สวัสดีครับ วันนี้ผมขออนุญาตตั้งกระทู้นี้มาระบายความรู้สึกหน่อย
ตอนนี้ผมอายุ 34 เมื่อครั้งสมัย ม.ปลาย ผมสอบเช้าเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดได้ และเมื่อเข้าไปเรียน ผมได้สะดุดตาผู้หญิงคนหนึ่งตามประสาวัยรุ่น ขอสมมุติว่าเธอชื่อฟ้า ฟ้าหน้าตาน่ารักตรงใจผมมาก ว่าผมอยากมีแฟนหน้าตาแบบนี้ซึ่ง ผมเรียนอยู่ห้องศิลป์คำนวณ ส่วนฟ้าเรียนอยู่สายภาษา ซึ่งติดกัน แต่ด้วยเราอยู่คนล่ะห้อง ผมเป็นค่อนข้างขี้อายไม่กล้าพูด ฟ้าเองก็คนเงียบๆ มันเลยทำให้ตลอดเวลา 3 ปีที่เรียนกันมา ผมได้แค่แอบมองฟ้า ไม่เคยได้พูดคุยกับฟ้าเลย ซึ่งแม้แต่เพื่อนผม หรือเพื่อนฟ้าก็ไม่รู้ ส่วนตัวฟ้า ผมเองก็ไม่แน่ใจหรือเปล่าว่ามีคนคนหนึ่งแอบชอบฟ้าอยู่หรือเปล่า
เวลาผ่านไปจนเราจบ ม.6 ต่างคน ก็ต่างไปใช้ชีวิตของแต่ล่ะคน เราไม่ได้เจอกันอีกเลย ผมเองก็มีแฟน เลิกแฟน แอบชอบ ฯลฯ ไปเรื่อยๆตามประสาของคนคนหนึ่ง ส่วนฟ้า ผมเองไม่ได้มีความรู้สึกโหยหา แต่อย่างใด แต่ก็อาจจะคิดถึงความหลังตอนเด็กบ้าง ผมเคยค้นหาชื่อเธอในเฟสบุ๊คแต่ก็หาไม่เจอ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร จนเมื่อคืนวันที่ 15 ที่ผ่านมา จู่ๆ ผมก็คิดถึงฟ้าขึ้นมาเฉยๆหลังจากที่ไม่ได้คิดถึงเลยมาหลายปี ก็เลยลองเชิร์ทหาชื่อนามสกุลฟ้าได้เฟส ในกูเกิ้ล แต่ก็หาไม่เจอ ผมรู้สึกไม่ดีตลอดจนมาวันที่ 16 ตอนกลางคืน เพื่อนผมตอนมัธยมก็ส่งข่าวในกลุ่มไลน์ว่าเพื่อนห้องข้างๆเสียชีวิตหลังจากป่วยมานาน
ผมรู้สึกช๊อค เลยเข้าไปดูในเฟสของแม่เธอ และเข้าไปเฟสของเธอที่ติดแท็คไว้ถึงรู้ว่าฟ้าเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 14 เพราะป่วยมาหลายเดือนแล้ว และถูกพากลับจังหวัดบ้านเกิด ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ไหว จู่ๆก็เสียใจ อยากไปหาฟ้าที่วัด ผมพยายามสืบหาจากเพื่อนห้องเดียวกันกับฟ้า ทั้งที่เป็นเพื่อนในเฟสผม และเพื่อนที่เคยเม็นต์ในเฟสเธอ ผมหาเท่าไรก็หาไม่เจอว่าฟ้าอยู่วัดไหน เพราะผมไม่กล้าถามใคร เลยได้โทรหาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนแต่คนล่ะห้องแต่ตอนหลังมาสนิทกันเลยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ สมมุติชื่อ ซี แต่ผมจำผิดคิดว่า ซี อยู่ห้องเดียวกันกับเธอ แต่ ซี อยู่คนล่ะห้อง เลยไม่ได้รู้ข่าวอะไร แต่ก็จำฟ้าได้ ผมเลยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นซีฟัง ซึก็ไล่ผมให้ไปหาอีก แล้วซี มันก็จะพาผมไปเอง เพราะรู้ว่าผมที่อยู่คนล่ะห้องกับเธอไม่เคยแม้กระทั้งคุยไม่กล้าจะไปงานศพเธอ
