คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เป็นคำถามที่ดีมากเลย ขออนุโมทนา
เจ้าของกระทู้อาจจะคิดว่าตัวเองอ่านแล้วเข้าใจยาก
จากประสบการณ์ของผมที่ได้สนทนากับคนที่เอาพระไตรปิฏกมาโพสต์ แม้จะอยู่มาเป็นสิบปีแล้วก็ตาม ดูเหมือนเป็นผู้รู้ แต่พอผมลองให้อธิบายความหมายหรือตีความพระสูตรนั้นให้ฟัง ตีความไปคนละเรื่องเลย
นั่นหมายความว่า แม้แต่คนที่เอาพระสูตรมาโพสต์เอง ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาที่แท้จริง
ความเห็นผม ถ้าเป็นผู้ที่เข้าใจธรรมะจริงๆ เขาจะไม่ใช้ศัพท์บาลีมากๆ และเวลาที่ยกพระสูตร จะสรุปให้เราด้วย (เพราะเขาจะรู้ว่าไม่มีทางที่จะเข้าใจสำนวนสมัยโบราณแน่ๆ แต่ถ้าขยายความให้ฟังจึงจะเข้าใจ)
สำหรับคำแนะนำของผม เนื่องจากการแปลภาษาบาลีเป็นไทย ใช้สำนวนที่เข้าใจยาก และเป็นสำนวนที่ใช้กันหลายร้อยปีที่แล้ว ดังนั้น ผมขอแนะนำให้ลองอ่านหนังสือชื่อว่า "พุทธธรรม" ของหลวงพ่อปยุตโต ซึ่งท่านได้เอาเนื่องหาในพระไตรปิฏก มาเขียนด้วยสำนวนภาษาไทยในยุคศตวรรษที่ 20 หรือยุคปัจจุบันนี้ จึงเป็นสำนวนที่เราเข้าใจง่ายๆ
และไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังเทียบภาษาอังกฤษให้เราเข้าใจมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างคำว่า "เวทนา" อ่านออกเสียงว่า เว-ทะ-นา (คนละความหมายกับ เวทนาในภาษาไทย ที่ออกเสียงว่าา เวด-ทะ-นา ที่แปลว่าน่าสงสาร น่าเห็นใจ) มีอธิบายภาษาอังกฤษให้ด้วยว่า หมายถึง feeling แปลว่า ความรู้สึก ยิ่งช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้น
ผมขอแนะนำทุกท่าน ทั้งมือใหม่ และมือเก่า เพราะมีบางท่านที่แม้จะศึกษาพระไตรปิฏกมานานแต่กลับไม่ได้เข้าใจอย่างถูกต้องเลย (เพราะฉะนั้น เจ้าของกระทู้ไม่ต้องกังวล)
ใครไม่ชอบอ่านก็ฟังเป็นคลิปเสียงก็ได้ เป็นเสียงของพระอาจารย์กฤช นิมมโล ที่จริงผมเองก็แทบไม่ค่อยได้ฟังหลวงพ่อปยุตโตมากนัก เพราะท่านเน้นวิชาการ แต่บังเอิญมีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งพูดถึงการแสดงความเห็นของผมว่าเหมือนหลวงพ่ออธิบาย ผมก็เลยว่าจะลองฟังดู จึงมีโอกาสได้ฟังคลิปนี้และรู้สึกมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น
(ช่วงแรกๆ จะเป็นประวัติความเป็นมาของพระพุทธศาสนาด้วย)
เจ้าของกระทู้อาจจะคิดว่าตัวเองอ่านแล้วเข้าใจยาก
จากประสบการณ์ของผมที่ได้สนทนากับคนที่เอาพระไตรปิฏกมาโพสต์ แม้จะอยู่มาเป็นสิบปีแล้วก็ตาม ดูเหมือนเป็นผู้รู้ แต่พอผมลองให้อธิบายความหมายหรือตีความพระสูตรนั้นให้ฟัง ตีความไปคนละเรื่องเลย
นั่นหมายความว่า แม้แต่คนที่เอาพระสูตรมาโพสต์เอง ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาที่แท้จริง
ความเห็นผม ถ้าเป็นผู้ที่เข้าใจธรรมะจริงๆ เขาจะไม่ใช้ศัพท์บาลีมากๆ และเวลาที่ยกพระสูตร จะสรุปให้เราด้วย (เพราะเขาจะรู้ว่าไม่มีทางที่จะเข้าใจสำนวนสมัยโบราณแน่ๆ แต่ถ้าขยายความให้ฟังจึงจะเข้าใจ)
สำหรับคำแนะนำของผม เนื่องจากการแปลภาษาบาลีเป็นไทย ใช้สำนวนที่เข้าใจยาก และเป็นสำนวนที่ใช้กันหลายร้อยปีที่แล้ว ดังนั้น ผมขอแนะนำให้ลองอ่านหนังสือชื่อว่า "พุทธธรรม" ของหลวงพ่อปยุตโต ซึ่งท่านได้เอาเนื่องหาในพระไตรปิฏก มาเขียนด้วยสำนวนภาษาไทยในยุคศตวรรษที่ 20 หรือยุคปัจจุบันนี้ จึงเป็นสำนวนที่เราเข้าใจง่ายๆ
และไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังเทียบภาษาอังกฤษให้เราเข้าใจมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างคำว่า "เวทนา" อ่านออกเสียงว่า เว-ทะ-นา (คนละความหมายกับ เวทนาในภาษาไทย ที่ออกเสียงว่าา เวด-ทะ-นา ที่แปลว่าน่าสงสาร น่าเห็นใจ) มีอธิบายภาษาอังกฤษให้ด้วยว่า หมายถึง feeling แปลว่า ความรู้สึก ยิ่งช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้น
ผมขอแนะนำทุกท่าน ทั้งมือใหม่ และมือเก่า เพราะมีบางท่านที่แม้จะศึกษาพระไตรปิฏกมานานแต่กลับไม่ได้เข้าใจอย่างถูกต้องเลย (เพราะฉะนั้น เจ้าของกระทู้ไม่ต้องกังวล)
ใครไม่ชอบอ่านก็ฟังเป็นคลิปเสียงก็ได้ เป็นเสียงของพระอาจารย์กฤช นิมมโล ที่จริงผมเองก็แทบไม่ค่อยได้ฟังหลวงพ่อปยุตโตมากนัก เพราะท่านเน้นวิชาการ แต่บังเอิญมีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งพูดถึงการแสดงความเห็นของผมว่าเหมือนหลวงพ่ออธิบาย ผมก็เลยว่าจะลองฟังดู จึงมีโอกาสได้ฟังคลิปนี้และรู้สึกมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะผู้เริ่มต้น
(ช่วงแรกๆ จะเป็นประวัติความเป็นมาของพระพุทธศาสนาด้วย)
แสดงความคิดเห็น
ทำไมภาษาไทยที่ใช้เกี่ยวกับศาสนาพุทธมันเข้าใจยากจังครับ