออกจากงาน เพื่อนคนนั้นดีใจเเบบว่าเราต้องอิจฉาเขามาก เราไม่รู้จะไปทำไรต่อเเล้ว ตอนเองผมก็ต้องมุ่งมั่นหางานหลายที่เเละก็ยังหาไม่ได้เลยสักที่ จนตอนนี้รู้สึกว่าเรากลัวกับสังคมการทำงานมาก กล้วมากมากจนไม่อยากกลับไปทำงานเเล้ว เเต่เราจะทำไรกิน เพราะไม่ว่าจะที่ไหนเจอเเต่ตนเห็นเเกตัวเรา เรามันคนซื่อๆ ทำอะไรก็กลัวๆคนอื่นเขาไปหมด เเละผมหาในสิ่งที่จะทำไรต่อไปไม่ได้แล้วครับตอนนี้ ทุกครั้งที่เริ่มทำหรือเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เรามักจะคิดไปว่าเราจะอยู่กับสภาพเเวดล้อมนี้ได้หรอ เดี๋ยวก็ต้องเจอการเเข่งขัน เเรงกดดัน สุดท้ายเราก็ต้องทิ้งในสิ่งที่เราบอกว่า เรารักสิ่งนั้น ผมมันไม่ไอ้ขี้เเพ้ได้อย่างสมบูณร์เเบบเลยครับ บนโลกใบนี้เราคงไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยสักอย่าง ผมไปเจอเพื่อนๆหลายคนทั้งมหาลัยบ้างมัธยมบ้างเพื่อนที่ทำงานเขาบ้าง ทุกคนก้าวหน้าในงานเขากับเกือบหมดเลย สุดท้ายเรามันก็ไอ้ขี้เเพ้จริงๆเเล้วก็จะเป็นไอ้ขี้เเพ้จนไม่วันที่เปลี่ยนเเปลงตัวเองได้จริงๆ ธรรมชาติจะคัดสรรคนที่เเข็งเเรงจริงๆเท่านั้น เเละเราก็คงจะไม่ใช้คนที่ธรรมชาติต้องการจริงๆครับ ขอบคุณครับที่อ่านมาจนถึงตอนนี้
ชีวิตที่เหลวเเหลก