ผมทนไม่ไหว ผมอธิษฐานในใจ ถ้าอยากให้ผมมา ก็ขอให้ฟ้าช่วยดลใจผมให้หางานของฟ้าให้เจอ จึงลองเชิร์ทชื่อวัดในจังหวัดผม และมันรู้สึกได้ถึงวัดวัดหนึ่ง เหมือนมีอะไรมาดลใจว่าต้องวัดนี้แน่ๆ ผมตัดสินใจเด็ดขาดว่า ถ้าไม่ใช่วัดนี้ผมก็จะเลิกหา วันต่อมาผมจึงขี่รถออกไปดู ไม่ลังเลเลยว่าจะต้องที่นี้ ปรากฏว่า เป็นงานของฟ้าจริงๆ และได้รู้ว่าฟ้าได้เปลี่ยนชื่อจริง แต่ที่ผมทราบว่าใช่งานฟ้าก็เพราะนามสกุล แต่ผมไม่กล้าเข้าไปในงาน ผมเลยชวนซีไปด้วย ผมไม่รู้จะพูดยังไงแต่ซี เลยแนะนำตัวกับฃีพ่อฟ้า แต่ไม่มีเพื่อนของฟ้าเลยสักคน จนพระสวดไประยะ เพื่อนสนิทของฟ้าคนหนึ่งได้เข้ามางาน ผมขอสมมุติว่าชื่อ บี บีเองก็เข้ามาหาเราสองคนก็ได้คุยกับซี เพราะอย่างที่บอกซีเขารู้จักคนไปทั่ว ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนอกจากซี แต่ผมเชื่อว่าบีแปลกใจแน่ๆที่ผมมา ผมจึงเล่าให้บีฟัง ทั้งเรื่องที่ผมเองก็แอบชอบฟ้าตอนม.ปลาย และฟ้าดลใจให้ผมมาวัดถูก บีเองก็อึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะจังหวัดผมมีวัดมากมาย ผมรู้ได้ยังไงว่าเป็นวัดนี้ และบีเองก็เล่าว่าตอนแรกเองเธอก็แปลกใจว่าทำไมผมถึงมา เพราะถึงเราจะเรียนด้วยกันมาแต่ก็อยู่คนล่ะห้องและไม่เคยคุยกัน จึงรู้ว่าฟ้าป่วยเป็นโรคชนิดหนึ่งมานานแล้ว แล้วมาทรุดหนักไม่กี่เดือน วันต่อมาผมก็ไปงานเธอกับซีอีก แต่ก็ไม่เห็น บี แต่เมื่อวานไม่กล้าไป เพราะซีเองไม่ว่าง และยอมรับว่าไม่อยากให้เรื่องนี้ไปเล่าปากต่อปาก ไม่อยากจะสร้างกระแส เพราะทั้งหมด มันอาจจะเป็นความบังเอิญที่ผมคิดไปเอง
แต่ที่ผมมาเล่าที่นี้ ผมแค่ขออนุญาตที่จะระบายในอีกพื้นที่ที่ไม่น่าจะรู้จักตัวตนของเรา ความรู้สึกผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ฟ้าไม่ใช่รักแรกของผม ผมเคยอกหักฝั่งใจกับผู้หญิงคนอื่นยิ่งกว่านี้ ไม่เคยมีความรู้สึกโหยหา บางครั้งเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าถ้ากลับมาแล้วเจอฟ้าแต่งงานมีลูกไปแล้ว ผมก็ไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อวันนี้ วันที่ผมกลับมาเจอฟ้าอีกเธอก็จากไปแล้ว ผมเคยเสียเพื่อนสนิท เพื่อนที่เล่นกันมา แต่มันไม่ได้ถึงขนาดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก หรือฟ้าเองอาจจะรู้ว่าตอนนั้นผมเองก็แอบชอบ เลยดลใจให้ผมมาหาเธอซึ่งผมเองก็ไม่รู้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ตอนนี้ว่าวันนั้น ผมเองไม่น่าจะปากหนัก น่าจะบอกสิ่งที่อยากพูดไป ถึงจะไม่ได้คำว่าสมหวัง ผมก็คงไม่รู้สึกแย่เหมือนตอนนี้
คนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นสิบปี ทำไมทำให้เรารู้สึกถึงขนาดนี้
ตอนนี้ผมอายุ 34 เมื่อครั้งสมัย ม.ปลาย ผมสอบเช้าเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดได้ และเมื่อเข้าไปเรียน ผมได้สะดุดตาผู้หญิงคนหนึ่งตามประสาวัยรุ่น ขอสมมุติว่าเธอชื่อฟ้า ฟ้าหน้าตาน่ารักตรงใจผมมาก ว่าผมอยากมีแฟนหน้าตาแบบนี้ซึ่ง ผมเรียนอยู่ห้องศิลป์คำนวณ ส่วนฟ้าเรียนอยู่สายภาษา ซึ่งติดกัน แต่ด้วยเราอยู่คนล่ะห้อง ผมเป็นค่อนข้างขี้อายไม่กล้าพูด ฟ้าเองก็คนเงียบๆ มันเลยทำให้ตลอดเวลา 3 ปีที่เรียนกันมา ผมได้แค่แอบมองฟ้า ไม่เคยได้พูดคุยกับฟ้าเลย ซึ่งแม้แต่เพื่อนผม หรือเพื่อนฟ้าก็ไม่รู้ ส่วนตัวฟ้า ผมเองก็ไม่แน่ใจหรือเปล่าว่ามีคนคนหนึ่งแอบชอบฟ้าอยู่หรือเปล่า
เวลาผ่านไปจนเราจบ ม.6 ต่างคน ก็ต่างไปใช้ชีวิตของแต่ล่ะคน เราไม่ได้เจอกันอีกเลย ผมเองก็มีแฟน เลิกแฟน แอบชอบ ฯลฯ ไปเรื่อยๆตามประสาของคนคนหนึ่ง ส่วนฟ้า ผมเองไม่ได้มีความรู้สึกโหยหา แต่อย่างใด แต่ก็อาจจะคิดถึงความหลังตอนเด็กบ้าง ผมเคยค้นหาชื่อเธอในเฟสบุ๊คแต่ก็หาไม่เจอ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร จนเมื่อคืนวันที่ 15 ที่ผ่านมา จู่ๆ ผมก็คิดถึงฟ้าขึ้นมาเฉยๆหลังจากที่ไม่ได้คิดถึงเลยมาหลายปี ก็เลยลองเชิร์ทหาชื่อนามสกุลฟ้าได้เฟส ในกูเกิ้ล แต่ก็หาไม่เจอ ผมรู้สึกไม่ดีตลอดจนมาวันที่ 16 ตอนกลางคืน เพื่อนผมตอนมัธยมก็ส่งข่าวในกลุ่มไลน์ว่าเพื่อนห้องข้างๆเสียชีวิตหลังจากป่วยมานาน
ผมรู้สึกช๊อค เลยเข้าไปดูในเฟสของแม่เธอ และเข้าไปเฟสของเธอที่ติดแท็คไว้ถึงรู้ว่าฟ้าเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 14 เพราะป่วยมาหลายเดือนแล้ว และถูกพากลับจังหวัดบ้านเกิด ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ไหว จู่ๆก็เสียใจ อยากไปหาฟ้าที่วัด ผมพยายามสืบหาจากเพื่อนห้องเดียวกันกับฟ้า ทั้งที่เป็นเพื่อนในเฟสผม และเพื่อนที่เคยเม็นต์ในเฟสเธอ ผมหาเท่าไรก็หาไม่เจอว่าฟ้าอยู่วัดไหน เพราะผมไม่กล้าถามใคร เลยได้โทรหาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนแต่คนล่ะห้องแต่ตอนหลังมาสนิทกันเลยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ สมมุติชื่อ ซี แต่ผมจำผิดคิดว่า ซี อยู่ห้องเดียวกันกับเธอ แต่ ซี อยู่คนล่ะห้อง เลยไม่ได้รู้ข่าวอะไร แต่ก็จำฟ้าได้ ผมเลยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นซีฟัง ซึก็ไล่ผมให้ไปหาอีก แล้วซี มันก็จะพาผมไปเอง เพราะรู้ว่าผมที่อยู่คนล่ะห้องกับเธอไม่เคยแม้กระทั้งคุยไม่กล้าจะไปงานศพเธอ
ผมทนไม่ไหว ผมอธิษฐานในใจ ถ้าอยากให้ผมมา ก็ขอให้ฟ้าช่วยดลใจผมให้หางานของฟ้าให้เจอ จึงลองเชิร์ทชื่อวัดในจังหวัดผม และมันรู้สึกได้ถึงวัดวัดหนึ่ง เหมือนมีอะไรมาดลใจว่าต้องวัดนี้แน่ๆ ผมตัดสินใจเด็ดขาดว่า ถ้าไม่ใช่วัดนี้ผมก็จะเลิกหา วันต่อมาผมจึงขี่รถออกไปดู ไม่ลังเลเลยว่าจะต้องที่นี้ ปรากฏว่า เป็นงานของฟ้าจริงๆ และได้รู้ว่าฟ้าได้เปลี่ยนชื่อจริง แต่ที่ผมทราบว่าใช่งานฟ้าก็เพราะนามสกุล แต่ผมไม่กล้าเข้าไปในงาน ผมเลยชวนซีไปด้วย ผมไม่รู้จะพูดยังไงแต่ซี เลยแนะนำตัวกับฃีพ่อฟ้า แต่ไม่มีเพื่อนของฟ้าเลยสักคน จนพระสวดไประยะ เพื่อนสนิทของฟ้าคนหนึ่งได้เข้ามางาน ผมขอสมมุติว่าชื่อ บี บีเองก็เข้ามาหาเราสองคนก็ได้คุยกับซี เพราะอย่างที่บอกซีเขารู้จักคนไปทั่ว ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนอกจากซี แต่ผมเชื่อว่าบีแปลกใจแน่ๆที่ผมมา ผมจึงเล่าให้บีฟัง ทั้งเรื่องที่ผมเองก็แอบชอบฟ้าตอนม.ปลาย และฟ้าดลใจให้ผมมาวัดถูก บีเองก็อึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะจังหวัดผมมีวัดมากมาย ผมรู้ได้ยังไงว่าเป็นวัดนี้ และบีเองก็เล่าว่าตอนแรกเองเธอก็แปลกใจว่าทำไมผมถึงมา เพราะถึงเราจะเรียนด้วยกันมาแต่ก็อยู่คนล่ะห้องและไม่เคยคุยกัน จึงรู้ว่าฟ้าป่วยเป็นโรคชนิดหนึ่งมานานแล้ว แล้วมาทรุดหนักไม่กี่เดือน วันต่อมาผมก็ไปงานเธอกับซีอีก แต่ก็ไม่เห็น บี แต่เมื่อวานไม่กล้าไป เพราะซีเองไม่ว่าง และยอมรับว่าไม่อยากให้เรื่องนี้ไปเล่าปากต่อปาก ไม่อยากจะสร้างกระแส เพราะทั้งหมด มันอาจจะเป็นความบังเอิญที่ผมคิดไปเอง
แต่ที่ผมมาเล่าที่นี้ ผมแค่ขออนุญาตที่จะระบายในอีกพื้นที่ที่ไม่น่าจะรู้จักตัวตนของเรา ความรู้สึกผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ฟ้าไม่ใช่รักแรกของผม ผมเคยอกหักฝั่งใจกับผู้หญิงคนอื่นยิ่งกว่านี้ ไม่เคยมีความรู้สึกโหยหา บางครั้งเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าถ้ากลับมาแล้วเจอฟ้าแต่งงานมีลูกไปแล้ว ผมก็ไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อวันนี้ วันที่ผมกลับมาเจอฟ้าอีกเธอก็จากไปแล้ว ผมเคยเสียเพื่อนสนิท เพื่อนที่เล่นกันมา แต่มันไม่ได้ถึงขนาดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก หรือฟ้าเองอาจจะรู้ว่าตอนนั้นผมเองก็แอบชอบ เลยดลใจให้ผมมาหาเธอซึ่งผมเองก็ไม่รู้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ตอนนี้ว่าวันนั้น ผมเองไม่น่าจะปากหนัก น่าจะบอกสิ่งที่อยากพูดไป ถึงจะไม่ได้คำว่าสมหวัง ผมก็คงไม่รู้สึกแย่เหมือนตอนนี้